จากวิกฤตหนี้บ้านของคนไทย ภาวะซัพพลายล้นตลาด และราคาที่อยู่อาศัยสูงขึ้นจนจับต้องได้ยาก ในขณะเดียวกันสถาบันการเงินก็เข้มงวดเรื่องการปล่อยสินเชื่อจนเกิดเทรนด์เช่าอยู่ดีกว่าซื้อ ทำให้นักลงทุนหลายคนรู้สึกหวั่นใจว่าการลงทุนอสังหาในไทยยังดีอยู่ไหม?
เพื่อช่วยหาคำตอบบทความนี้น้องน่าอยู่ได้รวบรวมข้อมูลจุดแข็ง จุดอ่อน และโอกาสลงทุนในอสังหาไทยเจาะลึกด้วยข้อมูลจริงแบบไม่มโน เพื่อเป็นข้อมูลให้กับเพื่อนๆ ที่กำลังมองหาโอกาสในการลงทุน นอกจากนี้ยังมีกลยุทธ์การลงทุนอสังหาทรัพย์ที่น่าสนใจมาแนะนำกันอีกด้วยนะครับ หากพร้อมแล้วไปกันเลยครับ
แนวทางในการลงทุนสำหรับนักลงทุนมือใหม่ขอแนะนำบทความ อสังหาริมทรัพย์ คืออะไร? ชี้ 5 ประเภทอสังหาฯ สร้าง Passive Income
จุดแข็งของการลงทุนอสังหาในไทย
ถึงแม้ว่าตลาดการลงทุนอสังหาของไทยจะชะลอตัวลง แต่ก็ยังมองเห็นโอกาสในการลงทุนในหลายด้านๆ ด้วยจุดแข็งของเมืองไทยมีดังต่อไปนี้

ทำเลที่ตั้ง
ประเทศไทยมีตำแหน่งที่ตั้งอยู่ศูนย์กลางของภาคตะวันออกเฉียงใต้ ยังคงได้รับความนิยมจากนักลงทุนข้ามชาติที่ต้องการด้วยต้นทุนการลงทุนที่ถูกและมีความพร้อมหลายด้าน เช่น การคมนาคมที่สะดวกทั้งทางบก ทางอากาศ และทางน้ำ เชื่อมต่อไปยังประเทศต่างๆ ในเอเชียได้ง่าย แถมผลิตไฟฟ้าส่งออกได้อีกด้วย ส่งผลให้มีการลงทุนด้าน Data Center โลจิสติกส์ และอื่นๆ จึงยังคงมีความต้องการการลงทุนอสังหาทรัพย์ในเชิงพาณิชย์ อาคารสำนักงาน โกดังศูนย์กระจายสินค้า และที่อยู่อาศัยของนักลงทุน
เมืองท่องเที่ยวยอดนิยม
อย่างที่ทราบกันดีว่ากรุงเทพได้รับการจัดอันดับให้เป็นเมืองที่นักท่องเที่ยวมาเยือนมากที่สุดในโลกหลายปีติดกัน อีกทั้งมีสถานที่ท่องเที่ยวและวัฒนธรรมที่หลากหลาย มีทะเลที่สวยงามติดอันดับโลก ส่งผลการลงทุนอสังหาธุรกิจโรงแรม รีสอร์ท คอนโดยังคงเป็นที่ต้องการ
การเติบโตด้านเศรษฐกิจ
เศรษฐกิจของไทยยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง มีการลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่สร้างโอกาสทางธุรกิจมากมาย เช่น โครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor : EEC), การขยายตัวของรถไฟฟ้าในกรุงเทพและปริมณฑล และการขยายท่าอากาศยานในกรุงเทพให้รองรับผู้โดยสารได้มากขึ้น และโครงการพัฒนารถไฟฟ่าความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง, สุวรรณภูมิ และอู่ตะเภา) ส่งผลให้พื้นที่โดยรอบยังมีโอกาสการลงทุนอสังหาทรัพย์อีกมาก
ค่าครองชีพและราคาการลงทุนในอสังหาไม่สูง
หากเทียบกับหลายประเทศในพื้นที่ใกล้เคียงที่มีความเจริญ เช่น สิงคโปร์, ฮ่องกง หรือญี่ปุ่น ค่าครองชีพและต้นทุนการลงทุนอสังหาที่อยู่ในไทยถือว่ามีต้นทุนที่ต่ำกว่า อีกทั้งการใช้ชีวิตที่มีอิสระสะดวกสบาย มีอาหารให้เลือกหลากหลาย ราคาถูก เข้าถึงได้ตลอดเวลา และมีความปลอดภัยสูง ส่งผลให้ชาวต่างชาติไม่ว่จะเป็นนักลงทุน นักท่องเที่ยว หรือคนทำงานแบบ Remote นิยมเข้ามาท่องเที่ยว หรืออาศัยอยู่ในเมืองไทย ทำให้ธุรกิจเช่าที่พักระยะยาวระยะสั้นยังมีโอกาสสูง
การสนับสนุนจากภาครัฐ
อีกจุดแข็งของไทยการลงทุนอสังหาทรัพย์ยังคงได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น มาตรการลดค่าธรรมเนียมโอน-จดจำนองสำหรับที่อยู่อาศัยไม่เกิน 3 ล้านบาท, โครงการเราเที่ยวด้วยกันที่ส่งเสริมให้คนไทยท่องเที่ยวไทยในช่วงโลว์ซีซัน ส่งผลให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจในด้านอสังหาและการท่องเที่ยว
จุดอ่อนของการลงทุนในอสังหาไทย
จากจุดแข็งในหัวข้อที่ผ่านมาดูเหมือนว่าการลงทุนอสังหาในไทยยังคงดูสดใสไม่น้อย แต่จากการชะลอตัวของตลาดอสังหาสะท้อนให้เห็นว่ายังคงมีความเสี่ยงที่ต้องใส่ใจ ซึ่งจุดอ่อนที่ควรระวังมีดังต่อไปนี้
ซัพพลายล้นตลาด (Oversupply)
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมีการลงทุนในอสังหาเปิดโครงการจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นคอนโด, บ้านเดี่ยว, ทาวน์โฮม และอาคารสำนักงาน ส่งผลให้เกิดภาวะซัพพลายล้นตลาด (Oversupply) มีคอนโดบ้านเหลือขายและไม่มีผู้เช่าหลายโครงการ ขอยกตัวอย่างบางพื้นที่ในกรุงเทพที่มีภาวะคอนโดล้นตลาด เช่น พระโขนง, อ่อนนุช, บางนา, รัชดาภิเษก, ห้วยขวาง, พระราม9 และ รามคำแหง ควรมีการตรวจสอบข้อมูลก่อนลงทุน ในต่างจังหวัดได้แก่ ชลบุรี, ภูเก็ต, หัวหิน และเชียงใหม่
ความไม่แน่นอนทางการเมือง
ดูเหมือนการเมืองไทยจะนิ่งแล้วแต่ในสายตานักลงทุนต่างชาติยังคงมองว่าการเมืองของเมืองไทยยังมีความไม่แน่นอน เนื่องจากรัฐบาลในปัจจุบันยังเป็นพรรคร่วม การบริหารงานยังขาดศักยภาพ และการเปลี่ยนนายกรัฐมนตรีหลายครั้งไม่ได้เกิดจากการเลือกตั้งตามวาระ ปัจจัยเหล่านี้ถือว่ายังเป็นความเสี่ยงต่อการลงทุน
ความผันผวนทางเศรษฐกิจ
จากผลกระทบสงครามการค้าโลกและการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีที่ AI มีอิทธิพลมากขึ้น ส่งผลให้ธุรกิจหลายตัวต้องปิดกิจการลง คนตกงานมีมากขึ้นเพราะการสมัครงานมีการจำกัดอายุและนักศึกษาจบใหม่หางานยากมากขึ้น สิ่งเหล่านี้ทำให้ประชาชนรายได้ลดลงจนเกิดภาวะหนี้ครัวเรือนสูงสถาบันการเงินต้องเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ แถมต้นทุนกู้เงินสูงเนื่องด้วยดอกเบี้ยแพง โครงการอสังหาจึงเปิดตัวได้น้อยลงทำให้นักลงทุนต่างชาติเกิดความลังเลในการเข้ามาทำการลงทุนอสังหาในไทย
ข้อจำกัดการถือครองที่ดินของต่างชาติ
ชาวต่างชาติไม่สามารถถือครองที่ดินในไทยได้โดยตรง แต่ก็ยังสามารถเป็นเจ้าของคอนโดได้แต่ไม่เกิน 49% ของโครงการ และยังติดขัดในเรื่องกฎหมายหลายด้าน เช่น หากมาทำงานในไทยต้องมีการรายงานตัวทุก 3 เดือน ซึ่งตรงนี้เป็นการลดโอกาสให้ชาวต่างชาติที่เป็นพลเมืองชั้นดีเข้ามาอยู่ในเมืองไทยได้น้อยลง
โอกาสการลงทุนอสังหาทรัพย์ในไทย

หากนักลงทุนได้ศึกษาข้อมูลการลงทุนอสังหาในไทยอย่างละเอียด จะพบว่ายังมีโอกาสในการลงทุนอีกมากและยังมีความมั่นคงมากกว่าการลงทุนในสินทรัพย์ประเภทอื่นอีกด้วย ขอแนะนำโอกาสลงทุนในอสังหาในไทย
การเติบโตของธุรกิจปล่อยเช่า
การเลือกทำเลยังเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในธุรกิจปล่อยเช่า โดยเฉพาะทำเลใกล้แหล่งทำงานใจกลางเมืองที่มีความจำเป็นต้องเช่าอยู่อาศัย เป็นโอกาสการลงทุนที่เข้มแข็งมาก ไม่ว่าเศรษฐกิจหรือสถานการณ์โลกจะเป็นอย่างไรก็ยังมีความต้องการสูงอยู่เสมอ แถมปล่อยเช่าในราคาสูงได้อีกด้วย
การเติบโตของเมืองรอง
เมืองรองที่น่าสนใจในภาคใต้ ได้แก่ ภูเก็ต, สงขลา, สุราษฎร์ธานี, และนครศรีธรรมราช ที่กำลังเกิดการฟื้นตัวแรงจากนักท่องเที่ยวและชาวต่างชาติที่หนีภัยสงคราม ส่งผลให้ตลาดอสังหาในภาคกลับมาคึกคักอีกครั้ง นอกจากนี้ยังมีจังหวัดขอนแก่นที่มีการเปิดตัวโครงการคอนโดและบ้านได้อย่างต่อเนื่องจนมียอดขายอสังหาเกือบ 600 ล้านบาท เพราะจะมีการเปิดตัวห้างเซ็นทรัลแห่งที่ 2 ในปี 69
การขยายตัวของโครงสร้างพื้นฐาน
บริเวณโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor : EEC) ยังมีโอกาสในการปล่อยเช่าหรือเก็งกำไรในธุรกิจโลจิสติกส์ การขยายเส้นทางรถไฟฟ้าในกรุงเทพฯ เพิ่มโอกาสลงทุนอสังหาตามแนวเส้นทาง ไม่ว่าจะเป็นอาคารพาณิชย์ หรือคอนโด
ที่อยู่อาศัยเพื่อผู้สูงอายุ
สังคมไทยกำลังก้าวเข้าสู่งสังคมผู้สูงอายุซึ่งเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อ เนื่องจากเป็นการใช้เงินสะสมในช่วงท้ายของชีวิต การลงทุนด้านที่อยู่อาศัยเพื่อผู้สูงอายุยังมีความต้องการสูง โดยเฉพาะบริเวณใกล้โรงพยาบาล หรือแหล่งที่อยู่อาศัยที่เข้าถึงสถานพยาบาลได้สะดวก
นโบายสนับสนุนการลงทุนอสังหาจากรัฐบาล
จากมาตรการลดค่าธรรมเนียมโอน-จดจำนองส่งผลให้ตลาดบ้านมือสองกลับมาคึกคักมากขึ้น ด้วยทำเลอยู่ใจกลางเมืองใกล้รถไฟฟ้า ราคาถูกกว่าบ้านโครงการใหม่มาถึง 10-30% ต่อรองราคากับเจ้าของบ้านได้ง่ายบ้านโครงการที่กำหนดราคาตายตัว เจ้าของบ้านบางรายต้องการขายด่วนพร้อมลดราคาให้อีกด้วยนะครับ ส่งผลให้นักลงทุนสายรีโนเวทกลับมาสนใจตลาดนี้มากขึ้น
กลยุทธ์การลงทุนอสังหาที่น่าสนใจ

ขอแนะนำกลยุทธ์ในการลงทุนอสังหาที่น่าสนใจที่นักลงทุนมือใหม่มือเก๋าดังต่อไปนี้
- โครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (ECC): ศึกษาการลงทุนในบริเวณใกล้เคียงพื้นที่ของโครงการในจังหวัดชลบุรี ระยอง โอกาสปล่อยเช่าที่อยู่อาศัยและอาคารพาณิชย์ยังมีความต้องการสูง เน้นเลือกทำเลที่มีศักยภาพและมีโอกาสเติบโต
- เส้นทางรถไฟฟ้าสายใหม่: ศึกษาเส้นทางการสร้างรถไฟฟ้าสายใหม่ และลงทุนในพื้นที่ที่กำลังถูกพัฒนามีโอกาสเติบโต แนะนำว่าไม่ควรอยู่ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าไม่เกิน 400 เมตร
- ตลาดเมืองรอง: โดยเฉพาะในภาคใต้และภาคอีสาน เช่น ภูเก็ต, สงขลา, สุราษฎร์ธานี, นครศรีธรรมราช, ขอนแก่น, อุดรธานี, อุบลราชธานี ยังมีความต้องการสูง
- บ้านคอนโดมือสอง: ด้วยปริมาณบ้านคอนโดมือสองทำเลดีเกิดขึ้นจำนวนมาก หากนำมารีโนเวทใหม่ก็สามารถเพิ่มมูลค่าเก็งกำไรระยะสั้นหรือปล่อยเช่าระยะยาวได้
- กองทุนทรัสต์: โดยเฉพาะกลุ่มโลจิสติกส์ หรือ Data Center ยังน่าสนใจไม่น้อยลงทุนอสังหาไม่ต้องใช้เงินก้อนใหญ่ ให้ปันผลที่ดี และความเสี่ยงน้อย
บทสรุป
จบไปแล้วกับการเจาะลึกจุดแข็ง-จุดอ่อน-โอกาสในการลงทุนอสังหาในไทย หวังว่าจะเพื่อนๆ ที่สนใจการลงทุนด้านอสังหาจะได้คำตอบที่โดนใจกันนะครับว่า หากศึกษากันจริงๆ แล้วโอกาสการลงทุนในธุรกิจอสังหาของไทยนั้นยังมีอยู่มาก
สำหรับใครที่กำลังมองหาบ้านเดี่ยว, บ้านแฝด, คอนโดและทาวน์โฮม สามารถเข้ามาเลือกชมได้ที่เว็บไซต์น่าอยู่ นอกจากนี้ยังมีสาระน่ารู้ต่าง ๆ เกี่ยวกับบ้านที่น่าสนใจมาให้ทุกคนได้ติดตามกันอีกด้วยนะครับ
บทความแนะนำ
- ชี้ 7 ที่ดินน่าซื้อขายที่ดินขอนแก่นทำหอพักนักศึกษา ก่อนราคาพุ่ง
- คอนโด Low-rise คืออะไร? ชี้ 7 คอนโดมิเนียมขอนแก่น น่าซื้อปล่อยเช่า
- แชร์ทริคแต่งบ้านมือสอง ตกแต่งบ้านแปลงโฉมยังไงให้ดูเหมือนบ้านใหม่