สถาปัตยกรรมร่วมสมัย ก้าวข้ามผ่านกาลเวลา หนึ่งเดียวในอีสาน

.

.

เปิดศักราชใหม่ 2565 ไบร์ทและพี่ๆ อุบลน่าอยู่จะพาคุณผู้อ่านไปชม บ้าน อาคาร หรือสถานที่ในอุบล ที่มีความน่าสนใจ เพื่อเป็นตัวเลือกให้กับคุณ ชาวอุบลและนักท่องเที่ยวจากที่อื่นๆ ได้รู้จักกับ จังหวัดอุบล ผ่านมองมุมเชิงการออกแบบ การก่อสร้าง และการอยู่อาศัย ในจังหวัดของเรา และสำหรับวันนี้ เราจะทุกคน ไปดูโรงแรมที่หลายคนในวงการออกแบบ เค้านิยามกันว่า The Boutique Heritage Stay แห่งแรก ในอีสาน กับที่นี่ เวฬา-วาริน

.

.

เวฬาวาริน ตั้งอยู่ใกล้กับสถานนี้รถไฟของจังหวัดอุบล ซึ่งอยู่บริเวณตัวอำเภอวารินชำราบ หากหลายคนที่ยังไม่เคยมาอาจจะไม่รู้ว่า อำเภอนี้อยู่ติดกับอำเภอเมืองเลย ไปมาสะดวกมากๆ  ที่นี่เป็นอาคารไม้ 3 ชั้น ที่มีอายุเก่าแก่ หลายสิบปี เดิมถูกใช้งานมีหลากหลายรูปแบบ ทั้งการเป็นโรงแรม ห้องพัก ร้านอาหาร และมีการทิ้งร้าง จากความทรุดโทรมของอายุอาคารที่ต้องการการบูรณะอยู่หลายปี ที่นี่เป็นหนึ่งในแลนมาร์ค ในความทรงจำของใครหลายคนที่แวะผ่านอำเภอวารินชำราบ จนถึงวันนี้ ที่ตำนานและความทรงจำของเมือง กลับเข้ามาอยู่ในความรับผิดชอบของ คุณบี อภิวัชร์ ศุภากร ผู้เป็นรุ่นหลานที่กล้าตัดสินใจที่จะพยายามเก็บทุกความทรงจำอันมีค่าของอาคารที่มีต่อเมืองนี้เอาไว้ให้มากที่สุดที่จะเป็นไปได้ จึงตัดสินใจที่จะปรับปรุงให้โรงแรมแห่งนี้กลับมามีชีวิต ภายใต้ชื่อใหม่ เวฬา-วาริน อันมีที่มาจากต้นกำเนิดของอาคารที่หมุนเวียนผ่านกาลเวลาและสถานที่ของเมืองวารินชำราบ

.

.

มาถึงทางเข้าของตึกที่นี่ จะเห็นว่าเค้าแบ่งทางเข้าหลักๆ ออกเป็น 2 ทาง เพราะว่าการใช้งานที่นี่ไม่เป็นแค่ที่พัก แต่เค้าทำเป็นส่วนของ คาเฟ่ ร้านกาแฟด้วย ส่วนนึงเพื่อเอาไว้รองรับนักท่องเที่ยว ที่อาจจะไม่ได้มาพัก ก็สามารถแวะมาทักทายและสัมผัสบรรยากาศของอาคารหลังนี้ได้ ส่วนสำหรับผู้เข้าพัก ทางเข้าเค้าจะอยู่ทางนี้นะคะ (เดินเข้าไปทางขวา)

.

.

อย่างที่บอกไว้ตอนต้น ที่นี่เค้าเป็นอาคารที่ความเป็นประวัติศาสตร์ และด้วยความตั้งใจที่จะเก็บร่องรอยความทรงจำเอาไว้ให้มากที่สุด เราจะมองเห็นทั้งวัสดุและองค์ประกอบที่บอกเล่าความเป็นมา แต่ก็ผสมผสาน โทนสีขาว สะอาดสะอ้าน เข้ามาด้านในสุดตรงนี้ จะเป็นพื้นที่ของ Court Yard ที่ห้อมล้อมด้วยบรรยากาศรูปแบบอาคารไม้แบบไทยผสมผสานกับความเป็นจีน เป็นจุดที่ทำให้รู้สึกว่า เราถูกแบ่งแยกออกจากถนนที่วุ่นวายภายนอกได้ดีมากๆ

.

.

มาถึงตรงนี้ไบร์ท ขอแวะอธิบายเพื่อนๆ ก่อนว่า ที่ เวฬา-วาริน แห่งนี้เค้าจะทำออกมาเป็นห้องพักจำนวน 11 ห้อง กระจายอยู่ที่ชั้น 1 - 2 และ 3 โดยห้องทั้งหมดจะมีความแตกต่างกัน สำหรับเพื่อนๆ ที่อยากจะมาพักอาจจะต้องเช็คห้องที่ว่างให้ดีๆ หน่อยเพราะทั้งราคาและจำนวนเตียงก็ไม่เท่ากันเลยนะ  ซึ่งวันนี้เราจะไปชมห้องพักกัน 2 แบบคือ ห้องทวิภพ ห้องที่สถาปนิกผู้ออกแบบได้นิยามไว้ว่า เป็นพระเอกของอาคารหลังนี้เลย และอีกห้องคือห้อง ..... แต่ละห้องจะเป็นยังไงไปดูกันคะ

.

.

มากันที่ห้องแรก ห้องทวิภพ ตั้งอยู่ที่ชั้น 2 ของอาคาร เหตุที่ห้องนี้เรียกห้องทวิภพ เพราะห้องนี้จะมองเห็นระเบียง 2 ชั้นทางด้านนอกตรงนี้แหละที่เป็นที่สุดของความตั้งใจ ที่จะเก็บรูปลักษณ์ภายนอกของอาคารไว้  แม้ว่า สัดส่วนอาคาร ผนัง ความสูงห้องจะไม่เหมือนเดิมก็ตาม เป็นจุดเชื่อมต่อของอาคารหลังเดิมและหลังใหม่ที่เกิดขึ้น เป็นจุดบรรจบของเวลา อันเป็นที่มาของ เวฬา-วาริน จากตรงนี้จะเห็นว่า ทางผู้ออกแบบและเจ้าของใช้วิธีเก็บรุปลักษณ์ภายนอกไว้ แล้วก็สร้างภายในขึ้นใหม่ด้วยโครงสร้างเหล็กและปูน เพื่อพยุงรุปลักษณ์อาคารภายนอก หรือที่เรียกกันในภาษาการออกแบบว่า FAÇADE ตรงจุดนี้รู้เลยว่าต้องใช้ทั้งความตั้งใจ ความพยายาม และงบประมาณสูงมากๆ พวกเราเองตอนได้ยินครั้งแรกยังแอบคิดในใจว่า รื้อสร้างใหม่น่าจะเป็นตัวเลือกที่ง่ายและประหยัดกว่ามาก

.

.

ที่ห้องนี้ เราอยากบอกว่า ครั้งแรกที่มาบอกเลยว่าเดาแทบไม่ออกเลยว่าเค้าจะทำเป็นแบบไหน ที่นี่เค้าใช้เวลากว่า 1 ปีในการก่อสร้างอาคารหลังนี้บวกกับเงินทุนหลายล้านบาท ตัวฺไบร์ทเองเคยมีโอกาสเข้ามาดูอาคารนี้ตอนกำลังเริ่มโครงการ ตอนนั้นก็เดาไม่ออกว่าจะออกมาเป็นแบบไหน แค่ฟังก็รู้สึกว่า เป็นการทำงานที่ยากสุดๆ แต่พอเสร็จแล้วไบร์ทรู้สึกเลยว่าที่นี่จะต้องเป็นอีกหนึ่ง แลนมาร์ค ที่อยากให้เพื่อนๆ และนักเดินทางทุกคนได้มาสัมผัสจริงๆ

.

.

ที่ชั้น 3 จะเป็นที่ตั้งของห้อง Winter Balcony ห้องนี้มีเอกลักษณ์ตรงนี้มองเห็นรูปแบบของโครงสร้างหลังคาไม้แบบเดิม ประตูหน้าต่างและช่องแสงแบบที่นิยมในยุคโบราณ  มองออกไปเห็นวิวทิวทัศน์ชั้น 3 ที่มองเห็นไกลไปถึงสถานีรถไฟ บรรยากาศของพักโดยรวมถึงว่ากว้างขวางและน่าอยู่ไปอีกแบบ เชื่อว่าเป็นอีกห้องที่เพื่อนๆ น่าจะชอบไม่แพ้ห้องทวิภพแน่นอน

.

.

ที่ห้องนี้จริงๆ แล้วยังมีความพิเศษอีกหนึ่งอย่างที่ทางเจ้าของอย่างคุณบี ชื่นชอบเป็นพิเศษ คือตรงระเบียงห้อง ณ มุมนี้ จะสามารถมองเห็นรูปแบบการยึด และเสริมโครงเหล็กเพื่อรักษาผนังอาคารตัวเดิมไว้ และตรงนี้กับเสาอาคารต้นเดิมที่เป็นเสาเอกตั้งแต่ก่อสร้างอาคารตอนแรกสุด แปลว่าเสาต้นนี้น่าจะอายุไม่น้อยกว่า 60 ปีเลยนะทุกคน

.

.

อีกหนึ่งส่วนที่สำคัญของที่นี่ เวฬา บาร์ ตรงนี้ใช้เป็นจุดบริการอาหารเช้าแก่ผู้เข้าพัก ซึ่งจัดมาเป็นแบบ Alacart set ที่ให้ผู้เข้าพักสามารถเลือกเมนูที่ชอบได้ โดยเน้นไปที่วัตถุดิบและรสชาติสไตล์พื้นถิ่นเป็นสำคัญ ส่วนในเวลากลางวันที่นี่จะเป็นแปลงสภาพเป็นมุม คาเฟ่ ยามบ่าย ที่บริการเมนูเครื่องดื่มและขนมหลากเมนู เพื่อนๆ สามารถแวะมาลิ้มลองได้ตลอดทั้งวัน โดยเมนูที่ไบร์ทแนะนำ น่าจะเป็นวาฟเฟิล ทานคู่กับไอศกรีมรสชาติวนิลา

.

.

เหตุผลนึงที่ไบร์ท ชวนพี่ๆ อุบลน่าอยู่มารีวิวที่นี่ เพราะเราอยากมีโอกาสนำเสนอความตั้งใจ ของคุณบีเจ้าของที่นี่ เวฬา-วาริน อาคารที่ทำหน้าที่มากกว่าการใช้สอย แต่เป็นสัญลักษณ์ของการบันทึกเรื่องราวของเมือง ระหว่างลงหาข้อมูลเราได้ยินผู้คนที่ผ่านมามากมายต่างล้วนชื่นชม ความพยายามของเจ้าของ - ผู้ออกแบบ ที่จะเก็บเอาความทรงจำของเมืองเอาไว้ ให้สมกับชื่อ เวฬา-วาริน จุดเชื่อมโยงของความทรงจำ ยุคสมัยและกาลเวลา ของเมืองวารินชำราบ
.
พวกเราอุบลน่าอยู่เชื่อว่า เมืองอุบลยังคงมีสถานที่อีกมาก ที่รอให้เพื่อนๆ รวมถึงนักท่องเที่ยวได้มาสัมผัสกัน และพวกเราเองก็จะขอเป็นส่วนนึงที่จะถ่ายทอดมุมมองที่น่าสนใจแก่ทุกๆ คน ครั้งหน้าเราจะไปที่ไหน เพื่อนๆ สามารถติดตามพวกเราได้ผ่านช่องทางทั้ง facebook และ Youtube สำหรับวันนี้พวกเราขอลาไปก่อน บ๊าย....บาย

.


เรา "อุบลน่าอยู่" ยังได้รวบรวมบทความการรีวิว หอพัก บ้านใหม่ ทรัพย์มือสอง ที่ดินเปล่า เรื่องน่ารู้น่าสนใจในวงการอสังหาริมทรัพย์ และไลฟ์สไตล์ในจังหวัดอุบลราชธานี อีกมากมาย
ใน 👉บทความและข่าวสารอสังหาริมทรัพย์ ภายในเว็บไซต์ของเรา

สามารถแวะเข้ามาชมข้อมูลโครงการบ้านอื่นๆ ในอุบลได้ที่

ติดต่อโฆษณากับเรา "อุบลน่าอยู่"

  • 👉Tel. :  066 164 1649
  • 👉Email : ubonnayoo@gmail.com