ความน่าสนใจของการลงทุนในตลาดอสังหาฯภาคอีสานคือ โอกาสและความต้องการบ้านของกลุ่มผู้ซื้อใหม่ ซึ่ง จ.บุรีรัมย์และสุรินทร์มีกลุ่มผู้ซื้อบ้านที่มีศักยภาพและมีแรงกระตุ้นจากภาครัฐอย่างต่อเนื่อง จึงจำเป็นต้องอัพเทรนด์เทรนด์ใหม่ๆเพื่อเข้าถึงและเข้าใจลูกค้ามากขึ้น
จบไปแล้วสำหรับงาน “น่าอยู่สัญจร งานสัมมนาคนสร้างบ้าน บุรีรัมย์-สุรินทร์ 2567” (Property Marketing and Investment) วันที่ 13 กรกฎาคม 2567 ณ โรงแรมมาเมซอง จ.บุรีรัมย์ งานสัมมนาที่พานักพัฒนาอสังหาฯเจาะลึกข้อมูลธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ นวัตกรรมใหม่ๆ และ ข้อมูล Insight รายจังหวัด จากเหล่า Speakers ผู้คร่ำหวอดในวงการอสังหาฯ ภายในงานจะมีข้อมูลอะไรน่าสนใจและสามารถช่วยให้นักพัฒนาอสังหาฯลงทุนในธุรกิจอสังหาฯได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตอบโจทย์และถูกใจคนหาบ้านยุคใหม่บ้าง อ่านสรุปประเด้นได้จากบทความด้านล่างได้เลยค่า
วางกลยุทธ์ธุรกิจอสังหาฯ บุรีรัมย์-สุรินทร์ : ทำความเข้าใจเทรนด์และความต้องการของลูกค้ายุคใหม่
จังหวัดบุรีรัมย์และสุรินทร์ เป็นจังหวัดที่มีความโดดเด่นในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นวัฒนธรรม ประเพณี หรือสถานที่ท่องเที่ยว ส่วนในด้านอสังหาริมทรัพย์ ทั้งสุรินทร์และบุรีรัมย์ก็มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ถึงแม้จะมีการหดตัวจากเศรษฐกิจและโรคระบาดแต่อสังหาริมทรัพย์ทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ และคอนโดมิเนียม ยังมีการเติบโตอย่างเนื่อง จากมีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและการขยายตัวของเมืองมากขึ้น อีกทั้งยังได้รับการสนับสนุนในด้านการท่องเที่ยวเชิงกีฬาและวัฒนธรรมระดับนานาชาติ ทำให้ทั้งสุรินทร์และบุรีรัมย์เป็นพื้นที่ที่น่าลงทุนและมีโอกาสเติบโตในอนาคต
1. แนวโน้มกับทิศทางอสังหาฯ 2567
ในหัวข้อนี้ ดร.ณัชอิสร์ ศรีสุขพรชัย ประธานหอการค้ากลุ่มจังหวัดนครชัยบุรินทร์ ได้พูดถึงความสำคัญของข้อมูล ซึ่งถือเป็นสิ่งสำคัญในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยปัจจัยของความสำเร็จในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์มีอยู่ 3 อย่าง คือ ความรู้ ความสามารถ และ โอกาส ที่ขึ้นอยู่กับพัฒนาตัวเองและใช้ประโยชน์จากโอกาสที่มี
ข้อมูลการพัฒนาในจังหวัดต่างๆ
- บุรีรัมย์: สนามบินนานาชาติบุรีรัมย์ คาดว่าจะเปิดปลายปี-ต้นปีหน้า เพื่อรองรับการประชุมระดับชาติ ในส่วนการสร้างโรงพยาบาลแห่งที่ 2 กำลังอยู่ในกระบวนการก่อสร้าง มีพื้นที่อยู่ติดกับศูนย์ราชการ บุรีรัมย์ และ กำลังผลักดันให้เกิดโรงพยาบาลระดับภูมิภาค (ด้านผิวหนัง) เป็นจังหวัดที่มีการเติบโตของเมืองดี มีโครงสร้างพื้นฐานดี และได้รับกระแสอย่างต่อเนื่องจากงานแข่งกีฬาระดับนานาชาติ รวมถึงมีการพัฒนาเส้นทางคมนาคม (โดยเฉพาะเส้นชายขอบละหานทราย, ปะคำ,และ โนนดินแดง) อีกทั้งยังมีความพยายามยกระดับช่องสายตะกูเป็นช่องทางด่านถาวร
- สุรินทร์: แหล่งผลิตข้าวหอมมะลิและผ้าไหมที่มีคุณภาพสูง เป็นจังหวัดที่มีความพร้อมด้านปศุสัตว์โดยเฉพาะเนื้อ สุรินทร์วากิว ในการประชุมครม.สัญจร มีการพูดคุยเรื่องภัยแล้ง อ่างเก็บน้ำห้วยเสนง และมีความพยายามผลักดัน สนามบินสุรินทร์
โดยสรุปทั้งจังหวัดบุรีรัมย์และสุรินทร์ มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องในด้านโครงสร้างพื้นฐาน มีการผลักดันให้ทั้งสองจังหวัดมีความพร้อมเพื่อรองรับกับการเติบโตทางเศรษฐกิจ และการขยายตัวของชุมชนเมือง
2. การลงทุนอสังหาฯ 2567
ยุคสมัยเปลี่ยน ความสนใจและไลฟ์สไตล์ของผู้คนย่อมเปลี่ยนตามไป ในหัวข้อนี้ คุณ คิม(ชัชวาลย์ วัฒนะโชติ) Creator สายการลงทุน จะชวนมาอัปเดตเทรนด์อสังหาริมทรัพย์ในปัจจุบัน ว่ามีการเปลี่ยนแปลงไหนบ้างที่น่าจับตามอง ไม่ว่าจะเป็นภูมิรัฐศาสตร์ ภาวะโลกร้อน และการเปลี่ยนแปลงทางสังคม ซึ่งทั้งหมดนี้ส่งผลกระทบต่อการลงทุนและการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อย่างมีนัยสำคัญ
1. บทบาทของภูมิรัฐศาสตร์ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ (Geopolitical Trends)
ความไม่แน่นอนทางการเมืองและเศรษฐกิจทำให้ภูมิรัฐศาสตร์กลายเป็นปัจจัยสำคัญที่มีอิทธิพลต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์ ส่งผลเศรษฐกิจประเทศที่เปราะบาง ทั้งอัตราเงินเฟ้อ กำแพงภาษี การกีดกันทางการค้า การลงทุนในสินทรัพย์สินที่มีความมั่นคงอย่างเช่น ทอง และ อสังหาริมทรัพย์ จึงเป็นสิ่งที่มีความเสี่ยงน้อยกว่า เช่น การที่จีนย้ายฐานการผลิตรถไฟฟ้า จากมาตรการขึ้นกำแพงภาษีของสหรัฐอเมริกา ทำให้ที่ดินอุตสาหกรรม ในไทยเติบโต และมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
2. ภาวะโลกร้อนและการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อย่างยั่งยืน (Net 0 Trends)
ภาวะโลกร้อนเป็นอีกปัจจัยที่ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ควรพิจารณาด้านความยั่งยืนและการใช้พลังงานให้มีประสิทธิภาพ เทรนด์ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ลดคาร์บอนไดออกไซต์ และการใช้พลังงานทางเลือกกำลังได้รับความนิยม ไทยมีอัตราการเลือกใช้รถไฟฟ้าสูง อีกทั้งยังมีคุณภาพของแสงที่ดี ผู้คนและองค์กรณ์ใหญ่ๆจึงหันมาใช้นโยบาย SET 0 และเลือกลงทุนกับพลังงานโซลาร์เซล์
3. การท่องเที่ยวเชิงการแพทย์และ.สังคมผู้สูงอายุต่อการพัฒนาอสังหาฯ
การท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ในไทยกำลังเป็นที่นิยม เนื่องจากนักท่องเที่ยวสามารถรับบริการทางการแพทย์ที่มีคุณภาพและราคาที่ถูกกว่าประเทศของตนเอง ซึ่งประเทศไทยมีโรงพยาบาลที่มีคุณภาพติดอันดับโลก ทั้งโรงพยาบาลรัฐและเอกชน ในวงการอสังหาฯ บางโครงการจึงเลือกที่จะนำเสนอ Wellness เพื่อเพิ่มมูลค่าให้แก่โครงการ
4. การใช้หุ่นยนต์และ AI ในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์
การนำเทคโนโลยีหุ่นยนต์และ AI มาใช้ในการพัฒนาและบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์เป็นเทรนด์ที่กำลังมาแรง เนื่องจากมีราคาที่ถูกลง สามารถลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มประสิทธิภาพของธุรกิจได้ โดยเหมาะกับประเทศที่แรงงานหายาก และผู้สูงอายุมีจำนวนมาก
5. การใช้โซเชียลมีเดียและอินฟลูเอนเซอร์ในการโปรโมทธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
การร่วมมือกับอินฟลูเอนเซอร์หรือครีเอเตอร์ในการโปรโมทอสังหาริมทรัพย์ผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียเป็นวิธีที่ช่วยเพิ่มการมองเห็นและดึงดูดลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากคนสามารถเข้าถึงมีเดียได้ในราคาที่ถูกกว่าอดีต มีสัดส่วนในการใช้แพลตฟอร์มออนไลน์ใกล้เคียงกับออฟไลน์การใช้ช่องทางออนไลน์จะช่วยเพิ่มการมองเห็นให้กับธุรกิจหรือร้านค้าที่อยู่ในทำเลที่มองเห็นได้ยาก สร้าง awareness to visit และสร้างความน่าเชื่อถือ ภาพจำให้แก่โครงการมากขึ้น
เทรนด์อสังหาริมทรัพย์กำลังเปลี่ยนแปลงจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น ภูมิรัฐศาสตร์ ภาวะโลกร้อน และการเปลี่ยนแปลงทางสังคม ซึ่งส่งผลต่อการลงทุนและการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ การใช้เทคโนโลยี AI และหุ่นยนต์ การท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ และการใช้โซเชียลมีเดียในการโปรโมทจะช่วยให้เกิดการมองเห็นและสามารถเข้าถึงโครงการบ้านได้ง่ายขึ้น
ช่วงถามตอบ
หลังจากเต็มอิ่มกับกับเนื้อหา การลงทุนอสังหาฯ 2567 ที่ทำให้เราได้ทราบถึงเทรนด์การซื้อบ้านของกลุ่มผู้บริโภคในปัจจุบัน section ถัดไปจะเป็นช่วงถามตอบกับคุณคิม จะมีคำถามไหนที่น่าสนใจสามารถประยุกต์หรือพัฒนากับธุรกิจของเราได้บ้าง
Q1 : เทรนด์การซื้อบ้านที่ส่งผลต่อ จ.สุรินทร์และบุรีรัมย์มีอะไรบ้าง?
การซื้อบ้านในปัจจุบันมีเทรนด์ใหม่ๆหลายเทรนด์ที่ส่งผลต่อการตัดสินใจของผู้บริโภค โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีการใช้โซเชียลมีเดียในการเปรียบเทียบและศึกษาข้อมูลโครงการต่าง ๆ มากขึ้น โดยดูรีวิวโครงการบ้าน จากแพลตฟอร์มต่างๆ รวมถึงรีวิวจากอินฟลูเอนเซอร์และความคิดเห็นของลูกบ้าน ซึ่งจะช่วยให้ผู้บริโภคสามารถประเมินคุณภาพของโครงการและตัดสินใจซื้อได้อย่างมีข้อมูลรอบด้าน
Q2 : ถ้าบ้านเหมือนกันในทำเลเดียวกัน ควรทำอย่างไรให้ปิดการขายได้มากกว่า?
การขายบ้านในทำเลเดียวกันที่มีความเหมือนกันนั้น การมีจุดเด่นเป็นสิ่งสำคัญ หากไม่มีจุดเด่นเลยอาจเป็นอันตรายต่อยอดขาย การเพิ่มมูลค่าด้วยการปรับปรุงที่จอดรถหรือปรับแบบบ้านให้ตรงกับความต้องการของตลาด เช่น หากทาวน์เฮ้าส์ขายดี ก็ควรพิจารณาสร้างทาวน์เฮ้าส์ แต่หากมีบ้านเดี่ยวตัวเลือกน้อย อาจพิจารณาสร้างบ้านเดี่ยวแทน เพื่อสร้างความแตกต่าง นอกจากนี้ ควรให้ความสำคัญกับการสร้างแบรนด์ของโครงการให้โดดเด่นกว่าโครงการอื่น ๆ
Q3 : รีวิวออฟไลน์หรือออนไลน์ สำคัญกว่ากัน?
รีวิวออนไลน์ในปัจจุบันมีความสำคัญมาก เพราะสามารถสร้างการรับรู้และความน่าเชื่อถือได้อย่างรวดเร็ว แต่การใช้ป้ายโฆษณาออฟไลน์ก็ยังมีความสำคัญ โดยเฉพาะในเรื่องของการมองเห็นและการตัดคู่แข่ง การใช้ป้ายบิลบอร์ดในพื้นที่สำคัญจะช่วยดึงดูดความสนใจจากผู้ที่ผ่านไปมา แต่การโฆษณาออนไลน์มีข้อดีคือต้นทุนต่ำกว่าและสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะสำหรับโครงการเล็กๆ หรือโครงการที่ไม่ได้เข้าจัดสรร
Q4 : ควรใช้โซเชียลมีเดียหรือเว็บไซต์ในการโปรโมท?
สำหรับแบรนด์ใหญ่ การมีเว็บไซต์เป็นสิ่งสำคัญ เพราะเว็บไซต์เปรียบเสมือนบ้านของแบรนด์ ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือและสามารถเก็บข้อมูลลูกค้าเพื่อนำไปต่อยอด ทำคอนเทนต์หรือยิงแอดกลับไปที่โซเชียลมีเดีย การมีเว็บไซต์จึงช่วยให้แบรนด์มีความน่าเชื่อถือ อย่างไรก็ตาม การใช้ marketplace เพื่อโปรโมทก็เป็นอีกทางเลือกที่ดี เพราะช่วยให้ลูกค้าสามารถใช้ในการเปรียบเทียบกับคู่แข่งในตลาดได้ สร้างโอกาสเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่มีศักยภาพมากกว่า แต่ควรมีการสร้างภาพจำและการทำแบรนดิ้งจากช่องทางอื่นก่อน
Q5 : ในการเลือกซื้อบ้าน อะไรสำคัญที่สุด?
สำหรับผู้เริ่มต้นที่มีทุนไม่มาก งบประมาณเป็นปัจจัยสำคัญที่สุด จากนั้นค่อยพิจารณาปัจจัยอื่น ๆที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ต้นเอง ส่วนบ้านที่มีราคาสูง ราคาไม่ใช่ปัจจัยที่ช่วยในการปิดการขาย วัสดุและทำเลที่ดีเป็นสิ่งสำคัญ เพราะสามารถเพิ่มมูลค่าและความคุ้มค่าในระยะยาวได้
Q6 : วิธีเลือกทำเลที่มีศักยภาพควรพิจารณาอะไรบ้าง?
ทำเลที่ดีไม่จำเป็นต้องเป็นที่แพงเสมอไป การเลือกทำเลที่อยู่ในซอยแต่ราคาถูกกว่าอาจเป็นตัวเลือกที่ดี เพราะจะทำให้ต้นทุนเราถูกกว่าส่งผลต่อราคาที่ตั้ง และสภาพแวดล้อมที่ดี ใกล้โรงเรียน หรือแหล่งไลฟ์สไตล์ รวมถึงถนนที่สะดวกสบายยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ทำเลนั้นน่าสนใจ
Q7 : อิทธิพลของการเลือกเช่ามากกว่าซื้อส่งผลต่อผู้พัฒนาอสังหาฯหรือไม่?
กลุ่มเด็กรุ่นใหม่มีแนวโน้มเช่าสูงกว่าซื้อ เนื่องจากรายได้ไม่แน่นอน กาารเปลี่ยนสถานะที่ยังไม่มั่นคง และอาชีพที่หลากหลาย มีความซับซ้อนมากขึ้นในสังคม ทำให้การตัดสินใจเช่ามีมากกว่าซื้อ อย่างไรก็ตามหากมีความพร้อมและเงินทุนพอเพียง คนก็ยังมีความต้องการเป็นเจ้าของบ้านและตัดสินใจซื้อในที่สุด
3. พฤติกรรมคนหาบ้าน บุรีรัมย์ x สุรินทร์
เมื่อแบรนด์โครงการบ้านในตลาดหลากหลายมากขึ้น การสร้างแบรนด์ให้ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าใหม่ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ ควรทำอย่างไร ในหัวข้อนี้ คุณแทน Coo และ CO-Founder บริษัท น่าอยู่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด และ คุณปาร์ค จากแพลตฟอร์ม บุรีรัมย์น่าอยู่ และ สุรินทร์น่าอยู่ จะพามาทำความเข้าใจกับกลุ่มลูกค้ากลุ่มใหม่ ที่จะสร้างโอกาสการขายให้กับโครงการบ้านสุรินทร์และบ้านบุรีรัมย์มากขึ้น
นอกจากเว็บไซต์ และ แฟนเพจ มาเก็ตเพลสกลายเป็นช่องทางสำคัญที่ผู้บริโภคใช้ในการเปรียบเทียบและเลือกซื้ออสังหาริมทรัพย์ แต่พฤติกรรมการเปิดดูบ้านผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ แบรนด์โครงการบ้านจำเป้นต้องสร้างตัวตนให้ผู้ซื้อสามารถจดจำได้ เพื่อให้ใบประกาศบนมาเก็ตเพลสสามารถเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น และนำไปสู้การเปรียบเทียบกับโครงการอื่นๆ และหากอยากปิดการขายให้ได้มากขึ้น แบรนด์จำเปนต้องรู้จักกลุ่มลูกค้าของตนเอง ซึ่งกลุ่มลูกค้าใหม่ที่มีศักยภาพในการซื้อ ได้แก่
1. กลุ่ม LGBTQ+ หลังจากร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียมผ่านมติครม. ธนาคารหลายแห่งเริ่มปล่อยสินเชื่อกู้ร่วมสำหรับกลุ่ม LGBTQ+ การพัฒนาโครงการบ้านที่ตอบโจทย์คนกลุ่มนี้จึงเป็นสิ่งสำคัญ บ้านที่มีความหลากหลายและยืดหยุ่นในการออกแบบ สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการของผู้อยู่อาศัย จะช่วยให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้านี้ได้ดีขึ้น
2. ภรรยาชาวต่างชาติ ส่วนใหญ่ผู้ซื้อกลุ่มนี้จะเป็นลูกค้าเงินสด ซึ่งมีโอกาสปิดการขายได้สูงและรวดเร็ว การที่โครงการสามารถใช้ภาษาต่างประเทศได้และสามารถใช้คีย์เวิร์ดที่เข้าถึงคนต่างชาติได้จึงเป็นสิ่งสำคัญ โดยบ้านที่จะได้รับความสนใจ ต้องตอบโจทย์เรื่องสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น มีสระว่ายน้ำ หรือ ฝ้าเพดานสูง
3. กลุ่มคนทำงานต่างประเทศ กลุ่มนี้อาจทำงานในประเทศเกาหลี ยุโรป หรือสแกนดิเนเวีย การที่ฝ่ายขายของโครงการบ้านมีข้อมูลเกี่ยวกับธนาคารที่ปล่อยกู้ลูกค้ากลุ่มนี้ และสามารถใช้สื่อออนไลน์ที่สามารถเข้าถึงลูกค้าได้ทั่วโลก จะทำให้มีโอกาสปิดการขายได้ง่าย อีกทั้งในปัจจุบันเป็นหากพนักงานขายมีความสามารถในการใช้เทคโนโลยี AI จะช่วยในการนำเสนอเนื้อหาที่ลูกค้าสนใจ เข้าถึงลูกค้าได้ง่ายและมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น
ซึ่งจากเนื้อหาข้างต้น ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การสร้างแบรนด์ที่จดจำได้และตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ เป็นสิ่งสำคัญ โครงการบ้านจึงควรยืดหยุ่นและปรับตัวตามกลุ่มลูกค้า อีกทั้งความน่าเชื่อถือ การใช้เทคโนโลยีและการเข้าใจพฤติกรรมของลูกค้าแต่ละกลุ่มจะช่วยให้แบรนด์สามารถเข้าถึงและสร้างความสำเร็จในตลาดอสังหาริมทรัพย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สรุป
จากข้อมูลของงานสัมมนา น่าอยู่สัญจร งานสัมมนาคนสร้างบ้าน วางกลยุทธ์ธุรกิจอสังหาฯ บุรีรัมย์-สุรินทร์ 2567 การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในปัจจุบันมีความจำเป็นที่ต้องใช้ข้อมูลเป็นพื้นฐานสำคัญ เพื่อให้สามารถปรับตัวและเข้าถึงกลุ่มผู้ซื้อได้มากขึ้น เช่น การเปลี่ยนแปลงของภูมิรัฐศาสตร์ ภาวะโลกร้อน และการเปลี่ยนแปลงทางสังคมมีผลต่อการลงทุนอสังหาริมทรัพย์การใช้เทคโนโลยี AI และหุ่นยนต์ การท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ และการโปรโมทผ่านโซเชียลมีเดีย และสำหรับแนวโน้มของทั้งสองจังหวัด การเติบโตทางเศรษฐกิจของทั้ง จ.บุรีรัมย์และสุรินทร์ยังมีความน่าสนใจและยังสามารถเติบโตอย่างต่อเนื่อง มีกลุ่มลูกค้าใหม่ที่มีศักยภาพในการซื้อ ได้แก่ LGBTQ+, ภรรยาชาวต่างชาติ, และกลุ่มคนทำงานต่างประเทศ ซึ่งสามารถใช้มาเก็ตเพลสเป็นช่องทางสำคัญและตัวกลางที่ให้ผู้บริโภคใช้ในการเปรียบเทียบและเลือกซื้ออสังหาริมทรัพย์ได้
🏡 “