เหล็ก Flat Bar คืออะไร ขนาด ราคา และวิธีเลือกใช้งานอย่างถูกต้อง

เหล็ก Flat Bar หรือที่หลายคนเรียกว่า “เหล็กแบน” เป็นหนึ่งในวัสดุก่อสร้างที่ สุรินทร์น่าอยู่ พบว่าถูกใช้งานอย่างแพร่หลายทั้งในงานโครงสร้าง งานเชื่อมประกอบ และงานตกแต่งเด้อ! เหล็กชนิดนี้มีลักษณะเป็นเส้นยาวหน้าตัดสี่เหลี่ยมผืนผ้า ความหนาและความกว้างแตกต่างกันไปตามมาตรฐานโรงงาน โดยทั่วไปจะมีความยาวต่อเส้น 6 เมตร ทำให้สามารถนำไปตัด เชื่อม หรือประกอบเข้ากับโครงสร้างได้สะดวก จุดเด่นของเหล็ก Flat Bar อยู่ที่ความแข็งแรง เหนียว และมีขนาดหลากหลาย จึงตอบโจทย์ทั้งงานโครงสร้างอาคาร งานอุตสาหกรรม ไปจนถึงงาน DIY ขนาดเล็กค่ะ

คุณสมบัติและการใช้งานทั่วไป

เหล็ก Flat Bar มีคุณสมบัติที่สำคัญหลายด้าน ทั้งความแข็งแรงและทนต่อแรงดัดงอได้ดี ผิวเรียบ ทำให้สามารถเคลือบสีหรือเคลือบกันสนิมได้ง่าย เหล็กชนิดนี้มักมีความหนาตั้งแต่ 3 มิลลิเมตรจนถึง 25 มิลลิเมตร และความกว้างตั้งแต่ 20 มิลลิเมตรถึง 300 มิลลิเมตร ทำให้สามารถเลือกใช้ได้ตามลักษณะงาน ทั้งงานรับน้ำหนักหนัก งานตกแต่ง หรือชิ้นส่วนเครื่องจักร

การใช้งานทั่วไปแบ่งออกได้เป็นหลายประเภท เช่น งานโครงสร้าง เหมาะกับการทำคานหรือค้ำยัน งานตกแต่ง เหล็ก Flat Bar สามารถนำมาดัดงอ ทำกรอบ หรือทำลายเส้นสายสวยงาม งานเชื่อมต่อ เหมาะสำหรับใช้ประกอบเข้ากับเหล็กรูปพรรณอื่น เช่น H-beam หรือเหล็กกล่อง

ขนาดมาตรฐานของเหล็ก Flat Bar

เมื่อพูดถึงขนาดมาตรฐานของเหล็ก Flat Bar มักจะแบ่งออกตามความกว้างและความหนา เช่น กว้าง 12 มม. ถึง 300 มม. และหนาตั้งแต่ 3 มม. จนถึง 25 มม. โดยความยาวมาตรฐานส่วนใหญ่จะอยู่ที่ 6 เมตรเหมือนกับเหล็กรูปพรรณทั่วไป ขนาดที่เลือกใช้จะขึ้นอยู่กับลักษณะงาน เช่น งานโครงสร้างมักเลือกใช้แบบหนาและกว้างเพื่อรับน้ำหนักมากขึ้น ขณะที่งานตกแต่งหรืองานเชื่อมประกอบทั่วไปอาจใช้ขนาดบางและกว้างน้อยเพื่อลดต้นทุนและความยุ่งยากในการทำงาน

น้ำหนักต่อเส้นสามารถคำนวณได้จากสูตร:

น้ำหนัก (กก.)=ความหนา(มม.)×ความกว้าง(มม.)×ความยาว(ม.)×0.00785

ตัวอย่างเช่น เหล็ก Flat Bar หนา 6 มม. กว้าง 50 มม. ยาว 6 ม. จะมีน้ำหนักประมาณ 14.1 กก. ต่อเส้น

ราคาเหล็ก Flat Bar ในตลาดปัจจุบัน

ในเรื่องของราคา เหล็ก Flat Bar จะถูกคิดตามน้ำหนักต่อเส้นและราคาตลาดเหล็กในช่วงเวลานั้น โดยทั่วไปแล้วราคาอาจแตกต่างกันตามขนาด ความหนา และมาตรฐานการผลิต ปัจจัยที่มีผลต่อราคาหลัก ๆ ได้แก่ ราคาวัตถุดิบเหล็กในตลาดโลก ต้นทุนการผลิต และค่าใช้จ่ายด้านขนส่ง หากต้องการเลือกซื้อ ควรตรวจสอบจากร้านวัสดุก่อสร้างหรือผู้จำหน่ายเหล็กโดยตรงเพื่อเปรียบเทียบราคาและคุณภาพ

วิธีเลือกใช้เหล็ก Flat Bar ให้เหมาะกับงาน

หลายคนอาจสงสัยว่า เหล็ก Flat Bar แตกต่างจากเหล็กรูปพรรณอื่นอย่างไร หากเทียบกับเหล็ก H-beam หรือ I-beam เหล็กแบนจะมีโครงสร้างที่ง่ายกว่าและไม่เหมาะสำหรับงานรับน้ำหนักขนาดใหญ่ แต่มีความยืดหยุ่นสูงในการนำไปใช้งานย่อยหรือเสริมโครงสร้างเล็ก ๆ ส่วนการเทียบกับเหล็กกล่องหรือเหล็กเพลา เหล็ก Flat Bar จะเหมาะกับงานที่ต้องการเชื่อมประกอบเป็นชิ้น ๆ และต้องการความเรียบง่ายในการใช้งาน

เหล็ก Flat Bar vs เหล็กรูปพรรณอื่น (เช่น เหล็ก H-beam, เหล็กกล่อง, เหล็กเพลา)

การเลือกใช้เหล็ก Flat Bar อย่างเหมาะสมควรพิจารณา 3 เรื่องหลัก คือ ประเภทงานที่ต้องการ ความหนาและขนาดที่เหมาะกับการรับแรง และคุณภาพของเหล็กที่ได้มาตรฐาน หากเป็นงานโครงสร้าง ควรเลือกเหล็กที่มีมาตรฐาน มอก. และตรวจสอบว่าไม่มีสนิมหรือการบิดงอ ส่วนงานเชื่อมหรืองานตกแต่งทั่วไปสามารถเลือกใช้ขนาดเล็กเพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายได้

การตัดและการเชื่อมเหล็ก Flat Bar ที่ถูกต้อง

ในกระบวนการทำงานกับเหล็ก Flat Bar สิ่งที่ต้องรู้เพิ่มเติมคือการตัดและเชื่อม หากใช้เครื่องมือตัดหรือเจียร ควรทำอย่างระมัดระวังเพื่อให้ได้ขนาดตามแบบ ส่วนงานเชื่อมต้องใช้ความร้อนที่เหมาะสมและตรวจสอบแนวเชื่อมให้เรียบร้อยเพื่อป้องกันการแตกร้าว ขณะเดียวกันเรื่องการเก็บรักษาก็เป็นสิ่งสำคัญ ควรเก็บเหล็กไว้ในที่แห้ง ไม่สัมผัสน้ำโดยตรงเพื่อป้องกันการเกิดสนิม

การคำนวณน้ำหนักและปริมาณเหล็ก Flat Bar

เคล็ดลับในการคำนวณปริมาณการใช้งานคือการดูที่น้ำหนักเหล็กต่อเส้น ซึ่งสามารถคำนวณจากสูตร (ความกว้าง × ความหนา × ความยาว × ความหนาแน่นของเหล็ก) ÷ 1,000,000
เพื่อได้เป็นหน่วยกิโลกรัมต่อเส้น การรู้ข้อมูลนี้จะช่วยให้สามารถประมาณต้นทุนการซื้อและการจัดส่งได้แม่นยำยิ่งขึ้น

การตัดและการเชื่อมเหล็ก Flat Bar ที่ถูกต้อง

การตัดเหล็ก Flat Bar สามารถทำได้หลายวิธี เช่น ใช้เครื่องตัดไฟฟ้า เครื่องตัดเลื่อย หรือเครื่องตัดด้วยมือ ขึ้นอยู่กับความหนาและความยาวของเหล็ก ส่วนการเชื่อมเหล็กควรเลือกวิธีเชื่อมที่เหมาะสม เช่น MIG, TIG หรือ Arc Welding และตรวจสอบให้แน่ใจว่าเหล็กแห้งและสะอาดก่อนเชื่อม เพื่อให้รอยเชื่อมแข็งแรงและปลอดภัย การทำงานหน้างานควรสวมอุปกรณ์ป้องกัน เช่น ถุงมือ หน้ากาก และรองเท้าเซฟตี้

ข้อควรระวังในการใช้งานเหล็ก Flat Bar

เหล็ก Flat Bar มีแนวโน้มเกิดสนิมเมื่อสัมผัสน้ำหรือความชื้น ควรเก็บรักษาในที่แห้งและระบายอากาศดี การเคลือบสีหรือสังกะสีสามารถช่วยป้องกันสนิมได้ นอกจากนี้ ควรระมัดระวังการวางซ้อนและยกเหล็กอย่างปลอดภัยเพื่อลดอุบัติเหตุ

สรุป

เหล็ก Flat Bar หรือเหล็กแบน เป็นเหล็กรูปพรรณหน้าตัดสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่ สุรินทร์น่าอยู่ อยากแนะนำให้ทุกคนรู้จักเด้อ! มีความหนาและความกว้างต่างกัน เหมาะกับงานโครงสร้าง งานตกแต่ง งานเชื่อมต่อ และชิ้นส่วนเครื่องจักร สามารถตัด เจาะ ดัด หรือเชื่อมได้ง่าย ขนาดมาตรฐานมีความหนาตั้งแต่ 3–25 มม. กว้าง 20–300 มม. และความยาว 6 เมตรต่อเส้น การเลือกใช้งานควรพิจารณาจากประเภทงาน เช่น งานโครงสร้าง งานตกแต่ง หรือการเชื่อมต่อ และที่สำคัญคือการวางแผนคำนวณน้ำหนักและปริมาณเหล็กก่อนใช้งาน จะช่วยลดความเสียหายและค่าใช้จ่าย

บทความที่คุณอาจสนใจ


สำหรับใครที่กำลังมองหาซื้อบ้านสุรินทร์ หรือหอพักสุรินทร์ สามารถเข้ามาเลือกชมบ้าน ที่ดิน หอพักและบริษัทรับสร้างบ้านได้ที่เว็บไซต์สุรินทร์น่าอยู่ นอกจากนี้พวกเรายังมีบทความอื่นๆที่น่าสนใจเกี่ยวกับจังหวัดสุรินทร์อีกมากมาย เช่น อสังหาริมทรัพย์ ที่เที่ยวสุรินทร์ และสาระน่ารู้ต่างๆมาฝากเพื่อนๆทุกคนอีกด้วยนะ


แชร์บทความ

แชร์บทความนี้