ทุกคนเคยไหม? ที่ต้องเจอเพื่อนบ้านเสียงดัง ไม่ว่าจะเสียงเพลง เสียงปาร์ตี้ หรือเสียงโหวกเหวกโวยวายจนไม่ได้พักผ่อน แม้พยายามจะพูดด้วยดีแล้ว ก็ยังไม่ปรับตัวสักที ซึ่งปัญหานี้ไม่เพียงแค่สร้างความรำคาญแต่ยังละเมิดสิทธิในการอาศัยอยู่ร่วมกันอีกด้วย และถ้าการพูดคุยไม่ใช่สันติของทางออก คงต้องใช้ “กฎหมาย” เข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาแล้ว

แล้วต้องเสียงดังขนาดไหนล่ะ? ถึงเข้าข่ายผิดกฎหมาย และขั้นตอนการจัดการปัญหากับเพื่อนบ้านสามารถทำด้วยวิธีใดบ้าง เดี๋ยวน้องน่าอยู่จะมาสรุปให้ทุกคนเข้าใจเองครับ

เพื่อนบ้านเสียงดังแค่ไหนถึงผิดกฎหมาย

เพื่อนบ้านเสียงดังแค่ไหนถึงผิดกฎหมาย

หลายคนคงสงสัยว่า “เพื่อนบ้านเสียงดังระดับไหน” ถึงจะผิดกฎหมาย และสามารถร้องเรียนได้จริง ๆ โดยกฎหมายไทยได้กำหนดมาตรฐานของ “เหตุรำคาญ” ตาม พ.ร.บ. สาธารณสุขไว้อย่างชัดเจน เพื่อความสงบเรียบร้อยในการอยู่ร่วมกันในชุมชน ซึ่งจะพิจารณาจากระดับความดังของเสียง (หน่วยเดซิเบล หรือ dBA) และช่วงเวลาที่เกิดเสียง

ในกรณี การก่อสร้างหรือต่อเติมบ้าน แม้เสียงดังจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ก็อยู่ภายใต้ข้อกำหนดของ ข้อบัญญัติกรุงเทพมหานครฯ เรื่องควบคุมอาคาร ได้ระบุไว้ดังนี้

  • ห้ามทำให้เกิดเสียงดังเกิน 75 เดซิเบล เมื่อตรวจวัดในระยะ 30 เมตรจากแหล่งกำเนิด
  • ห้ามดำเนินการก่อสร้างที่มีเสียงดังในช่วงเวลา 22:00 น. - 06:00 น. เว้นแต่จะได้รับอนุญาตเป็นกรณีพิเศษ และมีการติดตั้งอุปกรณ์ลดเสียงรบกวนที่เหมาะสม

ในกรณี เสียงดังยามวิกาลหรือปัญหากับเพื่อนบ้าน เช่น การจัดงานสังสรรค์ เปิดเพลงเสียงดัง รวมถึงเสียงอื่น ๆ ที่เกิดขึ้นจากตัวบุคคล โดยตามประกาศของ คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ก็มีข้อกำหนดดังนี้

  • ห้ามทำให้เกิดเสียงดังเกิน 10 เดซิเบล หลังช่วงเวลา 22:00 น. - 06:00 น. เมื่อเทียบกับระดับพื้นฐานบริเวณนั้น และหากมีเสียงดังเกินข้อกำหนดดังกล่าว ก็สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ให้ดำเนินการตามกฎหมายได้

ปัญหาเสียงดังจากเพื่อนบ้าน มีกี่แบบ

ปัญหาเสียงดังจากเพื่อนบ้าน มีกี่แบบ

ปัญหาจากเพื่อนบ้านเสียงดังมีหลายรูปแบบ ซึ่งแต่ละแบบก็สร้างความรำคาญและส่งผลต่อการใช้ชีวิตของเราแตกต่างกันไป บางครั้งอาจมองเป็นเรื่องเล็ก แต่ถ้าเกิดขึ้นซ้ำ ๆ ก็จะสะสมเป็นความเครียดได้เช่นกัน มาดูกันว่าปัญหาเสียงดังจากเพื่อนบ้านมีประเภทใดบ้างที่พบบ่อย

1. เสียงพูดคุยหรือทะเลาะวิวาทเสียงดัง

หากเป็นเสียงพูดคุยในระดับปกติอาจไม่เป็นปัญหา แต่เมื่อเพื่อนบ้านพูดเสียงดังเกินไป หรือมีการทะเลาะส่งเสียงโวยวายโดยไม่นึกถึงคนรอบข้าง แน่นอนว่าจะสร้างความรำคาญและรบกวนคนที่ต้องการพักผ่อนหรือความสงบได้

2. เสียงจากเพลงหรือเสียงทีวีที่ดุดันไม่เกรงใจใคร

เชื่อว่าบางคนคงมีรสนิยมที่ชอบเปิดเพลงหรือดูทีวีเสียงดังเพื่อให้ได้อรรถรส แต่ก็คงลืมเหมือนกันว่าเพื่อนบ้านไม่ได้ชอบฟังด้วย ซึ่งปัญหาส่วนใหญ่จะพบตอนช่วงเวลาพักผ่อน หรือรบกวนระหว่างการทำงาน

3. เสียงจากการจัดงานสังสรรค์ปาร์ตี้

แน่นอนว่าการสังสรรค์ตามวาระต่าง ๆ ย่อมมีเสียงหัวเราะ พูดคุย และเสียงเพลงสนุกสนาน แต่สำหรับเพื่อนบ้านรอบข้างที่ต้องการพักผ่อน อาจกลายเป็นความรำคาญได้ง่าย ๆ โดยเฉพาะเมื่อมีการปาร์ตี้จนถึงดึกหรือยันเช้า ซึ่งเข้าข่าย “การก่อเสียงดังรบกวนยามวิกาล” ตามกฎหมายได้เหมือนกัน

4. เสียงจากการซ่อมบำรุงหรือปรับปรุงบ้าน

เสียงตอก เจาะ เลื่อย หรือเสียงเครื่องมือช่างต่าง ๆ นับเป็นเสียงรบกวนยอดฮิตที่หลอนหูสำหรับคนที่ต้องการพักผ่อน แม้ปัจจัยเหล่านี้จะหลีกเลี่ยงได้ยาก แต่หากดำเนินการในช่วงเช้าตรู่หรือมืดค่ำโดยไม่ได้แจ้งให้เพื่อนบ้านทราบล่วงหน้า ก็ถือว่าสร้างความเดือดร้อนและรบกวนอย่างมาก

5 วิธีรับมือเพื่อนบ้านเสียงดัง

ในสถานการณ์ที่ต้องมีปัญหากับเพื่อนบ้าน ไม่ว่าจะเป็นเสียงพูดคุย ปาร์ตี้เฮฮาหรือเสียงต่อเติมบ้านที่ดังรบกวนในเวลาที่ไม่เหมาะสม การเตรียมพร้อมที่จะรับมือก็เป็นวิธีแก้ไขปัญหาที่สำคัญ เพราะถ้าเราแก้ปัญหากันด้วยอารมณ์ อาจทำให้สถานการณ์แย่ลงได้ ดังนั้นน้องน่าอยู่จึงรวบรวม 5 วิธีรับมือเพื่อนบ้านเสียงดัง ที่จะช่วยให้ทุกคนจัดการปัญหานี้ได้สบาย ๆ

1. พูดคุยเจรจาอย่างสันติ

วิธีแก้ปัญหาเพื่อนบ้านเสียงดัง ควรเริ่มจากการ “พูดคุยกันอย่างสันติ” เพื่อแจ้งให้เขาให้ทราบถึงปัญหาเสียงรบกวนด้วยน้ำเสียงสุภาพและท่าทีที่เป็นมิตร ควรเลือกเวลาที่เหมาะสม เช่น ช่วงเวลากลางวัน และหลีกเลี่ยงการใช้อารมณ์ ซึ่งหากยังเสียงดังอยู่ อาจขอให้ความร่วมมือไม่ส่งเสียงดังเกินในช่วงเวลาที่ไม่ควร โดยวิธีนี้ถือเป็นแนวทางการแก้ปัญหากับเพื่อนบ้าน ที่สร้างความเข้าใจกันได้ดีที่สุด

2. ขอความช่วยเหลือจากนิติบุคคล (สำหรับคอนโด และหมู่บ้านจัดสรร)

หากวิธีพูดคุยกับเพื่อนบ้านแล้วไม่ได้ผล การขอความช่วยเหลือจาก นิติบุคคลคอนโดหรือหมู่บ้านจัดสรร ก็ถือเป็นทางออกที่เหมาะสม เพราะนิติบุคคลมีหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อยภายในพื้นที่ สามารถเป็นตัวกลางในการเจรจาตามระเบียบของโครงการได้ วิธีนี้ช่วยลดการเผชิญหน้าโดยตรงและทำให้ปัญหากับเพื่อนบ้าน ได้รับการแก้ไขอย่างเหมาะสม

3. ใช้วัสดุดูดซับเสียง

เมื่อการแก้ปัญหากับเพื่อนบ้านเป็นเรื่องยาก การป้องกันเสียงดังก็สามารถทำด้วยตัวเองง่าย ๆ เช่นวัสดุดูดซับเสียงอย่างผ้าม่าน พรมหนา ๆ และวอลล์เปเปอร์ชนิดโฟมเพื่อช่วยดูดเสียงที่ผ่านเข้ามาในห้อง รวมถึงปิดช่องโหว่ของหน้าต่างและบานพับประตูให้สนิทด้วยแผ่นยางซิลิโคน หากยังป้องกันได้ไม่หมด อาจลงทุนติดตั้งฉนวนกันเสียงเพิ่มเติมที่ผนังฝั่งที่ติดกับเพื่อนบ้านไปเลย

4. ป้องกันเสียงด้วยการวางเฟอร์นิเจอร์ชิดผนัง

การจัดวางเฟอร์นิเจอร์ขนาดใหญ่ เช่น ตู้เสื้อผ้าหรือตู้หนังสือชิดผนังฝั่งที่มีเสียงแทรกเข้ามา ก็สามารถช่วยลดเสียงรบกวนจากเพื่อนบ้านได้เหมือนกันนะ นอกจากนี้การติดตั้งเฟอร์นิเจอร์แบบบิวท์อินก็ช่วยลดการส่งผ่านเสียงเข้ามาที่ห้องได้อีกด้วย

5. แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ (กรณีพูดคุยหาข้อตกลงไม่ได้)

ถ้าการเจรจาแบบใจเย็นและแจ้งนิติบุคคลยังไม่สามารถแก้ปัญหากับเพื่อนบ้านได้ และยังพบปัญหาเสียงดังอยู่ การขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาช่วยแก้ปัญหาก็เป็นสิทธิ์ทางกฎหมายที่เราสามารถดำเนินการได้ ซึ่งจำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับข้อกฎหมายบังคับสำหรับผู้ที่ก่อความเดือดร้อนประเภทนี้ด้วย

จัดการปัญหาเพื่อนบ้านเสียงดังด้วยกฎหมาย ทั้งแพ่งและอาญา

จัดการปัญหาเพื่อนบ้านเสียงดังด้วยกฎหมาย ทั้งแพ่งและอาญา

แน่นอนว่าในการแก้ปัญหาเสียงดังจากเพื่อนบ้านเราก็อยากจะใช้วิธีที่ที่ไม่ทำให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งต้องเดือดร้อนหรือลำบากใจ ซึ่งอาจเริ่มด้วยการเจรจาปรับความเข้าใจและหาแนวทางการแก้ไขปัญหาร่วมกัน แต่เมื่อมีปัญหากับเพื่อนบ้านที่สร้างความรำคาญและไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ด้วยการตกลงกัน ก็อาจจะต้องร้องเรียนเจ้าหน้าที่เพื่อดำเนินการตามกฎหมายที่มีการกำหนดไว้ โดยกฎหมายที่สามารถเอาผิดฟ้องร้องได้มีทั้งกฎหมายแพ่งและ อาญา ดังนี้

  1. ตามข้อมูลประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ของสถาบันนิติธรรมาลัย มาตรา 420 และ 421 ระบุไว้ว่า ผู้ใดจงใจหรือประมาททำให้เกิดความเสียหายต่อบุคคลอื่นทั้งในด้านชีวิต ร่างกาย อนามัย เสรีภาพ และทรัพย์สินหรือสิทธิของบุคคลนั้น ๆ เช่นการก่อให้เกิดเสียงดังรบกวน ศาลสามารถตัดสินความผิดให้เพื่อนบ้านหยุดการส่งเสียงดังรบกวน และต้องจ่ายค่าสินไหมทดแทน
  2. ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 370 ระบุไว้ว่าผู้ใดส่งเสียง หรือทำให้เกิดเสียงรบกวนโดยไม่มีเหตุอันสมควร จนทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน จะต้องรับโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท

สรุป เพื่อนบ้านเสียงดัง รับมืออย่างไร

การพบกับปัญหาที่ เพื่อนบ้านเสียงดัง เชื่อว่าทุกคนคงไม่มีใครอยากเจอ แต่ถ้าหากมันเกิดขึ้นแล้ว การที่เรารู้ถึงวิธีการจัดการปัญหาก็เป็นทางออกที่ดีที่สุด คือเริ่มจากการพูดคุยกันด้วยความสุภาพใจเย็นเพื่อให้เขารับรู้ถึงผลกระทบที่เกิดขึ้น ถ้าหากปัญหายังไม่ดีขึ้นอาจใช้วิธีลดเสียงรบกวนภายในบ้านด้วยตนเอง หรือแจ้งนิติบุคคลสำหรับคอนโด และหมู่บ้านจัดสรร รวมถึงสามารถเก็บหลักฐานเพื่อดำเนินการตามกฎหมายได้ ดังนั้นการแก้ปัญหาควรยึดหลักการจัดการอย่างใจเย็น มีสติ และใช้เหตุผล เพื่อรักษาความสัมพันธ์กับเพื่อนบ้านให้ดีและเพื่อให้การอาศัยอยู่ร่วมกันเป็นไปอย่างสงบสุข

คำถามที่พบบ่อย

สำหรับคนที่อาศัยอยู่ที่พัก ไม่ว่าจะเป็นบ้านหรือคอนโด แล้วมักเจอปัญหา เพื่อนบ้านเสียงดัง โดยจะทำอะไรก็จะต้องมีเสียงเล็ดลอดเข้ามาในห้องเสมอ ซึ่งทำให้รำคาญและไม่มีความสงบในการใช้ชีวิต ดังนั้นเราจึงรวบรวมคำถามที่เป็นประโยชน์ พร้อมคำตอบเพื่อนำไปแก้ไขปัญหาดังกล่าวครับ

Q: 1. เสียงดังยามวิกาล ได้ถึงกี่โมง

A: โดยทั่วไปแล้ว ถ้ามีใครทำเสียงดังในช่วง 22:00 น. - 06:00 น. ซึ่งถือเป็นเวลาพักผ่อนของผู้อยู่อาศัยคนอื่น ๆ  ก็อาจเข้าข่ายเป็น “เหตุรำคาญ” ตามกฎหมาย ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถตักเตือนหรือดำเนินการทางกฎหมายได้เลย

Q: 2. เปิดเพลงเสียงดังรบกวน แจ้งความได้ที่ไหน

A: ถ้าหากเจอเพื่อนสายปาร์ตี้พูดคุยหรือเปิดเพลงเสียงรบกวนแบบสุดจะทน สามารถโทรแจ้งตำรวจที่หมายเลข 191 เพื่อให้พี่เจ้าหน้าที่สายตรวจมาตักเตือนและระงับเหตุการณ์ดังกล่าวได้ ซึ่งถ้าอยู่ในคอนโดหรือหมู่บ้าน ก็ควรแจ้งนิติบุคคลก่อน เพื่อเจรจาตามระเบียบของที่พักอาศัย

Q: 3. เสียงดังแค่ไหนถึงจะผิดกฎหมาย

A: ตามประกาศของ คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ กำหนดว่าระดับเสียงรบกวนต้องไม่เกิน 10 เดซิเบล (dBA) จากระดับเสียงในสภาวะปกติ และส่วนกรณี เสียงจากเครื่องจักรก่อสร้าง ต้องไม่เกิน 75 เดซิเบล (dBA) เมื่อวัดในระยะ 30 เมตรจากแหล่งกำเนิดเสียง ถ้าหากทั้งสองกรณีนี้มีเสียงดังเกินมาตรฐานและสร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่น ก็ถือว่าผิดกฎหมายทั้งทางแพ่งและอาญา ซึ่งมีโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท

บทสรุป

จบกันไปแล้วกับคู่มือ 5 วิธีรับมือกับเพื่อนบ้านเจ้าปัญหาที่หลายคนไม่อยากเจอ เพราะปัญหาเสียงดังหรือเสียงรบกวนในเวลาที่เราต้องการความเป็นส่วนตัวหรือพักผ่อนนั้น นับเป็นปัญหาใหญ่ที่ต้องรู้ถึงวิธีการจัดการ และยิ่งเป็นคนรู้จักใกล้ตัวก็คงเกรงใจที่จะบอกให้เขารู้ หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้เพื่อน ๆ เข้าใจถึงวิธีรับมือกับปัญหาเพื่อนบ้านเสียงดังได้ไม่มากก็น้อยนะครับ

สำหรับใครที่ไม่อยากปวดหัวกับปัญหาเพื่อนบ้านเสียงดัง และกำลังมองหาที่อยู่อาศัยที่ออกแบบให้มีความเป็นส่วนตัว ความสงบและมาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกแบบครบครัน ไม่ว่าจะเป็นบ้านเดี่ยว, บ้านแฝด, คอนโดและทาวน์โฮม สามารถเข้ามาเลือกชมได้ที่เว็บไซต์น่าอยู่ และสาระความรู้ดี ๆ เรื่องบ้านที่น่าสนใจไว้ให้ติดตามอีกมากมาย

แหล่งข้อมูลอ้างอิง

วิธีรับมือปัญหาเสียงรบกวนจากข้างบ้าน พร้อมข้อกฎหมายที่ควรรู้

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์