วัดหงษ์ บุรีรัมย์ หนึ่งในวัดที่คนบุรีรัมย์และผู้ศรัทธาจากต่างจังหวัดพูดถึงมากที่สุด ทั้งในเรื่อง “ความศักดิ์สิทธิ์” ขององค์พระเจ้าใหญ่ และ “ตำนานการสาบาน” ที่เล่าขานกันมาหลายชั่วอายุคน ใครที่มาบนบานสาบานเลิกอบายมุข ขอพรเรื่องงาน เรื่องความรัก หรือแม้แต่ความยุติธรรม มักไม่พลาดที่จะแวะมาที่นี่ แล้วบรรยากาศในวัดจะเป้นยังไง ตามน้องบุรีรัมย์น่าอยู่ไปดูในบทความนี้ได้เลย
ประวัติ “วัดหงษ์ บุรีรัมย์” : จากตำนานเมืองโบราณ สู่ศูนย์รวมจิตใจคนบุรีรัมย์
สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (2565) ได้กล่าวถึงที่มาของชื่อ "วัดหงษ์ บุรีรัมย์ หรือที่ชาวบ้านบางคนเรียกว่า “วัดศีรษะแรด” ตั้งอยู่ที่ ตำบลมะเฟือง อำเภอพุทไธสง จังหวัดบุรีรัมย์ เป็นสถานที่ประดิษฐานของ “พระเจ้าใหญ่” พระพุทธรูปปางมารวิชัย ที่มีประวัติความเป็นมายาวนานและเต็มไปด้วยเรื่องเล่ามหัศจรรย์
ตำนานของวัดเล่าว่า เมื่อหลายร้อยปีก่อน ท้าวศรีปาก (นา), ท้าวทาทอง (ยศ) และ ท้าวเหล็กสะท้อนไกรสรเสนา ซึ่งเป็นคนไทยเชื้อสายลาวจากเขตจังหวัดมหาสารคาม ชอบออกล่าสัตว์ในป่า วันหนึ่งได้ยิงนกขนาดใหญ่ตัวหนึ่งตกลงที่บริเวณสระบัวทางทิศตะวันออก
เมื่อเข้าไปตามหานก กลับพบพระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่งดงามมากประดิษฐานอยู่กลางป่า รายล้อมด้วยต้นตาลและเถาวัลย์รกรุงรัง จึงเกิดความปีติและชวนญาติพี่น้องมาตั้งรกราก พร้อมช่วยกันสร้างวัดขึ้นในบริเวณนั้น และตั้งชื่อว่า “วัดหงษ์” ตามลักษณะของนกที่ถูกยิงตก
บริเวณองค์พระมีอักษรขอมโบราณจารึกบนดินเผา ปรากฏเพียงคำว่า “พระเจ้าใหญ่...”
จากนั้นชาวบ้านจึงเรียกพระองค์นี้ว่า “องค์พระเจ้าใหญ่” มาจนถึงทุกวันนี้ โดยตามตำนานชาวบ้านเล่าว่าในอดีต เมื่อใครจะทำสัญญาหรือพิสูจน์ความจริง มักจะพากันมาสาบานต่อ “องค์พระเจ้าใหญ่” ให้รู้ดำรู้แดงกันไปเลย
ปัจจุบันวัดหงษ์ได้รับการบูรณะให้สวยงามมากขึ้น แต่ยังคงบรรยากาศความขลังเดิมไว้ครบ ทั้งพระอุโบสถสีทองอร่าม ลวดลายแกะสลักแบบล้านช้าง และพระพุทธรูปองค์ใหญ่ประดิษฐานโดดเด่นอยู่กลางโบสถ์
5 จุดสำคัญที่ควรไปเยือน เมื่อไปวัดหงษ์ บุรีรัมย์
ถ้าได้แวะมาสักการะ วัดหงษ์ หรือวัดศีรษะแรด ทั้งที น้องบุรีรัมย์น่าอยู่ขอแนะนำให้ค่อย ๆ เดินชมให้ทั่ววัด เพราะที่นี่ไม่ได้มีเพียง “พระเจ้าใหญ่” ที่ศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น แต่ยังมีสถานที่สำคัญอีกหลายจุดที่เต็มไปด้วยเรื่องราว ความเชื่อ และตำนานเก่าแก่ที่สืบทอดกันมาหลายร้อยปี

1. พระเจ้าใหญ่ และ พระนอแรด
พระเจ้าใหญ่ คือพระประธานศักดิ์สิทธิ์ประจำวัด และเป็นจุดศูนย์กลางความศรัทธาที่โดดเด่นที่สุดของวัดหงษ์ หรือ วัดศีรษะแรด
ความสำคัญและความศักดิ์สิทธิ์:
- เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ขนาดหน้าตักกว้างประมาณ 1.6 เมตร สูง 2 เมตร สร้างด้วยศิลาแลง สันนิษฐานว่ามีอายุราวพุทธศตวรรษที่ 19-20 (ยุคเดียวกับการสร้างเมืองพุทไธสง)
- มีชื่อเสียงโด่งดังในเรื่องของ "คำสาบาน" กล่าวกันว่า ผู้ที่มาสาบานตนทำความดี ละเว้นอบายมุข หรือขอความเป็นธรรมในเรื่องคดีความ หากผิดคำสาบานมักมีอันเป็นไปอย่างประหลาด ชาวบ้านจึงเชื่อมั่นในอิทธิฤทธิ์ขององค์พระเจ้าใหญ่มาก
ความเชื่อมโยงกับ " พระพุทธรูปแกะสลักจากนอแรด":
- ชื่อวัดอีกชื่อหนึ่งคือ "วัดศีรษะแรด" มาจากตำนานการค้นพบ ซากเจดีย์ องค์พระเจ้าใหญ่ นอแรด และกระดูกแรด ในบริเวณนี้
- ในการบูรณะองค์พระเจ้าใหญ่เมื่อปี พ.ศ. 2513 ได้มีการขุดค้นพบ พระพุทธรูปแกะสลักจากนอแรด และพระพิมพ์รูปใบขนุน "รวมปาง" ที่บริเวณใต้ฐานพระเจ้าใหญ่
2. หลวงพ่อสิงห์
- หลวงพ่อสิงห์ หรือ พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์อีกองค์ที่ประดิษฐานอยู่ในวิหาร เพื่อให้ประชาชนได้สักการะคู่กับพระเจ้าใหญ่ ท่านคืออดีตเจ้าอาวาส ผู้เคยบูรณะปฏิสังขรณ์วัดหงษ์ ด้านล่างมี ควายธนู ถูกถวายโดยลูกศิษย์หลวงพ่อสิงห์ เป็นเครื่องรางของขลังตามความเชื่อไทยโบราณที่ทำหน้าที่เป็นยามเฝ้าทรัพย์สิน ป้องกันภูตผีปีศาจ และคุณไสย

3. พระธาตุหงษ์ทองคำ
- "พระธาตุหงษ์ทองคำ" สร้างเมื่อปี พ.ศ. 647 โดยหลวงปู่ลุน สุธีโร ภูเขาควายเมืองลาวและชาวบ้านเมืองลาวโดยมีนายคำพูน ชาวเขมร เป็นหัวหน้าช่าง มีพระอริยะสงฆ์ร่วมพุทธาภิเษก ๓ รูป คือ 1. หลวงปู่ลุน สุธีโร ภูเขาควายเมืองลาว 2. หลวงปู่ใหญ่เทพโลกอุดร หรือ หลวงปู่เพชรจากศรีเทพ และ 3. หลวงปู่บุญ หรือหลวงปู่คำน้อยจากเมืองละโว้
พอสร้างเสร็จได้มีหงษ์ 2 ตัวจากป่าหิมพานต์ได้มากินน้ำ ที่บ่อน้ำใกล้พระธาตุเจดีย์ห่าง 2๐ วา ซึ่งมากินน้ำปีละครึ่ง จึงพร้อมใจกันตั้งชื่อพระธาตุเจดีย์ว่า “พระธาตุหงษ์ทองคำ” และชื่อสระน้ำว่า “สระหงษ์”

4. ศาลเจ้าแม่ตะเคียนทอง
- เจ้าแม่ตะเคียน เจ้าแม่ประดู่แดง และ แม่นมนวลจันทร์ เป็นเทพารักษ์ตามความเชื่อดั้งเดิมของไทย ใรบิรเวณนี้มักมีผู้คนนิยมมาขอพร โดยเฉพาะเรื่องโชคลาภ หรือ การขอความเป็นสิริมงคล โดยศาลนี้จะอยู่แยกออกมาจากอาคารหลักของวัด

5. พระแม่กวนอิม
- พระแม่กวนอิม (อวโลกิเตศวรโพธิสัตว์) เป็นเทพในศาสนาพุทธมหายาน ที่แสดงถึงความเมตตากรุณา เป็นที่เคารพของชาวพุทธเชื้อสายจีน และผู้ที่ต้องการขอพรด้านความเมตตา ความสงบ และการคุ้มครองบุตร ประดิษฐานอยู่บริเวณลานด้านนอกหน้าวิหาร
ทำไม “องค์พระเจ้าใหญ่” ถึงศักดิ์สิทธิ์?
พระเจ้าใหญ่ เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยหรือปางชนะมาร มีพระวรกายงดงามสง่า พุทธลักษณะ ปางมารวิชัย วัสดุสัมฤทธิ์ ปางสมาธิ หน้าตักกว้าง 1.6 เมตร สูง 2 เมตร สร้างด้วยศิลาแลง มีอายุอยู่ประมาณพุทธศตวรรษที่ 19-20 ช่างที่สร้างอาจเป็นช่างสกุลลาว ศิลปะล้านช้าง
- ตำนานจากแท่นประดิษฐาน พระเจ้าใหญ่จำลอง ณ วัดหงษ์ บุรีรัมย์ เล่าว่า ย้อนไปในราว พุทธศตวรรษที่ 8 (พ.ศ. 600–700) มีพระธุดงค์รูปหนึ่งเดินทางมาปักกลดใกล้เขตบ้านหลวงปู่ปู โดยได้จารวัตรมาจาก ถ้ำญาณอรุณ เมืองสระบุรี
ท่านได้พบหญิงสาวชาวบ้านผู้มีศรัทธาแรงกล้านามว่า “แม่มอง เมืองฝาง” ทั้งสองจึงร่วมแรงร่วมใจกันสร้างพระพุทธรูปองค์ใหญ่ขึ้น เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา และตั้งนามว่า “พระเจ้าใหญ่” - ต่อมาเมื่อประมาณปี พ.ศ. 648 ได้เกิดน้ำหลากไหลลงมาจากเขตดงเสือ ทำให้องค์พระจมหายไปใต้หนองน้ำ ชาวบ้านในยุคนั้นไม่สามารถอัญเชิญองค์พระขึ้นมาได้ จึงได้บูชาท่านด้วยดอกไม้ธูปเทียนอยู่ใต้ต้นโพธิ์ริมหนองน้ำเป็นประจำ

การเชิญประดิษฐาน ณ วัดหงษ์ บุรีรัมย์
หลายร้อยปีต่อมา พระครูบาบุญมี อินฺทเมธี เจ้าอาวาสวัดหงษ์ ได้มีนิมิตเห็นองค์พระเจ้าใหญ่ใต้หนองน้ำท่านจึงชวนชาวบ้านช่วยกันขุดขึ้นมา และพบพระพุทธรูปทองสัมฤทธิ์ขนาดใหญ่ ปางมารวิชัยงดงามสมบูรณ์ชาวบ้านต่างปลื้มปีติ และได้อัญเชิญองค์พระมาประดิษฐานไว้ที่ วัดหงษ์ เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้กราบสักการะ
โดยได้มีการจัดงานสมโภชองค์พระเจ้าใหญ่จำลองในวันที่ 31 ธันวาคม 2557 เพื่อให้ประชาชนได้ร่วมบุญ และน้อมรำลึกถึงคุณงามความดีของหลวงปู่ปู ผู้เป็นต้นกำเนิดตำนานพระเจ้าใหญ่

พิธีการสาบานต่อหน้าองค์พระเจ้าใหญ่
เรื่องเล่าของ องค์พระเจ้าใหญ่ วัดหงษ์ บุรีรัมย์ มีหลายตำนาน แต่ที่เล่าขานกันมากที่สุดคือ “การกล่าวคำสาบาน” ว่ากันว่า หากใครพูดปดหรือไม่รักษาคำสาบานต่อหน้าพระองค์ จะต้องประสบเคราะห์กรรมอย่างใดอย่างหนึ่งภายในไม่กี่วัน
โดยพิธีการ ผู้ที่ต้องการสามารถสอบถามกับ มัคนายก ซึ่งจะช่วยประกอบพิธีกรรม โดยเริ่มจากการเขียนรายละเอียดการสาบานลงบันทึก เพื่อป้องกันการลืม สาบานจะต้องจุดธูป 9 ดอก ตั้งจิตให้มั่น แล้วกล่าวคำอธิษฐานด้วยใจจริงต่อหน้าองค์พระเจ้าใหญ่ โดยมักจะกล่าวคำว่า
“ข้าแด่พระเจ้าใหญ่ผู้ศักดิ์สิทธิ์ ข้าพเจ้าได้มาให้คำศัพท์ปฏิญาณตนต่อหน้าองค์พระเจ้าใหญ่ ขอดื่มน้ำสาบานถ้าหากข้าพเจ้าผิดคำสาบาน ขอให้องค์พระเจ้าใหญ่ลงโทษลงทัณฑ์ ให้อันมีเป็นไปต่างๆ นาๆ โดย 108 พันตลอดไปเถิด สาธุ ”
หลังจากนั้นจะดื่มน้ำสาบาน ถวายดอกไม้ ธูปเทียน และบางคนก็นำผ้าไตรจีวรมาถวาย เพื่อแสดงความเคารพและขอบคุณในคำอธิษฐานนั้น
แต่สิ่งที่งดงามกว่าความขลัง คือ “เจตนาแห่งศรัทธา” เพราะผู้ที่มากราบไหว้ส่วนใหญ่ล้วนมาขอให้ชีวิตเจริญรุ่งเรือง ขอให้ผ่านอุปสรรค หรือมาสาบานในสิ่งที่ยืนยันด้วยความจริงใจ ถือเป็นการย้ำเตือนให้มนุษย์มี “สัตย์” ต่อคำพูดของตนเอง

ความเชื่อเรื่อง “บาปบุญ-ความยุติธรรม” ที่ฝังแน่น
วัดหงษ์ไม่ใช่เพียงสถานที่ทางศาสนา แต่ยังเป็น “สัญลักษณ์ของความยุติธรรม” ในใจของชาวบุรีรัมย์อีกด้วย เพราะการสาบานต่อองค์พระเจ้าใหญ่เป็นเหมือนการยืนยันด้วยจิตวิญญาณว่า “เราพูดความจริง”
ชาวบ้านจึงมักพากันมาสาบานในกรณีที่มีข้อพิพาท เช่น เรื่องหนี้สิน หรือเรื่องที่ตกลงกันไม่ได้ เพื่อให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์เป็นพยาน นับว่าเป็นความเชื่อที่แสดงให้เห็นถึงวิถีของคนอีสาน ที่ผสมผสานระหว่างศาสนาและศรัทธาอย่างลงตัว

งานเทศกาลปิดทองพระเจ้าใหญ่วัดหงษ์ปี 2569 ครั้งที่ 81
ในทุกวันขึ้น 14 ค่ำถึงวันแรม 1 ค่ำ เดือน 3 ทุกปี จะมีงานนมัสการปิดทองพระเจ้าใหญ่วัดหงษ์ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ ประธานของวัด มีกิจกรรมทั้งการทำบุญไหว้พระและมีมหรสพต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นคอนเสิร์ต รวมร้านค้าและหมอลำ ภาพยนต์ รวม 3 วัน และในปี 2569 มีกำหนดการจัดงานในวันที่ 1-7 กุมภาพันธ์ ปี 2569

พิกัดและการเดินทางไป “วัดหงษ์ บุรีรัมย์”
- ที่ตั้ง: บ้านศีรษะแรด ตำบลมะเฟือง อำเภอ พุทไธสง บุรีรัมย์ 31120
- เวลาเปิด: ทุกวัน 07.00 – 18.00 น.
- การเดินทาง: จากตัวเมืองบุรีรัมย์ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 2075 ไปทางอำเภอพุทไธสง ระยะทางประมาณ 40 กิโลเมตร หรือ คลิกเพื่อปักพิกัด
- เพจวัด: วัดหงษ์
บทสรุป
ศรัทธาไม่ใช่แค่ความกลัว แต่คือความเคารพในความจริง น้องบุรีรัมย์น่าอยู่ขอฝากไว้ว่า เสน่ห์ของ วัดหงษ์ บุรีรัมย์ ไม่ได้อยู่แค่ในตำนานความขลัง แต่คือ “พลังแห่งศรัทธา” ที่ทำให้คนไม่ลืมว่าความจริง ความดี และความยุติธรรม ยังมีที่พึ่งในใจ
ใครที่ผ่านมาบุรีรัมย์ อย่าลืมแวะไปกราบไหว้ “องค์พระเจ้าใหญ่” สักครั้งนะคะ นอกจากจะได้ทำบุญเสริมบารมี ยังเป็นอีกหนึ่งสถานที่สำคัญของอำเภอพุทไธสงที่มีประวิติศาสตร์และศิลปะที่สวยงาม
สำหรับใครที่กำลังมองหา บ้านบุรีรัมย์, ทาวน์เฮ้าส์บุรีรัมย์, คอนโดบุรีรัมย์ และ บ้านแฝดบุรีรัมย์ สามารถเข้าชมได้บนเว็บไซต์ บุรีรัมย์น่าอยู่ เลือกบ้านที่ใช่ ในราคาที่ตรงใจได้ง่ายๆ ติดต่อเจ้าของได้โดยตรง ไม่มีค่าบริการ
บทความที่น่าสนใจ
- checkpoint 7 สถานที่มู สุดปัง จังหวัดบุรีรัมย์
- แจกพิกัด 10 วัดบุรีรัมย์ ที่สายบุญ ไม่ควรพลาด
- เปิด 5 พิกัดมู เทพในบุรีรัมย์ เสริมโชคลาภ การงาน 2568
- 12 จุดเช็คอิน ใกล้ ปราสาทเขาพนมรุ้ง บุรีรัมย์ เที่ยวครบจบได้ในวันเดียว
บุรีรัมย์น่าอยู่ เว็บไซต์อสังหาฯ ที่รวมทุกเรื่องที่อยู่ของคนบุรีรัมย์ ค้นหาบ้าน ทรัพย์มือสอง บริการรับสร้างบ้าน บริการเช่าหอพัก และ ที่ดินทำเลดี ได้จากลิงค์ด้านล่างเลยค่า 👍