สำหรับผู้ที่กำลังสร้างเนื้อสร้างตัว ก็คงจะนึกถึงการมีบ้านเป็นความมั่นคงแรก เพราะบ้านเป็นหนึ่งในปัจจัย 4 ที่มีความสำคัญต่อมนุษย์ และด้วยความสำคัญนี้ ส่งผลให้บ้านมีมูลค่าสูง จึงต้องมีการเก็บเงินจำนวนมากในการซื้อบ้านสักหนึ่งหลัง เพราะบ้านที่ดีก็จะมาพร้อมกับราคาที่แพงขึ้นไปตามลำดับ

อย่างไรก็ตาม ในวงการอสังหาริมทรัพย์และธนาคาร ได้มีการรองรับความจำเป็นนี้ด้วยการปล่อยสินเชื่อให้กู้เงินเพื่อมาซื้อบ้าน และผู้อยู่อาศัยก็ต้องผ่อนจ่ายจนกว่าจะครบกำหนด ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้ลดความลำบากในการหาเงินก้อนใหญ่ แต่จะเป็นการค่อย ๆ หาเงิน เพื่อผ่อนชำระ จนได้บ้านเป็นของตนเองอย่างแท้จริง

ดังนั้น การมีบ้านจึงถือเป็นภาระหนี้อย่างหนึ่ง ซึ่งซื้อความสะดวกสบาย และความมั่นคงในชีวิตให้กับทุกคน โดยเป็นสิ่งที่มีความจำเป็น สำหรับใครที่กำลังเผชิญปัญหาเรื่องการผ่อนบ้านอยู่ วันนี้เรามีเทคนิคดี ๆ ที่ช่วยให้ผ่อนบ้านหมดได้อย่างรวดเร็ว ไม่ต้องกังวลหนี้ระยะยาว จะมีวิธีแบบไหนบ้างนั้น เราไปดูกันเลย

6 วิธีจัดการกับหนี้บ้าน ผ่อนหมดไว อยู่อาศัยอย่างไร้หนี้

หลักการผ่อนบ้านนั้นมีเทคนิคอยู่หลายวิธี เพื่อจัดการกับหนี้สินให้ได้ประโยชน์ต่อตัวผู้ผ่อนชำระมากที่สุด โดยการดำเนินการก็มักจะเกี่ยวข้องกับสถาบันการเงิน ซึ่งจะต้องศึกษาข้อกำหนดให้ดี

นอกจากนี้ยังต้องมีความรู้ในการบริหารเงิน และรู้ความสามารถของตนเอง เพื่อที่จะสามารถวางแผนด้านการเงินได้อย่างแม่นยำ ทั้งนี้เมื่อมีความรู้ในด้านนี้แล้ว ต่อไปก็จะเป็นวิธีที่ช่วยให้ผ่อนบ้านหมดได้อย่างรวดเร็ว โดยมีวิธีการดังนี้

โปะเพิ่มทุกเดือน

การโปะบ้าน คือ การผ่อนชำระแบบลดต้นลดดอก วิธีการคือ ผู้ผ่อนชำระจะส่งงวดมากกว่าจำนวนเงินที่ธนาคารกำหนดให้ในแต่ละเดือน ตัวอย่างเช่น ธนาคารกำหนดให้ชำระ 10,000 บาทต่อเดือน แต่เราส่งเดือนละ 15,000 บาท ซึ่งเงินส่วนที่เกินไปนั้น จะถูกนำไปโปะรวมกับเงินต้น ส่งผลให้ดอกเบี้ยในครั้งต่อ ๆ ไป ลดลง และยังช่วยลดระยะเวลาการผ่อนบ้านได้มากอีกด้วย

มีเงินก้อนก็เอาไปโปะ ยิ่งโปะเยอะ ยิ่งหมดเร็ว

สิ่งสำคัญของการโปะบ้าน ก็คือ ยิ่งมีเงินไปโปะมากเท่าไร จำนวนเงินต้นก็จะลดลง และช่วยลดดอกเบี้ย ทำให้หมดหนี้ได้เร็วขึ้น ซึ่งเงินก้อนที่ว่านี้มักจะมาจากการได้โบนัส หรือเงินปันผล ซึ่งจะได้ปีละ 1 – 2 ครั้ง เป็นเงินก้อนใหญ่ ที่หากนำมาชำระหนี้บ้านก็จะช่วยลดภาระหนี้สินในระยะยาวได้อย่างดี

ปรับโครงสร้างหนี้ เช่น รีไฟแนนซ์และรีเทนชั่น

การรีไฟแนนซ์ คือ การขอเปลี่ยนเจ้าหนี้ใหม่ นั่นก็คือการย้ายสถาบันการเงินที่เราเคยกู้ มายังสถาบันการเงินแห่งใหม่ การรีไฟแนนซ์จะทำให้ได้ดอกเบี้ยที่ถูกลง เนื่องจากใน 3 ปีหลังจากการผ่อนบ้าน ดอกเบี้ยมักจะเพิ่มอัตราสูงขึ้น ดังนั้นการเปลี่ยนสถาบันใหม่ก็จะเหมือนการเริ่มต้นใหม่ ที่จะได้สิทธิประโยชน์เกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยนั่นเอง ทั้งนี้คุณยังสามารถเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยในเรทที่ต่ำได้จากหลากหลายธนาคารอีกด้วย

ส่วนการรีเทนชั่น ก็คือการขอลดอัตราดอกเบี้ยจากเจ้าหนี้เดิม หรือสถาบันการเงินเดิมนั่นเอง มีข้อดีคือไม่ต้องทำเรื่องขอกู้ใหม่ทั้งหมดเหมือนการรีไฟแนนซ์ และยังใช้เวลาในการพิจารณาน้อย สามารถดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว โดยเมื่อเราเป็นลูกหนี้ชั้นดีก็จะเพิ่มโอกาสในการขอรีเทนชั่นจากสถาบันการเงินได้ง่าย ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยได้อย่างดี

จ่ายหนี้ให้ตรงเวลา (จะมีผลกับการพิจารณาปรับโครงสร้างหนี้)

การจ่ายค่าบ้านอย่างตรงเวลา จะทำให้คุณได้เป็นลูกหนี้ชั้นดี เพราะสถาบันการเงินมักจะดูจากพฤติกรรมของลูกหนี้ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าจะไม่เกิดกรณีหนีหนี้ และเบี้ยวหนี้ ซึ่งส่งผลเสียอย่างมากต่อการพิจารณาขอสินเชื่อ ดังนั้นหน้าที่ของการเป็นลูกหนี้ที่ดีก็คือการรับผิดชอบชำระหนี้อย่างตรงเวลาตามเงื่อนไข เพื่อประโยชน์ในอนาคตเมื่อต้องการรีไฟแนนซ์ หรือ ขอรีเทนชั่นสำหรับลดอัตราดอกเบี้ยการผ่อนบ้านนั่นเอง

หยุดสร้างหนี้เพิ่ม

การไม่มีหนี้เพิ่ม จะทำให้คุณมีเงินมาจ่ายค่าผ่อนบ้านได้อย่างตรงเวลา และไม่ลำบาก เพราะไม่ต้องเจียดแบ่งไปยังภาระอื่น ๆ ซึ่งการมีหนี้หลายทางจะทำให้สภาพคล่องทางการเงินไม่ดี และอาจเป็นการสร้างหนี้สินจนเกินตัว โดยสำหรับผู้ที่กำลังผ่อนบ้านอยู่ ก็ควรที่จะให้ความสำคัญกับหนี้สินในส่วนนี้ก่อนเป็นอันดับแรก เพราะบ้านเป็นสิ่งที่มีความจำเป็นมากที่สุดนั่นเอง

หารายได้เสริม

นอกจากจะไม่เพิ่มภาระหนี้สินแล้ว การหารายได้เสริม ยังเป็นการเพิ่มโอกาสในการหาเงินสำหรับนำไปผ่อนบ้าน โดยถ้ายิ่งหารายได้เสริมได้มาก ก็จะสามารถนำเงินส่วนนี้ไปโปะบ้านในแต่ละเดือน เพื่อให้เงินต้นต่ำลง และอัตราดอกเบี้ยก็จะลดลงไปด้วย เป็นหนึ่งในวิธีที่ช่วยให้ผ่อนบ้านหมดได้อย่างรวดเร็ว โดยต้องอาศัยความขยันหมั่นเพียร และไม่ควรทำงานหนักเกินไปจนเสียสุขภาพ

และทั้งหมดนี้ก็คือเคล็ดลับดี ๆ สำหรับผู้ที่ต้องการผ่อนบ้านให้เสร็จสิ้นโดยไว จะได้ไม่ต้องกังวลเรื่องหนี้สินในระยะยาว และสามารถอยู่อาศัยในบ้านของตัวเองได้อย่างสบายใจ อย่างไรก็ตาม การผ่อนบ้านเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการเงิน จึงควรมีการศึกษาอย่างรอบคอบ และวางแผนเพื่อลดความเสี่ยงต่าง ๆ ให้มากที่สุด