ทุกวันนี้ หลายคนคงเริ่มรู้สึกว่า รายได้ไม่พอกับรายจ่ายในแต่ละเดือน ทั้งการขึ้นราคาของสินค้าอุปโภค-บริโภค ที่พัก ค่าเดินทาง ค่าครองชีพต่าง ๆ ก็พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปี 2568 - 2569 รัฐบาลและภาคธุรกิจได้มีการปรับอัตราค่าแรงขั้นต่ำทั่วประเทศ เพื่อลดภาระค่าครองชีพที่สูงขึ้น
โดยในบทความนี้ น้องน่าอยู่จะพาเพื่อน ๆ ไปดูข้อมูลสำคัญอย่าง อัตราค่าแรงขั้นต่ำแต่ละจังหวัดทั่วประเทศ และแนวโน้มค่าครองชีพโดยเฉลี่ย เพื่อให้ทุกคนวางแผนการเงินได้ดีขึ้น ไปดูพร้อมกันเลยครับ
ค่าแรงขั้นต่ำ คืออะไร

ค่าแรงขั้นต่ำ คือ “ค่าจ้างพื้นฐานต่ำสุด” ที่นายจ้างต้องจ่ายให้ลูกจ้างตามกฎหมาย เพื่อให้ลูกจ้างมีรายได้ขั้นต่ำที่ค่อนข้างเพียงพอกับค่าครองชีพพื้นฐาน โดยอัตราค่าแรงขั้นต่ำจะแตกต่างกันไปตามเศรษฐกิจของพื้นที่ และตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2568 มีการปรับใหม่ทั่วประเทศ โดยมี 17 อัตราตั้งแต่ 337 - 400 บาท/วัน
อัตราค่าแรงขั้นต่ำ 77 จังหวัด

ด้วยอัตราค่าแรงขั้นต่ำที่ได้มีการปรับใหม่ จะถือเป็นพื้นฐานให้แรงงานหรือลูกจ้างสามารถวางแผนรายได้การทำงานในแต่ละเดือนอย่างชัดเจนว่าจะได้รับรายได้ขั้นต่ำเท่าไหร่ โดยมีอัตราสูงสุดที่ 400 บาท/วัน และต่ำสุดไม่เกิน 337 บาท/วัน และแบ่งอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็น 17 ระดับ ซึ่งสรุปภาพรวมได้ดังนี้
1. ค่าจ้างขั้นต่ำ 400 บาท/วัน ครอบคลุม 4 จังหวัด และ 1 อำเภอ
- ภูเก็ต (370)
- ฉะเชิงเทรา (350)
- ชลบุรี (361)
- ระยอง (361)
- เฉพาะอำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี (345)
2. ค่าจ้างขั้นต่ำ 380 บาท/วัน เฉพาะ 2 อำเภอ
- อำเภอเชียงใหม่ (350)
- อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา (345)
3. ค่าจ้างขั้นต่ำ 372 บาท/วัน ครอบคลุม 6 จังหวัด
- กรุงเทพมหานคร (363)
- นครปฐม (363)
- นนทบุรี (363)
- ปทุมธานี (363)
- สมุทรปราการ (363)
- สมุทรสาคร (363)
4. ค่าจ้างขั้นต่ำ 359 บาท/วัน มี 1 จังหวัด
- นครราชสีมา (352)
5. ค่าจ้างขั้นต่ำ 358 บาท/วัน มี 1 จังหวัด
- สมุทรสงคราม (351)
6. ค่าจ้างขั้นต่ำ 357 บาท/วัน ครอบคลุม 5 จังหวัด
- ขอนแก่น (350)
- เชียงใหม่ (ยกเว้นอำเภอเมือง) (350)
- ปราจีนบุรี (350)
- พระนครศรีอยุธยา (350)
- สระบุรี (350)
7. ค่าจ้างขั้นต่ำ 356 บาท/วัน มี 1 จังหวัด
- ลพบุรี (349)
8. ค่าจ้างขั้นต่ำ 355 บาท/วัน ครอบคลุม 3 จังหวัด
- นครนายก (348)
- สุพรรณบุรี (348)
- หนองคาย (348)
9. ค่าจ้างขั้นต่ำ 354 บาท/วัน ครอบคลุม 2 จังหวัด
- กระบี่ (347)
- ตราด (347)
10. ค่าจ้างขั้นต่ำ 352 บาท/วัน ครอบคลุม 15 จังหวัด
- กาญจนบุรี (345)
- จันทบุรี (345)
- เชียงราย (345)
- ตาก (345)
- นครพนม (345)
- บุรีรัมย์ (345)
- ประจวบคีรีขันธ์ (345)
- พังงา (345)
- พิษณุโลก (345)
- มุกดาหาร (345)
- สกลนคร (345)
- สงขลา (ยกเว้น อ.หาดใหญ่) (345)
- สระแก้ว (345)
- สุราษฎร์ธานี (ยกเว้น เกาะสมุย) (345)
- อุบลราชธานี (345)
11. ค่าจ้างขั้นต่ำ 351 บาท/วัน ครอบคลุม 3 จังหวัด
- ชุมพร (344)
- เพชรบุรี (344)
- สุรินทร์ (344)
12. ค่าจ้างขั้นต่ำ 350 บาท/วัน ครอบคลุม 3 จังหวัด
- นครสวรรค์ (343)
- ยโสธร (343)
- ลำพูน (343)
13. ค่าจ้างขั้นต่ำ 349 บาท/วัน ครอบคลุม 5 จังหวัด
- กาฬสินธุ์ (342)
- นครศรีธรรมราช (342)
- บึงกาฬ (342)
- เพชรบูรณ์ (342)
- ร้อยเอ็ด (342)
14. ค่าจ้างขั้นต่ำ 348 บาท/วัน ครอบคลุม 5 จังหวัด
- ชัยนาท (341)
- ชัยภูมิ (341)
- พัทลุง (341)
- สิงห์บุรี (341)
- อ่างทอง (341)
15. ค่าจ้างขั้นต่ำ 347 บาท/วัน ครอบคลุม 16 จังหวัด
- กำแพงเพชร (340)
- พิจิตร (340)
- มหาสารคาม (340)
- แม่ฮ่องสอน (340)
- ระนอง (340)
- ราชบุรี (340)
- ลำปาง (340)
- เลย (340)
- ศรีสะเกษ (340)
- สตูล (340)
- สุโขทัย (340)
- หนองบัวลำภู (340)
- อำนาจเจริญ (340)
- อุดรธานี (340)
- อุตรดิตถ์ (340)
- อุทัยธานี (340)
16. ค่าจ้างขั้นต่ำ 345 บาท/วัน ครอบคลุม 4 จังหวัด
- ตรัง (338)
- น่าน (338)
- พะเยา (338)
- แพร่ (338)
17. ค่าจ้างขั้นต่ำ 337 บาท/วัน ครอบคลุม 3 จังหวัด
- นราธิวาส (330)
- ปัตตานี (330)
- ยะลา (330)
จังหวัดที่มีค่าใช้จ่ายครัวเรือนเฉลี่ยต่อเดือนสูง

ถึงแม้อัตราค่าแรงขั้นต่ำแต่ละจังหวัดจะปรับขึ้น แต่ในหลายจังหวัดโดยเฉพาะเมืองใหญ่หรือเมืองท่องเที่ยว ค่าครองชีพก็มีแนวโน้มสูงขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจ บางคนที่มีรายได้จากค่าแรงขั้นต่ำ อาจใช้เงินเกือบทั้งหมดไปกับค่าครองชีพ ซึ่งเราได้จัดอันดับจังหวัด (ไม่นับรวมกรุงเทพฯ และปริมณฑล) ที่มีค่าใช้จ่ายครัวเรือนเฉลี่ยต่อเดือนสูงที่สุดมาให้ดังนี้ครับ
- อันดับ 1 ภูเก็ต มีค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 33,150.86 บาท/เดือน
- อันดับ 2 กระบี่ มีค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 29,073.90 บาท/เดือน
- อันดับ 3 ชลบุรี มีค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 27,129.51 บาท/เดือน
- อันดับ 4 สระบุรี มีค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 25,607.66 บาท/เดือน
- อันดับ 5 ราชบุรี มีค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 25,476.12 บาท/เดือน
- อันดับ 6 จันทบุรี มีค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 25,374.26 บาท/เดือน
- อันดับ 7 สุราษฎร์ธานี มีค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 24,991.02 บาท/เดือน
- อันดับ 8 ระยอง มีค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 24,951.65 บาท/เดือน
- อันดับ 9 พระนครศรีอยุธยา มีค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 24,684.11 บาท/เดือน
- อันดับ 10 ชุมพร มีค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 23,540.14 บาท/เดือน
สรุป ค่าครองชีพแต่ละจังหวัดเป็นอย่างไร
พอได้อ่านข้อมูลก่อนหน้านี้ ทุกคนคงเห็นใช่ไหมครับว่าค่าครองชีพแต่ละจังหวัดในประเทศไทยเราแตกต่างกันมาก โดยเฉพาะจังหวัดที่เป็นเมืองท่องเที่ยวและเมืองอุตสาหกรรม เช่น ภูเก็ต ชลบุรี ระยอง หรือสระบุรี ที่มีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยสูงกว่าค่าแรงขั้นต่ำกันหลายจังหวัด ทำให้ต้องมีการบริหารรายได้ให้รอบคอบมากขึ้น
โดยจังหวัดในภาคเหนือ อีสาน และบางจังหวัดภาคกลางจะมีค่าใช้จ่ายที่เบาลง เหมาะกับคนที่ต้องการลดภาระค่าใช้จ่าย แต่ก็ต้องมองประกอบกับรายได้ในพื้นที่ของตัวเองด้วย เพราะบางที่ค่าแรงอาจต่ำกว่าส่วนกลาง ดังนั้นการเลือกจังหวัดในการทำงานหรือไปอยู่อาศัยจึงควรดูทั้ง “ค่าแรงขั้นต่ำ” และ “ค่าครองชีพเฉลี่ย” ควบคู่กันไปครับ
คำถามที่พบบ่อย
ก่อนตัดสินใจย้ายจังหวัด หางานใหม่ หรือคำนวณรายได้-รายจ่ายในปี 2569 หลายคนอาจอยากรู้ว่าค่าครองชีพจังหวัดไหนสูงสุด จังหวัดไหนรายได้ดี หรือค่าใช้จ่ายเฉลี่ยของทั้งประเทศไทยเป็นเท่าไหร่ เราเลยรวบรวมคำถาม พร้อมคำตอบสั้น ๆ ที่ควรรู้มาให้ทุกคนครับ
1. จังหวัดไหนค่าครองชีพสูงสุด
Answer: จากข้อมูลล่าสุด จังหวัดที่มีค่าใช้จ่ายครัวเรือนเฉลี่ยต่อเดือนสูงที่สุดคือ ภูเก็ต ด้วยค่าใช้จ่ายกว่า 33,000 บาท/เดือน เพราะเป็นเมืองท่องเที่ยว ค่าที่พัก และค่าอาหารเลยแแพงตาม
2. จังหวัดไหนเงินเดือนสูง
Answer: โดยทั่วไป จังหวัดที่มีรายได้เฉลี่ยและโอกาสงานสูงจะเป็นพื้นที่เศรษฐกิจหลัก เช่น กรุงเทพฯ - ปริมณฑล, ชลบุรี, ระยอง, ภูเก็ต ซึ่งถือเป็นศูนย์รวมอุตสาหกรรม ท่องเที่ยว และบริการ ทำให้ฐานเงินเดือนสูงกว่าจังหวัดอื่น ๆ
3. ค่าครองชีพเฉลี่ยต่อเดือนของไทยคือเท่าไร
Answer: ค่าครองชีพเฉลี่ยของครัวเรือนไทยโดยรวมจะอยู่ประมาณ 20,000 - 22,000 บาท/เดือน ขึ้นอยู่กับขนาดครอบครัวและพื้นที่ที่อาศัยอยู่ ถ้าเป็นเมืองท่องเที่ยว หรือเมืองอุตสาหกรรมก็จะสูงกว่า
บทสรุป
จากข้อมูลค่าแรงขั้นต่ำและค่าครองชีพทั่วประเทศแล้ว จะเห็นได้ว่าการวางแผนด้านการเงิน รายจ่าย และการเลือกจังหวัดอยู่อาศัยเป็นเรื่องสำคัญมาก ในยุคที่ค่าครองชีพสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ยิ่งถ้าอยู่ในจังหวัดที่ค่าครองชีพค่อนข้างสูง การบริหารรายได้ให้บาลานซ์กับรายจ่ายยิ่งจำเป็นกว่าเดิม
และสำหรับใครที่กำลังวางแผนย้ายจังหวัด ทำงานใหม่ หรือมองหาบ้านราคาเข้าถึงง่ายในต่างจังหวัด เช่น ขายบ้านอุบลไม่เกิน 1.5 ล้าน ก็สามารถเข้าไปดูตัวเลือกดี ๆ ได้บนเว็บไซต์ “น่าอยู่” ที่มีให้เลือกตามงบประมาณและไลฟ์สไตล์เลยครับ