คลังเตรียมหารือ ธปท. ยืดอายุมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ ออกไปอีก 1 ปี แนะผู้ซื้อเร่งกู้ก่อนดอกเบี้ยขาขึ้น พร้อมกำชับธนาคารรัฐให้ตรึงดอกเบี้ยเงินกู้ให้นานที่สุด

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลัง เตรียมหารือร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อขยายเวลามาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์

ทั้งมาตรการลดหย่อนค่าธรรมเนียมการโอน และจดจำนอง และมาตรการผ่อนคลายหลักเกณฑ์การกำกับดูแลสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย และสินเชื่ออื่นที่เกี่ยวเนื่องกับสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (มาตรการ LTV) ที่กำหนดให้เพดานอัตราส่วนเงินให้สินเชื่อต่อมูลค่าหลักประกัน (LTV ratio) เป็น 100% (กู้ได้เต็มมูลค่าหลักประกัน) ซึ่งจะสิ้นสุดมาตรการในช่วงปลายปี 65 นี้ ออกไปอย่างน้อย 1 ปี

"มาตรการของภาคอสังหาริมทรัพย์ที่จะจบสิ้นปี 2565 มีการหารือร่วมกับ ธปท.ซึ่งจะดูสถานการณ์เศรษฐกิจด้วยว่าจะฟื้นตัวมากน้อยแค่ไหน ยังต้องการความช่วยเหลือเพิ่มหรือไม่ เพื่อให้เศรษฐกิจฟื้นตัวได้อย่างชัดเจนมากขึ้น เพราะภาคอสังหาฯ เป็นอีกเครื่องยนต์สำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เราหวังว่าภาคอสังหาฯ จะกลับมาคึกคักขึ้นต่อเนื่องไปถึงปี 66" นายอาคม กล่าว

นายอาคม กล่าวถึงความกังวลต่อทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้นนั้นยังคงต้องติดตามนโยบายของธนาคารกลางของไทยอีกครั้ง แต่อย่างไรก็ตาม ได้กำชับให้สถาบันการเงินของรัฐตรึงดอกเบี้ยเงินกู้ให้นานที่สุด หรือกรณีจำเป็นต้องปรับขึ้นดอกเบี้ยขอให้ปรับขึ้นแบบไม่เต็มที่ เพื่อให้กระทบลูกค้าน้อยที่สุด

"แบงก์รัฐจะตรึงดอกเบี้ยนานแค่ไหน จะต้องรอดูนโยบายของ กนง.อีกครั้งว่าจะมีการปรับขึ้นหรือไม่ ในช่วงใด ส่วนกรณีที่ ธอส. บอกว่าจะขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้ช่วงเดือนตุลาคมนี้นั้น ภายใต้เงื่อนไข กนง.ขึ้นดอกเบี้ยนโยบายช่วงส.ค.แต่ขณะนี้ยังมีความไม่แน่นอน ยังต้องติดตามนโยบายของ กนง.อีกครั้ง" นายอาคม กล่าว

นายอาคม ยอมรับว่า ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา มีบ้านมือสองเข้ามาในระบบเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นผลจากการระบาดของโควิดที่กระทบต่อกำลังซื้อของประชาชนจากการที่บางธุรกิจต้องปิดกิจการ แม้ขณะนี้รายได้จะเริ่มกลับมา แต่ต้องเผชิญกับราคาข้าวของแพง ดังนั้น​ กำลังซื้อในภาพรวมอาจไม่ได้ฟื้นได้มากตามที่คาด

พร้อมระบุว่า ช่วงนี้จึงถือเป็นโอกาสของผู้ที่ยังมีกำลัง และต้องการมีบ้านเป็นของตนเอง เพราะรัฐบาลได้ขยายวงเงินการปล่อยสินเชื่อ ในโครงการบ้านล้านหลังเฟส 2 จากเดิม 1.2 ล้านบาท เป็น 1.5 ล้านบาทเพื่อให้สอดคล้องกับราคาบ้านในปัจจุบัน รวมทั้งยังคิดอัตราดอกเบี้ยต่ำ 1.99% คงที่ 4 ปี และระยะการกู้สูงสุด 40 ปี ซึ่งหากแบงก์พาณิชย์สนใจในการปล่อยเชื่ออัตราดอกเบี้ยและเงื่อนไขเหมือนในโครงการบ้านล้านหลังถือเป็นเรื่องที่น่ายินดี