คนกำลังจะซื้อบ้านต้องห้ามพลาด!! วันนี้น้องพิษณุโลกน่าอยู่นำบทความสาระดี ๆ เพื่อไขข้อข้องใจให้ผู้อ่านทุกท่านว่า กู้เงินซื้อบ้าน หรือ เช่าบ้านอยู่ เลือกแบบไหนดี..?
หลายคนคงอาจจะเคยคิดเหมือนกันว่า เมื่อเรามาถึงวัยทำงาน สามารถหาเงินได้ด้วยตัวเองและพอจะมีเงินเก็บในระดับหนึ่งแล้ว ก็คงอยากขยับขยายให้เราได้ใช้ชีวิตในรูปแบบที่ “ลงตัว” กับเรามากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะกับเรื่องที่อยู่อาศัย บางคนอาจจะใฝ่ฝันถึงการเป็นเจ้าของบ้านหรือคอนโดให้ได้ซักหลัง หรือบางคนอาจชอบความคล่องตัว ไม่ยึดติดกับสถานที่ซักเท่าไหร่
.
วันนี้น้องพิษณุโลกน่าอยู่มาชวนคิดและตั้งคำถามกันว่า “กู้เงินซื้อบ้าน หรือ เช่าบ้านอยู่ เลือกแบบไหนดี..?” แบบไหนตรงกับไลฟ์สไตล์ของเรามากกว่ากัน ลองดูความแตกต่างเพื่อเป็นแนวทางในการตัดสินใจและเตรียมพร้อมกันที่ละข้อ แล้วลองตัดสินใจดูกันนะครับว่าแบบไหนที่เหมาะกับคุณ
.
1. ความเป็นเจ้าของ
กู้ซื้อ: มีคำกล่าวที่ว่าการซื้อบ้านคือการลงทุนเพื่ออนาคต ข้อดีของการตัดสินใจซื้อบ้าน คือเราได้เป็นเจ้าของตัวจริง สามารถทำอะไรใช้ชีวิตตามไลฟ์สไตล์ได้อย่างเต็มที่ เป็นการลงทุนเพื่อครอบครัว สามารถส่งต่อทรัพย์สินชิ้นนี้ให้กับคนที่เรารักในอนาคตได้ นอกจากนี้ บ้านยังเป็นทรัพย์สินที่มีมูลค่าและราคาก็มักจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ นั่นก็หมายความว่าเราจะสามารถเพิ่มความมั่งคั่งในอนาคตได้ หรือแม้แต่จะตัดสินใจขายบ้านออกไป ก็เท่ากับเรายังได้เงินกลับมาอีกหนึ่งก้อนเช่นกัน
.
เช่าอยู่: การเช่าบ้านทำให้เราได้สิทธิ์อาศัยอยู่ในบ้านหลังนั้นตามระยะเวลาที่ตกลงกันไว้ แม้ไม่มีสิทธิ์เป็นเจ้าของ แต่ก็ชดเชยกลับมาด้วยความคล่องตัวที่จะเปลี่ยนแปลง ย้ายออกจากบ้านที่เราเช่าไปอยู่ในทำเลอื่น ๆ ที่ต้องการได้ง่ายกว่า ไม่ว่าจะเช่าแบบที่หลังใหญ่ขึ้น/เล็กลง ตามโจทย์ที่เราต้องการ หรือจะเลือกให้อยู่ใกล้ที่ทำงาน ลดเวลาและค่าใช้จ่ายกับการเดินทางลงไป ขณะเดียวกันในบางพื้นที่ไม่มีบ้านหรือคอนโดขาย หากมีก็อาจไม่ใช่ราคาที่เอื้อมถึงได้ง่ายนัก ฉะนั้น การเช่าอยู่ก็อาจเป็นอีกทางเลือกที่ดีอีกทางนึง
.
2. มีภาระผูกพันทางการเงิน
กู้ซื้อ: การกู้เงินมาซื้อบ้านเป็นการสร้างภาระผูกพันทางการเงินในระยะยาว ต้องผ่อนค่างวดกับธนาคารไปอีก 20-30 ปี การซื้อบ้านจึงเป็นการตัดสินใจครั้งใหญ่ที่เราต้องวางแผนแล้วว่าจะลงหลักปักฐานกับบ้านหลังนี้อย่างชัดเจนเช่นกัน แน่นอนว่าการเลือกวิธีนี้ เราต้องรับภาระจ่ายดอกเบี้ยเงินกู้ให้แก่ธนาคารด้วย แต่ก็มีข้อดีที่เราสามารถนำดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านมาใช้หักลดหย่อนภาษีได้ ระหว่างการผ่อนเราก็ยังได้ประโยชน์จากการเข้าอยู่อาศัยในบ้านหลังนั้นได้เลย เพิ่มคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น และที่สำคัญเมื่อผ่อนครบหมดเรียบร้อย บ้านหลังนั้นก็จะกลายเป็นของเราโดยสมบูรณ์ตามที่ตั้งใจไว้ในที่สุด
.
เช่าอยู่: การเช่าบ้านก็สร้างภาระผูกพันทางการเงินเช่นกัน แต่เป็นระยะสั้น เพราะเรามักจะต้องทำสัญญาเช่ากับเจ้าของบ้าน โดยปกติแล้วระยะเวลาในสัญญาเช่าก็จะอยู่ที่ 6 เดือน หรือ 1 ปี จึงเป็นที่นิยมของคนรุ่นใหม่จำนวนมากที่ไม่ต้องการสร้างภาระผูกพันยาว ๆ สอดคล้องกับแนวทางการใช้ชีวิตอย่างอิสระมากขึ้น ในการย้ายที่ทำงานเพื่อหาโอกาสการเติบโตใหม่ ๆ ให้กับชีวิตไปพร้อมกับการมีบ้านหลังใหม่ในที่อื่นๆ เมื่อต้องการความเปลี่ยนแปลง นอกจากนี้หลายคนอาจจะตัดสินใจเช่าบ้านเพราะเห็นโอกาสในการนำเงินเก็บไปลงทุนในด้านอื่นๆที่ตัวเองถนัดได้เช่นกัน
.
3. ความเสี่ยงกับค่าใช้จ่ายในอนาคต
กู้ซื้อ: ปกติแล้วธนาคารจะมีโปรแกรมดอกเบี้ยสำหรับสินเชื่อบ้านอยู่ 2 แบบ คือ แบบคงที่ ซึ่งกำหนดเป็นอัตราตัวเลขไว้ชัดเจน มักจะเป็นข้อเสนอระยะสั้น และแบบลอยตัว ซึ่งอาจเปลี่ยนแปลงขึ้น-ลงได้ในอนาคต ดังนั้น นี่จึงเป็นความเสี่ยงของชาวกู้ซื้อที่อาจจะเจอภาระเพิ่มขึ้นในช่วงที่ดอกเบี้ยปรับตัวขึ้น หากเรายังผ่อนค่างวดเท่าเดิม ระยะเวลาผ่อนก็จะนานขึ้น ทางที่ดีเราควรจ่ายค่างวดเพิ่มขึ้น และหากมีรายได้เข้ามาหรือมีเงินเหลือเก็บก็อาจนำมาโปะเพื่อลดเงินต้น ซึ่งจะช่วยให้ภาระดอกเบี้ยเบาลงได้อีกทางหนึ่งด้วย และเมื่อเราผ่อนบ้านมาครบ 3 ปีจนโปรโมชันครบกำหนด ดอกเบี้ยจะเริ่มขยับสูงขึ้น จังหวะนี้อาจต้องหาวิธีลดอัตราดอกเบี้ยลง ไม่ว่าจะเป็นการต่อรองกับธนาคารปัจจุบันให้ปรับลดดอกเบี้ยลง เรียกว่า รีเทนชัน หรืออาจย้ายสินเชื่อไปอยู่กับธนาคารใหม่ ที่เรียกว่ารีไฟแนนซ์บ้าน ก็เป็นทางเลือกที่ช่วยให้เราจัดการกับภาระดอกเบี้ยได้ดีขึ้น
.
เช่าอยู่: แม้การเช่าบ้านจะมีข้อดีที่ไม่เกี่ยวข้องกับดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นในตลาด แต่ต้องอย่าลืมว่าโลกเรามี “ภาวะเงินเฟ้อ” ที่จะทำให้ราคาสินค้าและบริการเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในอนาคตได้เช่นกัน แน่นอนว่าการทำสัญญาเช่าครั้งใหม่ เจ้าของบ้านอาจจะขอขึ้นค่าเช่า ทำให้เรามีค่าใช้จ่ายต่อเดือนสูงขึ้นและเกิดผลกระทบทางการเงินได้เช่นเดียวกัน สิ่งที่เราจะต้องเตรียมตัวให้พร้อมหากเราอยากจะเช่าต่อคือการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเจ้าของบ้าน ด้วยการดูแลบ้านให้สะอาดและเรียบร้อย จ่ายเงินค่าเช่าตรงเวลา ทำให้เจ้าของบ้านเห็นว่าให้เช่าแล้วสบายใจ ความเสี่ยงน้อยกว่าการหาผู้เช่าใหม่รายอื่น ๆ ก็อาจทำให้เราเจรจาเพื่อต่อรองการปรับขึ้นค่าเช่าได้ นอกจากนี้เราอาจจะมองหาทางเลือกใหม่ ตั้งแต่เนิ่นๆ เพราะไหนๆ ก็ต้องจ่ายค่าเช่าเพิ่มอยู่แล้ว ก็ลองเปลี่ยนให้เป็นโอกาสที่เราจะเจอบ้านหลังใหม่ เฟอร์นิเจอสวยหรู ไฮเทคกว่าเดิม ใหม่กว่าเดิม ในราคาค่าเช่าที่คุ้มค่ากว่าเดิม ก็เป็นได้
.
4. วิธีวางแผนการเงิน
กู้ซื้อ: ก่อนที่เราจะกู้ซื้อบ้านนั้น อย่าลืมดูว่าเราจะต้องเตรียมค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง ตั้งแต่ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับกู้ซื้อและค่าใช้จ่ายเมื่อติดต่อกับหน่วยงานราชการต่าง ๆ เช่น เงินดาวน์ ค่าทำนิติกรรม ค่าจดทะเบียนจำนอง ค่าประกันอัคคีภัย ค่างวดผ่อนชำระ เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีค่าใช้จ่ายเพื่อเตรียมตัวก่อนเข้าอยู่อาศัย เช่น ค่าตกแต่งบ้าน ซื้อเฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ต่าง ๆ ค่าติดตั้งเกี่ยวกับสาธารณูปโภค มิเตอร์น้ำ มิเตอร์ไฟฟ้า ค่าอินเทอร์เน็ต เป็นต้น ที่สำคัญ ยังควรวางแผนการเงินสำหรับค่าใช้จ่ายในอนาคตที่หลาย ๆ คนลืม หรือมองข้ามไป เช่น เงินสำรองยามฉุกเฉิน ค่าซ่อมบ้าน ค่าส่วนกลาง ค่าเบี้ยประกันอัคคีภัย ดังนั้น การกู้ซื้อก็มีหลายเรื่องให้ต้องคิดและวางแผนอย่างรอบคอบ
.
เช่าอยู่: การเช่าบ้าน เราจะต้องเจอค่าใช้จ่ายก้อนใหญ่ในช่วงแรก เช่น ค่ามัดจำที่จะเก็บล่วงหน้า 1-2 เดือน หลังจากนั้นเราจะจ่ายเพียงค่าเช่ารายเดือนตามที่ตกลงในสัญญาเช่า ดังนั้น การวางแผนการเงินสำหรับค่าใช้จ่ายตรงนี้อาจไม่ยุ่งยากมากนัก แต่ก็อย่าเพิ่งดีใจและเพลิดเพลินกับการใช้เงินจนเกินไปนัก แต่ควรเก็บออมหรือลงทุนให้ได้มากขึ้นแทน เพราะการเช่าอยู่นั้น ไม่ว่าจะเช่าไปนานแค่ไหน เราไม่มีสิทธิ์ได้เป็นเจ้าของบ้านเลย จึงควรสร้างทรัพย์สินของเราในรูปแบบอื่นแทน
.
เป็นยังไงกันบ้างครับบทควาสาระดี ๆ ที่น้องพิษณุโลกน่าอยู่นำมาฝากในวันนี้ หวังว่าจะเป็นข้อมูลที่มีประโยชช่วยให้ผู้อ่านทุกท่านในการประกอบการตัดสินใจว่า กู้เงินซื้อบ้าน หรือ เช่าบ้านอยู่ เลือกแบบไหนดี
โดยรวมแล้ว จะเห็นได้ว่าการกู้ซื้อบ้านและการเช่าบ้านมีข้อดีที่แตกต่างกัน ขึ้นกับความชอบ ไลฟ์สไตล์ เป้าหมายการใช้ชีวิต รวมไปถึงความพร้อมทางการเงินด้วย แล้วคุณล่ะครับ อยู่ทีมไหน.. กู้ซื้อ หรือ เช่าอยู่ดี?
.
สามารถติดตามพวกเราได้ที่
เฟซบุ๊ก : พิษณุโลกน่าอยู่
Youtube : Phitsanulok Nayoo
Tiktok : พิษณุโลกน่าอยู่
โทร : 063-1939253
บทความแนะนำ