พอพูดถึงการเสียภาษีเงินได้หลายคนอาจกังวลว่าต้องทำยังไงบ้าง โดยเฉพาะเหล่ามนุษย์เงินเดือนมือใหม่ที่ยังไม่เคยจ่ายภาษีมาก่อนอาจยังไม่เข้าใจว่าเราต้องเสียภาษีเท่าไหร่และลดหย่อนภาษีได้ยังไงบ้าง หรือใครที่เคยจ่ายภาษีแล้วแต่อยากวางแผนภาษีเพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายมากขึ้นก็ตามมาฟังน้องน่าอยู่ได้เลยครับ วันนี้น้องน่าอยู่จะพาทุกคนไปวางแผนภาษีเพื่อให้มีเงินเก็บมากขึ้นกัน ไปดูกันเลยครับ

วางแผนภาษี สำคัญยังไง

วางแผนภาษี สำคัญยังไง

ก่อนอื่นเรามาดูกันเลยครับว่าการวางแผนภาษีสำคัญยังไง ? ตามกฎหมายประมวลรัษฎากร ใครที่มีเงินได้สุทธิเกิน 150,000 ต่อปี ต้องทำการเสียภาษีเงินได้ตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนดไว้ แต่รัฐบาลก็มีเงื่อนไขให้เราทุกคนสามารถลดหย่อนภาษีได้ เพื่อเป็นการเสียภาษีเงินได้ให้น้อยลง ไม่ต้องเสียภาษีเงินได้มากจนเกินไปนั่นเองครับ

ในการวางแผนภาษีนั้น เราไม่ได้จะเลี่ยงภาษี หรือหนีภาษีแต่อย่างใดนะครับ แต่เป็นสิทธิตามกฎหมายที่เราสามารถลดหย่อนภาษีได้ รวมถึงภาครัฐต้องการกระตุ้นประชาชนให้เกิดการออม การลงทุน และเกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยครับ ดังนั้นเราไปดูกันเลยครับว่าเราจะวางแผนภาษีอย่างไรได้บ้าง

ประเมินเงินได้เพื่อคำนวณภาษีเบื้องต้น

ก่อนที่เราจะทำการวางแผนภาษี เราต้องรู้ก่อนว่าเรามีเงินได้เท่าไหร่และจะต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเท่าไหร่ เพื่อที่จะวางแผนภาษีได้อย่างครอบคลุมนั่นเอง ซึ่งฐานการเสียภาษีเงินได้จะขึ้นอยู่กับรายได้สุทธิต่อปีของแต่ละคน ดังนี้ครับ

ประเมินเงินได้เพื่อคำนวณภาษีเบื้องต้น

ยกตัวอย่าง น้องน่าอยู่มีเงินเดือนเดือนละ 25,000 บาท แสดงว่าน้องน่าอยู่มีรายได้ต่อปี 25,000 x 12 = 300,000 บาท ซึ่งจัดอยู่ในฐานเสียภาษีเงินได้ อัตราภาษี 5% ทำให้น้องน่าอยู่ต้องเสียภาษี 300,000 x 5% = 15,000 บาท

ถือว่าเป็นจำนวนเงินที่เยอะใช่มั้ยล่ะครับ แต่ถ้าน้องน่าอยู่มีการวางแผนภาษีและรู้จักการลดหย่อนภาษีจะช่วยประหยัดภาษีลงไปได้อีกนะครับ เพราะฉะนั้นเราไปทำความรู้จักการลดหย่อนภาษีกันต่อเลยครับ

ศึกษาสิทธิลดหย่อนภาษี

ศึกษาสิทธิลดหย่อนภาษี

ก่อนทำการวางแผนภาษี เราควรหมั่นคอยติดตามข่าวสารเสมอว่าหลักเกณฑ์เงื่อนไขคืนภาษีแต่ละปีเป็นอย่างไรบ้าง เพื่อจะได้เตรียมวางแผนภาษีไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ นะครับ ซึ่งรายการลดหย่อนภาษีปี 2566 ที่ทุกคนต้องเตรียมยื่นภาษี 2567 จะมีอะไรบ้าง น้องน่าอยู่ได้รวบรวมมาให้ทุกคนแล้วครับ

ใครที่สนใจอยากอ่านศึกษารายการลดหย่อนภาษีเพิ่มเติมว่ามีอะไรบ้าง สามารถตามไปอ่านกันได้ที่ ยื่นภาษี 2567 ขอคืนภาษีอย่างไร มีขั้นตอนอย่างไรบ้าง ได้เลยครับ

โดยในบทความนี้น้องน่าอยู่ได้สรุปรายการลดหย่อนภาษีออกมาเป็น 5 ประเภท ให้ทุกคนเข้าใจง่าย ๆ ได้แก่

  1. ลดหย่อนภาษีส่วนตัวและครอบครัว เป็นรายการลดหย่อนภาษีเกี่ยวกับภาษีส่วนตัวและครอบครัว ลดหย่อนคู่สมรส ค่าคลอดบุตร หรือค่าเลี้ยงดูบิดามารดา
  2. ลดหย่อนภาษีด้วยเบี้ยประกัน เป็นรายการลดหย่อนภาษีเกี่ยวกับเบี้ยประกัน ไม่ว่าจะเป็นเบี้ยประกันสุขภาพของตัวเองหรือเบี้ยประกันสุขภาพของบิดามารดา
  3. ลดหย่อนภาษีด้วยกองทุน เป็นรายการลดหย่อนภาษีเกี่ยวกับกองทุน ทำให้คนมักลงทุนในกองทุนเพื่อนำมาใช้ลดหย่อนภาษีนั่นเอง
  4. ลดหย่อนภาษีด้วยเงินบริจาค เป็นรายการลดหย่อนภาษีเกี่ยวกับเงินบริจาค นอกจากเงินบริจาคของเราจะได้ช่วยเหลือผู้อื่นแล้ว ยังสามารถนำมาใช้ลดหย่อนภาษีได้อีกด้วยนะครับ
  5. ลดหย่อนภาษีด้วยมาตรการรัฐ ภาครัฐมักมีมาตรการออกมาเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ อย่างในรายการลดหย่อนภาษีปี 2566 ก็มีมาตรการดอกเบี้ยที่อยู่อาศัย ที่สามารถนำมาลดหย่อนคืนภาษีภาษีได้ไม่เกิน 100,000 บาท และ โครงการช้อปดีมีคืน ที่สามารถนำมาหักลดหย่อนได้สูงสุดไม่เกิน 40,000 บาท

สำหรับในปี 2567 ก็มีโครงการ Easy E-Receipt จากภาครัฐที่สามารถช่วยลดหย่อนภาษีได้ ใครที่อยากศึกษาเกี่ยวกับโครงการนี้เพิ่มเติม เพื่อเตรียมวางแผนลดหย่อนภาษี สามารถตามไปอ่านกันได้ที่ สายช้อปต้องรู้ Easy E-Receipt 2567 ซื้ออะไรได้ลดหย่อนภาษีบ้าง กันได้เลยครับ

วางแผนการออมและการลงทุน

วางแผนการออมและการลงทุน

เมื่อเรารู้แล้วว่ามีรายการอะไรที่ลดหย่อนภาษีได้บ้าง ต่อมาเราก็ทำการวางแผนภาษีได้เลยครับว่าเราสามารถนำรายการไหนไปลดหย่อนภาษีได้บ้าง ในบทความนี้น้องน่าอยู่จะแนะนำการลงทุนที่สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้แถมยังช่วยสร้างนิสัยการออมอีกด้วย นั่นก็คือกองทุน SSF และ RMF ครับ

ทำความรู้จักกองทุน SSF และ RMF

การลงทุนในกองทุน SSF และ RMF เป็นการลงทุนยอดนิยมที่คนมักใช้ลดหย่อนภาษี ซึ่งทั้ง 2 กองทุนจะมีรายละเอียดอย่างไรและแตกต่างกันอย่างไร ตามน้องน่าอยู่ไปดูกันเลยครับ

กองทุน SSF คือ กองทุนรวมเพื่อส่งเสริมการออมระยะยาว โดย SSF ย่อมาจาก Super Saving Funds โดยมีวัตถุประสงค์ คือ ส่งเสริมให้ประชาชนมีการออมระยะยาวมากขึ้น และยังสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ด้วย

ส่วนกองทุน RMF คือ Retirement Mutual Fund หรือ กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ เป็นกองทุนรวมที่จัดตั้งขึ้นมาเพื่อสนับสนุนให้คนไทยเก็บออมระยะยาวเพื่อเอาไว้ใช้จ่ายในยามเกษียณอายุ เพราะต้องถือครองนานกว่า SFF โดยจะขายคืนได้เมื่ออายุไม่ต่ำกว่า 55 ปี

สำหรับรายละเอียดเงื่อนไขและความแตกต่างของทั้ง 2 กองทุน น้องน่าอยู่ได้สรุปไว้ในตาราง ดังนี้ครับ

เมื่อเราทำความเข้าใจเรื่องการลดหย่อนภาษีและการลงทุนเรียบร้อยแล้ว น้องน่าอยู่จะพาไปดูตัวอย่างกรณีที่เราวางแผนภาษีกันครับ ว่าจะช่วยลดหย่อนภาษีได้ยังไงบ้าง

ยกตัวอย่างหลังจากน้องน่าอยู่เรียนรู้การวางแผนภาษีเรียบร้อยแล้ว น้องน่าอยู่มีเงินเดือนเดือนละ 25,000 บาท มีรายได้ต่อปี 300,000 บาท ซึ่งจัดอยู่ในฐานเสียภาษีเงินได้ อัตราภาษี 5% ทำให้น้องน่าอยู่ต้องเสียภาษี 15,000 บาท

เมื่อน้องน่าอยู่เรียนรู้การวางแผนภาษีเพื่อลดหย่อนภาษี พบว่าน้องน่าอยู่มีรายการที่ลดหย่อนภาษีได้ ดังนี้

ค่าลดหย่อนส่วนตัว จำนวน 60,000 บาท

  • ค่าลดหย่อนประกันสังคม จำนวน 8,400 บาท (เดือนละ700บาท)
  • ค่าลดหย่อนเบี้ยประกันชีวิต จำนวน 30,000 บาท (เดือนละ 2,500บาท)
  • ค่าลดหย่อนกองทุน RMF 30,000 บาท (ลดหย่อนได้สูงสุด 30% ของรายได้)
  • ค่าลดหย่อนเงินบริจาคเพื่อการศึกษา 2,000 บาท (น้องน่าอยู่บริจาคเพื่อการศึกษา 1,000บาท สามารถลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่าแต่ไม่เกิน10%ของรายได้)
  • ค่าลดหย่อนดอกเบี้ยบ้าน จำนวน 100,000 บาท
  • ค่าลดหย่อนโครงการช้อปดีมีคืน 2,000 บาท

รวมรายการที่ลดหย่อนภาษีทั้งหมด 232,400 บาท

ดังนั้นน้องน่าอยู่มีรายได้ต่อปี = 300,000 - 232,400 = 67,600 บาท ซึ่งอยู่ในเกณฑ์รายได้ 0 - 150,000 บาท ได้รับการยกเว้นภาษี

จะเห็นได้ว่าการวางแผนภาษีมีประโยชน์จริง ๆ ครับ เพราะนอกจากจะช่วยประหยัดเงิน ทำให้เก็บเงินได้มากขึ้น ยังช่วยสร้างนิสัยการออม มีเงินไว้วางแผนใช้ยามเกษียณหรือวางแผนการเงินเพื่อเป้าหมายอื่นต่อไปได้ด้วย รู้อย่างนี้แล้ว ทุกคนอย่าลืมเตรียมตัววางแผนภาษีกันในทุกปีนะครับ

บทสรุป

จบกันไปแล้วกับการทำความรู้จักการวางแผนภาษีที่น้องน่าอยู่นำมาฝากทุกคนกัน จะเห็นว่าการวางแผนภาษีช่วยลดหย่อนภาษีไปได้เยอะเลยใช่มั้ยครับ หวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับใครที่กำลังวางแผนภาษีจะนำไปปรับใช้เป็นแนวทางกันได้นะครับ อย่างไรก็ตามนี่เป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้นเท่านั้น ทุกคนอย่าลืมศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมก่อนทำการลดหย่อนภาษีกันด้วยนะครับ

สำหรับใครที่กำลังมองหาซื้อบ้านเดี่ยวและคอนโดอยู่ สามารถเข้ามาเลือกชม โครงการบ้านใหม่พร้อมอยู่ และ โครงการคอนโด ได้ที่เว็บไซต์น่าอยู่ แหล่งรวมประกาศขายบ้านเดี่ยว โครงการบ้านจัดสรรและคอนโด แนะนำโครงการใหม่พร้อมอยู่ทุกทำเล ที่มาพร้อมกับดีไซน์ สไตล์บ้านที่หลากหลาย ตอบโจทย์การใช้ชีวิตตามไลฟ์สไตล์ที่คุณชอบ มีให้เลือกกว่า 1,300 โครงการและยังมีสาระน่ารู้ต่าง ๆ เกี่ยวกับการบ้านที่น่าสนใจมาให้ทุกคนได้อ่านกันอีกด้วย

บทความแนะนำ

อ้างอิง

กดติดตาม "ขอนแก่นน่าอยู่" เพื่อ หาบ้านมือ 1, หาคอนโด, บ้านมือ 2, ที่ดิน รวมถึงหาเช่า/หอพักทั่วเมืองขอนแก่นเพิ่มเติมได้ที่บนเว็บไซต์