ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 23 เมษายน 2567 เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้เชิญผู้บริหาร 4 ธนาคารใหญ่เข้าหารือเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการลดดอกเบี้ยเพื่อช่วยเหลือกลุ่มเปราะบาง https://www.thairath.co.th/news/politic/2780242

ภายหลังการหารือดังกล่าว นำมาซึ่งการประชุมของ ‘สมาคมธนาคารไทย’ ที่มีมติลดดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) ลง 0.25% เพื่อช่วยลูกค้ากลุ่มเปราะบาง ทั้งลูกค้าบุคคลและ SMEs เป็นเวลา 6 เดือน แม้ว่าการประชุมครั้งล่าสุด (10 เมษายน) ของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ยังมีมติให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 2.50% ต่อปี

นับจากวันที่สมาคมธนาคารไทยมีมติว่าจะลดดอกเบี้ยต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน (2 พฤษภาคม) ปรากฏว่า มีธนาคารทั้งที่เป็นของรัฐบาลและธนาคารพาณิชย์เอกชนทั้งหมด 12 แห่งที่ประกาศลดดอกเบี้ยแล้ว

ตฤณ สิทธิสวัสดิ์ นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ผลกระทบต่อกำไรของแต่ละแบงก์น่าจะค่อนข้างจำกัด แม้ว่าการให้ความช่วยเหลือของบางแบงก์จะมากกว่าที่ตลาดเคยคาดการณ์ไว้ “เดิมทีตลาดคาดว่าจะเห็นการลดดอกเบี้ยเฉพาะ MRR แต่บางแบงก์ตัดสินใจลดดอกเบี้ยในส่วนอื่นด้วย รวมทั้งการที่บางแบงก์ลดดอกเบี้ยให้กับลูกค้าทุกกลุ่มนอกเหนือจากกลุ่มเปราะบาง”

อย่างเช่น กรณีของธนาคารกรุงเทพ แม้จะลดดอกเบี้ยทั้งพอร์ตของลูกค้ารายย่อย แต่ลูกค้ารายย่อยคิดเป็นเพียง 10% ของยอดปล่อยสินเชื่อทั้งหมด จึงกระทบต่อกำไรไม่ถึง 1%

ส่วนธนาคารกรุงไทยที่ลดดอกเบี้ยทั้งในส่วนของ MRR, MLR และ MOR แต่จำกัดแค่ลูกหนี้รายย่อยที่อยู่ในมาตรการช่วยเหลือ คิดเป็นวงเงินสินเชื่อราว 2 แสนล้านบาท ทำให้ผลกระทบต่อกำไรคิดเป็นเพียงประมาณ 250 ล้านบาท หรือราว 0.7% ของประมาณการกำไรปีนี้

ขณะที่ธนาคารไทยพาณิชย์และกสิกรไทยที่เน้นช่วยเหลือกลุ่มเปราะบาง วงเงินสินเชื่อราว 80,000-100,000 ล้านบาท ทำให้ผลกระทบต่อกำไรจะน้อยกว่า 250 ล้านบาท

“ในแง่พื้นฐานของแต่ละแบงก์ไม่ได้กระทบมากนัก และในมุมกลับกันยังช่วยให้การตั้งสำรองของแต่ละแบงก์ลดลง ช่วยชดเชยรายได้ดอกเบี้ยที่หายไป”

ส่วนแนวโน้มกำไรของกลุ่มแบงก์ในปีนี้ หลังจากที่ไตรมาส 1 ทำได้ราว 6.39 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.5% จากปีก่อน ตฤณกล่าวเพิ่มเติมว่า แนวโน้มกำไรในไตรมาส 2 น่าจะเติบโตทั้งจากไตรมาสแรกและจากปีก่อน หลังจากที่บางแบงก์ตั้งสำรองไปค่อนข้างสูงในไตรมาสแรก ขณะเดียวกันเงินปันผลจากเงินลงทุนของแบงก์ส่วนมากจะเข้ามาในช่วงไตรมาส 2

ดร.พิพัฒน์ เหลืองนฤมิตชัย หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ KKP Research บล.เกียรตินาคินภัทร เปิดเผยว่า การตัดสินใจลดดอกเบี้ยของบรรดาธนาคารต่างๆ สะท้อนว่าธนาคารน่าจะเล็งเห็นว่าเป็นสิ่งที่มีความจำเป็นในเวลานี้คือ การลดภาระระยะสั้นให้กับลูกหนี้ “ส่วนผลกระทบต่อธนาคารต่างๆ อาจจะมีบ้างแต่ไม่มากนัก เพราะไม่ใช่การลดดอกเบี้ยสำหรับพอร์ตสินเชื่อทั้งหมด”

Cr. ไทยรัฐ ออนไลน์

Cr. สมาคมธนาคารไทย

สำหรับใครที่ชื่นชอบบทความแบบนี้ ชลบุรีน่าอยู่ยังมีบทความดี ๆ เกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย ความรู้ดีๆเกี่ยวกับอสังหาฯ การท่องเที่ยว  การเดินทาง เศรษฐกิจ ภาคตะวันออก และอีกมากมายที่รอให้คุณได้ค้นพบที่ https://nayoo.co/chonburi

บทความแนะนำ

📌สนใจลงโฆษณา & ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ :
🔵Facebook : ชลบุรีน่าอยู่
✅Line Official : @ChonburiNaYoo
📞Tel : 099-1254780
📥Email : info.chonburinayoo@gmail.com

" มองหาที่อยู่ คิดถึงชลบุรีน่าอยู่ " ใช้ฟรี❗ไม่มีค่าใช้จ่าย