การขายทอดตลาด ถือเป็นอีกหนึ่งคำที่หลายคนอาจเคยได้ยิน แต่ยังไม่เข้าใจอย่างลึกซึ้งว่าหมายถึงอะไร และทำไมจึงถูกมองว่าเป็นโอกาสทองของนักลงทุนมืออาชีพ การขายทอดตลาดไม่ใช่เพียงการซื้อที่ดินราคาถูก หรือขายบ้านมือสองเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงการมองเห็นมูลค่าที่ซ่อนอยู่ในทรัพย์สินที่กำลังเปลี่ยนมืออย่างมีชั้นเชิง
บทความนี้จะพาไปทำความเข้าใจว่าที่ดินขายทอดตลาดคืออะไร ขั้นตอนเกิดขึ้นได้อย่างไร มีกฎระเบียบและข้อบังคับก่อนประมูลอย่างไรบ้าง พร้อมแนะแนวคิดสำคัญที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจก้าวเข้าสู่การประมูลที่ดิน เพื่อให้คุณไม่พลาดโอกาสที่อาจกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของพอร์ตอสังหาฯ ในอนาคต
ที่ดินขายทอดตลาด คืออะไร ?
ที่ดินขายทอดตลาด คือทรัพย์สินที่ถูกนำออกมาประมูลเพื่อขายต่อสาธารณะ โดยส่วนใหญ่เกิดจากกรณีเจ้าของทรัพย์ไม่สามารถชำระหนี้ตามที่กฎหมายหรือสัญญากำหนดไว้ เช่น หนี้ธนาคารหรือหนี้สินอื่นๆ จนเจ้าหนี้ต้องดำเนินการยึดทรัพย์และส่งต่อให้กรมบังคับคดีนำออกมาขายทอดตลาดเพื่อนำเงินมาชำระหนี้คืน
การขายทอดตลาดมีลักษณะเป็นการประมูลสาธารณะ ที่เปิดโอกาสให้บุคคลทั่วไปเข้าร่วมแข่งขันเสนอราคาได้อย่างโปร่งใส ซึ่งต่างจากการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ทั่วไปที่เป็นการตกลงกันระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายโดยตรง จุดเด่นของการประมูลแบบนี้คือราคาที่ดินมักเริ่มต้นต่ำกว่าราคาตลาด ทำให้นักลงทุนอสังหาฯ มองว่าเป็นจุดเริ่มต้นของดีลทองที่สามารถสร้างผลตอบแทนได้ในระยะยาว
ข้อดี-ข้อเสี่ยง ของที่ดินขายทอดตลาด
การลงทุนในที่ดินขายทอดตลาดอาจดูน่าดึงดูดด้วยราคาที่ต่ำกว่าตลาด แต่ในอีกมุมหนึ่งก็มีปัจจัยเสี่ยงที่ต้องประเมินให้รอบคอบก่อนตัดสินใจ เพราะดีลลักษณะนี้ไม่ได้มีแค่โอกาส แต่ยังแฝงไปด้วยความท้าทายสำหรับนักลงทุนอสังหาฯ ทุกระดับ
ข้อดีของการซื้อที่ดินขายทอดตลาด
- ราคาต่ำกว่าตลาด : จุดดึงดูดสำคัญที่สุดของการขายทอดตลาดคือ ราคาประมูลเริ่มต้นมักต่ำกว่าราคาตลาด ทำให้นักลงทุนมีโอกาสได้ทรัพย์ในราคาที่คุ้มค่ากว่า
- โอกาสสร้างกำไรจากการพัฒนา : หากเลือกที่ดินทำเลดีและมีศักยภาพต่อยอด เช่น ปรับปรุง ปรับใช้ หรือขายต่อ ก็สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มได้หลายเท่า
- ขั้นตอนโปร่งใสตามกฎหมาย : การประมูลที่ดำเนินการโดยกรมบังคับคดีมีความโปร่งใสและตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน เหมาะกับผู้ที่ต้องการความมั่นใจในด้านเอกสารและสิทธิ์ในทรัพย์
ข้อเสี่ยงของการซื้อที่ดินขายทอดตลาด
- ข้อมูลทรัพย์ไม่ครบถ้วน : ผู้ประมูลอาจไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบสภาพจริงของที่ดินได้ก่อนการซื้อ ทำให้บางครั้งมีความเสี่ยงเรื่องสภาพพื้นที่หรือข้อจำกัดทางกฎหมาย
- ภาระผูกพันเดิมของทรัพย์ : ที่ดินบางแปลงอาจมีผู้ครอบครองเดิม หรือยังมีภาระค้าง เช่น ค่าใช้จ่ายสาธารณูปโภค หรือคดีความที่ยังไม่สิ้นสุด ซึ่งผู้ซื้อจำเป็นต้องตรวจสอบอย่างละเอียด
- ความผันผวนด้านราคา : แม้จะซื้อในราคาต่ำ แต่ไม่ใช่ว่าทุกแปลงจะสามารถขายต่อได้ง่าย หากอยู่ในทำเลที่ไม่สอดคล้องกับความต้องการของตลาด
กฎระเบียบและข้อบังคับก่อนประมูล
ก่อนเข้าร่วมการประมูลที่ดินขายทอดตลาด นักลงทุนควรเข้าใจกฎระเบียบและขั้นตอนตามที่กรมบังคับคดีกำหนดไว้ เพราะการขายทอดตลาดเป็นกระบวนการทางกฎหมายที่ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด เพื่อให้การประมูลเป็นไปอย่างโปร่งใสและถูกต้องตามสิทธิ์ของทุกฝ่าย

1.ผู้มีสิทธิ์เข้าร่วมประมูล
บุคคลทั่วไปสามารถเข้าร่วมการประมูลได้ไม่ว่าจะเป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล โดยต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ และไม่เป็นผู้ถูกเพิกถอนสิทธิ์จากการประมูลของกรมบังคับคดีมาก่อน
2.การลงทะเบียนก่อนประมูล
ผู้ที่สนใจต้องลงทะเบียนเข้าร่วมประมูลล่วงหน้าพร้อมยื่นเอกสารยืนยันตัวตน เช่น บัตรประชาชน หรือเอกสารจดทะเบียนบริษัท (ในกรณีของนิติบุคคล) รวมถึงวางหลักประกันการประมูล (ค่ามัดจำ) ตามที่กรมบังคับคดีกำหนด ซึ่งมักอยู่ในอัตราประมาณ 5% ของราคาประเมินทรัพย์
3.รูปแบบการประมูล
กรมบังคับคดีจัดให้มีทั้งแบบประมูลด้วยวาจา ณ สำนักงานบังคับคดีจังหวัด/สาขา และประมูลออนไลน์ ผ่านระบบ e-Auction ของกรมบังคับคดี ซึ่งปัจจุบันได้รับความนิยมมากขึ้นเพราะสะดวกและเข้าถึงง่าย
4.เงื่อนไขการชำระเงินและการโอนกรรมสิทธิ์
ผู้ชนะการประมูลต้องชำระราคาทรัพย์ภายในระยะเวลาที่กำหนด (โดยทั่วไปไม่เกิน 15 วันทำการ) หากไม่ดำเนินการตามกำหนด จะถูกริบเงินมัดจำและถูกเพิกถอนสิทธิ์ในการซื้อทรัพย์นั้นทันที หลังจากชำระครบจึงจะสามารถดำเนินการจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่สำนักงานที่ดินได้
5.การตรวจสอบสถานะทรัพย์ก่อนประมูล
แม้กรมบังคับคดีจะประกาศข้อมูลทรัพย์อย่างเป็นทางการ แต่ผู้สนใจควรตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมด้วยตนเอง ทั้งแผนที่ ขนาดที่ดิน การใช้ประโยชน์ และภาระผูกพันที่อาจมีอยู่ เช่น สิทธิการครอบครองหรือภาษีที่ยังค้างชำระ เพื่อป้องกันความเสี่ยงภายหลังการซื้อ
หลักฐานที่ต้องใช้เข้าร่วมประมูล
การเตรียมเอกสารให้พร้อมคือขั้นตอนสำคัญก่อนเข้าร่วมการประมูลที่ดินขายทอดตลาด เพราะเป็นการยืนยันตัวตนและสิทธิ์ในการเข้าร่วมเสนอราคาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งกรมบังคับคดีได้กำหนดหลักฐานที่ต้องใช้ไว้อย่างชัดเจน เพื่อให้กระบวนการขายทอดตลาดเป็นไปอย่างโปร่งใสและตรวจสอบได้
1.สำหรับบุคคลธรรมดา
ผู้เข้าร่วมประมูลต้องเตรียมเอกสารพื้นฐานดังนี้
- บัตรประชาชนตัวจริงและสำเนาบัตรประชาชน 1 ชุด เพื่อใช้ยืนยันตัวตน
- ใบมอบอำนาจ (ถ้ามี) ในกรณีที่ไม่ได้เข้าร่วมประมูลด้วยตนเอง ผู้รับมอบต้องแนบสำเนาบัตรประชาชนของทั้งผู้มอบและผู้รับมอบ พร้อมเซ็นรับรองสำเนาถูกต้อง
- หลักฐานการวางเงินประกันการประมูล เช่น ใบเสร็จรับเงินหรือหลักฐานการโอนเงินเข้าบัญชีของกรมบังคับคดี ซึ่งมักอยู่ที่ราว 5% ของราคาประเมินทรัพย์สิน
2. สำหรับนิติบุคคลหรือบริษัท
กรณีเข้าประมูลในนามบริษัท ต้องใช้เอกสารเพิ่มเติมเพื่อยืนยันสิทธิ์ของผู้แทนบริษัท ได้แก่
- หนังสือรับรองนิติบุคคล (ออกไม่เกิน 6 เดือน)
- หนังสือมอบอำนาจจากกรรมการผู้มีอำนาจลงนาม พร้อมแนบสำเนาบัตรประชาชนของทั้งผู้มอบและผู้รับมอบ
- ตราประทับบริษัท (ถ้ามี) เพื่อใช้ในการเซ็นเอกสารที่เกี่ยวข้อง
- หลักฐานการวางเงินประกันการประมูล เช่นเดียวกับกรณีบุคคลธรรมดา
3. สำหรับการประมูลออนไลน์ (e-Auction)
หากเข้าร่วมการขายทอดตลาดผ่านระบบออนไลน์ของกรมบังคับคดี ผู้ประมูลต้องลงทะเบียนล่วงหน้าในเว็บไซต์ของกรม พร้อมอัปโหลดเอกสารทั้งหมดในรูปแบบไฟล์ PDF หรือภาพถ่ายที่ชัดเจน ระบบจะตรวจสอบข้อมูลก่อนอนุมัติสิทธิ์เข้าร่วมประมูล
ขั้นตอนการซื้อทรัพย์สินที่ขายทอดตลาด
สำหรับการซื้อขายทรัพย์สินขายทอดตลาดจากกรมบังคับคดีนั้น มีขั้นตอนที่ไม่ซับซ้อนยุ่งยาก เพียงแต่ต้องมีความรอบคอบในการเตรียมเอกสารหลักฐาน และเตรียมตัวให้พร้อม โดยขั้นตอนการประมูลทรัพย์ขายทอดตลาด มีดังนี้

1.ตรวจสอบข้อมูลทรัพย์สิน
เริ่มต้นจากการค้นหาทรัพย์สินที่ประกาศขายทอดตลาดจากเว็บไซต์ของกรมบังคับคดี ซึ่งมีรายละเอียดครบถ้วน เช่น เลขคดี ราคาประเมิน ทำเล และกำหนดวันประมูล ควรตรวจสอบข้อมูลให้รอบด้าน ทั้งแผนที่ตั้ง ขนาดพื้นที่ เอกสารสิทธิ์ รวมถึงภาระผูกพันที่อาจมีอยู่
2.ลงทะเบียนและวางเงินประกันการประมูล
ผู้สนใจเข้าร่วมประมูลต้องลงทะเบียนล่วงหน้า พร้อมยื่นเอกสารหลักฐานและวางเงินประกันตามที่กรมบังคับคดีกำหนด (โดยทั่วไปประมาณ 5% ของราคาประเมินทรัพย์) เพื่อยืนยันสิทธิ์ในการเข้าร่วมเสนอราคา
3.เข้าร่วมการประมูล (ขายทอดตลาด)
เมื่อถึงวันประมูล ผู้เข้าร่วมสามารถเข้าประมูลได้ทั้งแบบ onsite ที่สำนักงานบังคับคดีจังหวัด/สาขา หรือผ่านระบบ e-Auction ซึ่งเป็นช่องทางออนไลน์อย่างเป็นทางการของกรมบังคับคดี การเสนอราคาจะเป็นไปตามกติกาที่เจ้าพนักงานบังคับคดีกำหนด โดยผู้เสนอราคาสูงสุดจะเป็นผู้ชนะการประมูล
4.ชำระเงินและดำเนินการหลังชนะการประมูล
ผู้ชนะการประมูลต้องชำระราคาทรัพย์ให้ครบภายในระยะเวลาที่กำหนด (โดยทั่วไปไม่เกิน 15 วันทำการ) พร้อมรับใบรับรองจากเจ้าพนักงานบังคับคดีเพื่อใช้ในการโอนกรรมสิทธิ์ หากไม่ชำระภายในกำหนด เงินประกันจะถูกริบและสิทธิ์การซื้อจะถูกเพิกถอนทันที
5.โอนกรรมสิทธิ์และรับทรัพย์สิน
หลังชำระครบแล้ว ผู้ซื้อสามารถนำเอกสารจากกรมบังคับคดีไปดำเนินการโอนกรรมสิทธิ์ที่สำนักงานที่ดินได้ทันที โดยกรมบังคับคดีจะเป็นผู้จัดทำหนังสือแจ้งเจ้าพนักงานที่ดินให้โอนกรรมสิทธิ์จากเจ้าของเดิมมายังผู้ซื้ออย่างถูกต้องตามกฎหมาย
สรุป การขายทอดตลาดคืออะไร
โดยสรุปแล้ว การขายทอดตลาดคือกระบวนการซื้อขายทรัพย์สินที่เกิดขึ้นภายใต้กรอบของกฎหมาย ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้สนใจเข้ามาเสนอราคาผ่านการประมูลอย่างโปร่งใส สำหรับนักลงทุนอสังหาฯ การซื้อทรัพย์ผ่านการขายทอดตลาดไม่เพียงเป็นช่องทางในการได้ทรัพย์ราคาต่ำกว่าตลาด แต่ยังเป็นพื้นที่แห่งโอกาสสำหรับผู้ที่มองเห็นศักยภาพของสินทรัพย์ในมุมลึกกว่าเพียงตัวเลขราคา อย่างไรก็ตาม การเตรียมตัว ศึกษากฎระเบียบ และทำความเข้าใจความเสี่ยงอย่างรอบคอบ คือหัวใจสำคัญที่จะทำให้การลงทุนรูปแบบนี้กลายเป็นจุดเริ่มต้นของความสำเร็จในเส้นทางอสังหาริมทรัพย์อย่างแท้จริง
คำถามที่พบบ่อย
1. การยึดทรัพย์ขายทอดตลาดคืออะไร?
ตอบ : การยึดทรัพย์ขายทอดตลาดคือกระบวนการที่กรมบังคับคดียึดทรัพย์สินของลูกหนี้ที่ไม่สามารถชำระหนี้ตามคำพิพากษาได้ แล้วนำออกมาขายทอดตลาดผ่านการประมูล เพื่อใช้เงินที่ได้ไปชำระหนี้คืนให้เจ้าหนี้ตามกฎหมาย
2. การขายทอดตลาดดีหรือไม่ดี?
ตอบ : การขายทอดตลาดมีทั้งข้อดีและข้อจำกัด ข้อดีคือสามารถซื้อทรัพย์ได้ในราคาต่ำกว่าตลาด แต่ก็มีความเสี่ยงเรื่องข้อมูลทรัพย์ไม่ครบถ้วนหรือภาระผูกพันที่อาจติดอยู่ จึงเหมาะกับผู้ที่มีความเข้าใจในกระบวนการและสามารถประเมินความคุ้มค่าได้อย่างรอบด้าน
3. ขายทอดตลาดกี่ครั้ง?
ตอบ : โดยทั่วไป กรมบังคับคดีจะจัดขายทอดตลาดทรัพย์สินสูงสุดไม่เกิน 4 ครั้งต่อรอบคดี หากขายไม่ออกครบตามจำนวนครั้ง ทรัพย์นั้นจะถูกส่งคืนให้เจ้าหนี้หรืออาจเข้าสู่กระบวนการพิจารณาขายใหม่ตามระเบียบที่กำหนด
สำหรับใครที่กำลังมองหาบ้านเดี่ยว, บ้านแฝด, คอนโดและทาวน์โฮม สามารถเข้ามาเลือกชมได้ที่เว็บไซต์น่าอยู่ นอกจากนี้ยังมีสาระน่ารู้ต่าง ๆ เกี่ยวกับบ้านที่น่าสนใจมาให้ทุกคนได้ติดตามกันอีกด้วยนะครับ
บทความแนะนำ