อย่างที่ทราบกันดีในประเทศไทยที่ดินถือว่าเป็นทรัพย์สินที่มีค่ามากและจะเพิ่มมูลค่าไปเรื่อยๆ ตามกาลเวลา ผู้ที่เป็นทายาทควรต้องศึกษาไว้กรณีเจ้าของที่ดินเสียชีวิตแล้วได้ทำพินัยกรรมไว้หรือไม่ได้ทำพินัยกรรม จะมีวิธีการยื่นขอรับมรดกหรือเป็นผู้จัดการมรดกอย่างไรให้ถูกต้องตามสิทธิของกฎหมาย เพราะหากปล่อยไว้อาจถูกผู้ไม่ประสงค์ดีฟ้องร้องอ้างสิทธิ์เป็นทายาทรับมรดกได้
บทความนี้น้องน่าอยู่ได้รวบรวมข้อมูลมาให้ครบ ทั้งกฎหมายแบ่งมรดกที่ดินและทายาทที่มีสิทธิ์ วิธียื่นขอเป็นผู้จัดการมรดกทั้งแบบไม่มีพินัยกรรมและมีพินัยกรรม รวมไปถึงเอกสารหลักฐานที่ต้องใช้พร้อมค่าธรรมเนียมต่างๆ หากพร้อมแล้วไปกันเลยครับ
กฎหมายแบ่งมรดกที่ดินและทายาทที่มีสิทธิ์ กรณีเจ้าของที่ดินเสียชีวิตแล้ว
ตามกฎหมายมรดกที่ดินได้มีการระบุถึงข้อกำหนดในการรับมรดกที่ดิน การขอจดทะเบียนรับโอนมรดกที่ดิน และทายาทผู้มีสิทธิ์รับมรดกที่ดินตามลำดับ ซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
ข้อควรรู้เกี่ยวกับกฎหมายแบ่งมรดกที่ดิน กรณีเจ้าของที่ดินเสียชีวิตแล้ว

ตามกฎหมายแบ่งมรดกที่ดินได้กำหนดไว้ว่าหากกรณีเจ้าของที่ดินเสียชีวิตแล้วผู้มีสิทธิ์รับมรดกที่ดินได้จะมี 2 กรณี ก็คือ กรณีแรกที่ดินที่เป็นมรดกนั้นจะตกแก่บุคคลที่เจ้าของที่ดินได้ระบุไว้ในพินัยกรรม กรณีที่สอง หากเจ้าของที่ดินไม่ได้ทำพินัยกรรมไว้ที่ดินจะตกเป็นของบุคคลที่เป็นทายาทโดยสิทธิตามกฎหมาย
ส่วนกฎหมายข้อต่อมาเป็นกฎหมายเกี่ยวกับการขอจดทะเบียนรับโอนมรดกที่ดิน สำหรับโฉนดที่ดินที่เป็นเอกสาร น.ส.3 ข. ให้ทำการขอจดทะเบียนรับโอนมรดกที่ดินหรือจดทะเบียนผู้จัดการมรดกที่สำนักงานที่ดินจังหวัด หรือสำนักงานที่ดินจังหวัดสาขา ส่วนโฉนดที่ดินที่เป็นเอกสาร น.ส.3 และ น.ส.3 ก ไปดำเนินการที่สำนักงานที่ดินอำเภอ
แต่ถ้าท้องที่ได้มีประกาศกระทรวงมหาดไทยยกเลิกอำนาจหน้าที่ของนายอำเภอเกี่ยวกับการปฏิบัติการตามกฎหมายที่ดินแล้วให้ไปเดินเรื่อง ขอจดทะเบียนรับโอนมรดกที่ดินหรือจดทะเบียนผู้จัดการมรดกได้ที่สำนักงานที่ดินจังหวัด หรือสำนักงานที่ดินจังหวัดสาขาที่ที่ดินตั้งอยู่
ทายาทที่มีสิทธิในการรับมรดกที่ดินตามกฎหมาย
ในกรณีเจ้าของที่ดินเสียชีวิตแล้วไม่ได้ทำพินัยกรรมไว้ ทางกฎหมายได้กำหนดทายาทที่มีสิทธิตามกฎหมายหรือทายาทโดยธรรมทั้งหมด 6 ลำดับ โดยแต่ละลำดับมีสิทธิรับมรดกก่อนหลังตามลำดับดังตารางต่อไปนี้
ตาราง ทายาทที่มีสิทธิตามกฎหมายหรือทายาทโดยธรรมในการรับมรดกที่ดิน

หากคู่สมรสเจ้าของที่ดินยังมีชีวิตอยู่ให้ถือว่าเป็นทายาทโดยธรรมด้วย มีสิทธิรับมรดกร่วมกับทายาททั้ง 6 ลำดับตามตาราง การรับมรดกที่ดินตามลำดับทายาทจะแบ่งเป็น 2 แบบ ดังนี้
- การรับมรดกตามลำดับชั้น: หากเจ้าของที่ดินมีทายาทหลายลำดับ ผู้ที่อยู่ในลำดับต้นจะได้รับมรดกไปก่อนแล้วผู้ที่อยู่ในลำดับถัดมาจะไม่มีสิทธิ์ได้ที่ดินนั้น ยกเว้นในกรณีทายาทลำดับที่ 1 เสียชีวิตที่ดินนั้นจะตกเป็นของทายาทลำดับที่ 2 ตีความง่ายๆ ก็คือ หากบุตร, หลาน, เหลน หรือลื้อเจ้าของที่ดินเสียชีวิตไปก่อน แต่พ่อหรือแม่ของเจ้าของที่ดินยังอยู่ก็มีสิทธิ์ได้เป็นเจ้าของที่ดินนั้นเหมือนกับทายาทลำดับที่ 1
- การรับมรดกแทนที่: สำหรับทายาทลำดับที่ 1, 3, 4 หรือ 6 เกิดเสียชีวิตก่อนเจ้าของที่ดิน ที่ดินที่เป็นมรดกนั้นจะตกเป็นของผู้สืบสันดานของทายาท แต่ถ้าหากผู้สืบสันดานของทายาทเสียชีวิตแล้วก็ให้ผู้สืบสันดานของผู้สืบสันดานรับมรดกที่ดินนั้นแทน โดยให้สืบต่อเช่นนี้ไปจนกว่าจะหมดสายตามลำดับ กรณีทายาทลำดับที่ 2 หรือ 5 เสียชีวิตก่อนเจ้าของที่ดินจะไม่สามารถรับมรดกแทนกันได้
ในกรณีที่คู่สมรสเจ้าของที่ดินยังมีชีวิตอยู่ให้ทำการแบ่งทรัพย์สินระหว่างคู่สมรสกันก่อน ส่วนที่เหลือให้นำไปจัดสรรตามลำดับของทายาทของต่อไป ซึ่งตามกฎหมายหากคู่สมรสได้จดทะเบียนสมรสถูกต้องตามกฎหมายจะถือว่าคู่สมรสที่ยังมีชีวิตอยู่นั้นมีสิทธิ์ในที่ดินเหมือนกับทายาทในชั้นบุตรหรือทายาทลำดับที่ 1 แต่ถ้ากรณีเจ้าของที่ดินเสียชีวิตแล้วไม่มีทายาทที่ดินทั้งหมดจะตกเป็นของคู่สมรสตามกฎหมาย
สำหรับแนวทางการแบ่งที่ดินขอแนะนำบทความเพิ่มเติม การแบ่งโฉนดที่ดินมรดก ต้องทำอย่างไร?
วิธียื่นขอเป็นผู้จัดการมรดก กรณีเจ้าของที่ดินเสียชีวิตแล้วไม่ได้ทำพินัยกรรม

ในกรณีเจ้าของที่ดินเสียชีวิตแล้วแบบกะทันหันโดยที่ไม่ได้ทำพินัยกรรมไว้ ทายาทสามารถนำเอกสารหลักฐานไปยื่นขอรับมรดกที่ดิน หรือจดทะเบียนเป็นผู้จัดการมรดกที่สำนักงานกรมที่ดินตามที่ได้แนะนำไปก่อนหน้า ส่วนรายการเอกสารหลักฐานขอแนะนำในหัวข้อถัดไป
เอกสารและหลักฐานที่ใช้ในการยื่นขอเป็นผู้จัดการมรดก
สำหรับเอกสารและหลักฐานที่ทางกรมที่ดินได้กำหนดให้ใช้ในการยื่นรับมรดกที่ดิน, จดทะเบียนผู้จัดการมรดก มีรายการเอกสารดังต่อไปนี้
- โฉนดที่ดิน หรือหนังสือรับรองทำประโยชน์
- บัตรประจำตัว
- ทะเบียนบ้าน
- หลักฐานการตายของเจ้ามรดก เช่น มรณบัตร
- พินัยกรรม (ถ้ามี)
- ถ้าผู้ขอ ขอรับมรดกในฐานะเป็นคู่สมรส ต้องมีหลักฐานการสมรสที่ชอบด้วยกฎหมาย
- ถ้าผู้ขอรับมรดกเป็นบิดาเจ้ามรดก ต้องมีทะเบียนสมรสกับมารดาของเจ้ามรดกหรือหลักฐานการรับรองบุตร
- กรณีบุตรบุญธรรมเป็นผู้ขอรับมรดก ต้องแสดงหลักฐานการจดทะเบียนรับบุตรบุญธรรม
- ถ้ามีกรณีพิพาทเกี่ยวกับมรดก ต้องนำสัญญาประนีประนอมยอมความหรือคำพิพากษาอันถึงที่สุดไปแสดง
- ถ้ามีผู้มีสิทธิรับมรดกร่วมกันหลายคน บางคนได้ถึงแก่กรรมไปแล้ว ต้องมีหลักฐานการตายของทายาทนั้นๆ
กรณีเจ้าของที่ดินเสียชีวิตแล้วทำพินัยกรรมไว้พร้อมมีผู้จัดการมรดก

สำหรับกรณีเจ้าของที่ดินเสียชีวิตแล้วได้ทำพินัยกรรมไว้พร้อมมีผู้จัดการมรดกถูกต้องตามกฎหมาย ก็ต้องดำเนินการขอจดทะเบียนผู้จัดการมรดกที่สำนักงานกรมที่ดินเช่นกัน ส่วนเอกสารหลักฐานขอนำเสนอรายละเอียดในหัวข้อถัดไป
เอกสารและหลักฐานที่ต้องใช้กรณีมีผู้จัดการมรดก
สำหรับรายการเอกสารและหลักฐานที่ผู้จัดการมรดกต้องไปขอจดทะเบียนผู้จัดการมรดกมีรายการเอกสารดังต่อไปนี้
- คำสั่งศาลหรือคำพิพากษาของศาล หรือพินัยกรรมซึ่งตั้งให้ผู้ขอเป็นผู้จัดการมรดก
- หลักฐานการตายของเจ้ามรดก
- ทะเบียนบ้าน และบัตรประจำตัวของผู้จัดการมรดก
- โฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์
ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายมีอะไรบ้าง
เราทราบกันไปแล้วว่ากรณีเจ้าของที่ดินเสียชีวิตแล้วต้องใช้เอกสารอะไรบ้างในการดำเนินการขอรับมรดกที่ดิน หรือจดทะเบียนผู้จัดการมรดกที่ดินนั้น ส่วนค่าธรรมเนียมที่ผู้ดำเนินการต้องจ่ายตามที่กรมที่ดินกำหนดดังต่อไปนี้
- ค่าคำขอ แปลงละ 5 บาท
- ค่าประกาศมรดก แปลงละ 10 บาท
- ค่าจดทะเบียนผู้จัดการมรดก แปลงละ 50 บาท
- ค่าจดทะเบียนโอนมรดก ร้อยละ 2 ตามราคาประเมินที่ดิน ในกรณีโอนมรดกระหว่างผู้บุพการีกับผู้สืบสันดาน หรือระหว่างคู่สมรส เรียกตามราคาประเมินที่ดิน ร้อยละ 0.5
บทสรุป
จบไปแล้วกับข้อกฎหมายและเอกสารต่างๆ เกี่ยวกับมรดกที่ดินที่กรณีเจ้าของที่ดินเสียชีวิตแล้วได้ทำหรือไม่ได้ทำพินัยกรรมไว้ หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับผู้ที่กำลังสนใจศึกษาเรื่องนี้ แนะนำว่าควรศึกษาเพิ่มเติมและรีบดำเนินการเพื่อประโยชน์ของที่ดินนั้นตกแก่ผู้ที่ได้รับประโยชน์อย่างแท้จริง
สำหรับใครที่กำลังมองหาที่ดิน หรือ บ้านเดี่ยว, บ้านแฝด, คอนโดและทาวน์โฮม สามารถเข้ามาเลือกชมได้ที่เว็บไซต์น่าอยู่ นอกจากนี้ยังมีสาระน่ารู้ต่าง ๆ เกี่ยวกับบ้านที่น่าสนใจมาให้ทุกคนได้ติดตามกันอีกด้วยนะครับ
บทความแนะนำ
- เรื่องน่ารู้ชวนคิด เอกสารสิทธิ์ที่ดิน และ โฉนดที่ดิน
- ค่าโอนที่ดินฉบับอัพเดท 2568 พร้อมวิธีคำนวณแบบง่าย ๆ
- ระวังโดนยึดที่ดินทิ้งร้าง ! แม้เสียภาษีที่ดินว่างเปล่าแล้ว
บทความอ้างอิง