การมีบ้านในฝันเป็นของตนเอง คือ หนึ่งในเป้าหมายสำคัญของใครหลายคน ด้วยราคาบ้านที่สูงการกู้สินเชื่อบ้านจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด เพื่อป้องกันการเกิดหนี้เสีย ผู้กู้ต้องวางแผนการเงินก่อนกู้จริง โดยเฉพาะความเข้าใจในเรื่องการคำนวณยอดผ่อนบ้านจากเงินดาวน์เป็นกรณีที่พบบ่อยซึ่งจะช่วยให้แน่ใจว่าไม่ได้กู้เงินเกินตัว
บทความนี้จะพาไปแนะนำให้รู้จักว่า เงินดาวน์คืออะไร วางเงินดาวน์มากช่วยให้ผ่อนสบายขึ้นจริงหรือไม่ เช็กให้ชัวร์ก่อนกู้บ้าน รายได้ที่มีผ่อนไหวแค่ไหน วิธีคำนวณยอดผ่อนบ้านจากเงินดาวน์ง่าย ๆ และเคล็ดลับวางแผนกู้ยังไงให้ผ่านง่ายผ่อนสบาย หากพร้อมแล้วไปกันเลยครับ
เงินดาวน์คืออะไร?

สำหรับเงินดาวน์ คือ เงินจำนวนหนึ่งที่ผู้ซื้อบ้านจ่ายล่วงหน้าให้กับเจ้าของบ้านหรือโครงการบ้านก่อนที่จะทำสัญญาสินเชื่อกู้เงินกับธนาคาร ซึ่งธนาคารส่วนใหญ่จะให้วงเงินกู้ประมาณ 70-95% ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับโปรโมชันของธนาคารและคุณสมบัติของผู้กู้ด้วย
ตัวอย่างเช่น ราคาบ้าน 2,000,000 บาท วางเงินดาวน์ 10% เท่ากับ 200,000 บาท วงเงินกู้คงเหลือ 1,800,000 บาท ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่ใช้คำนวณยอดผ่อนบ้านต่อเดือนว่าผู้ขอสินเชื่อจะสามารถผ่อนไหวหรือไม่ ทั้งนี้ยังมีอีก 2 ปัจจัยที่ต้องนำมาคำนวณด้วยก็คือ อัตราดอกเบี้ยต่อปี และระยะเวลาที่กู้
วางเงินดาวน์มากช่วยให้ผ่อนสบายขึ้นจริงหรือไม่
การวางเงินดาวน์มากช่วยให้ผ่อนบ้านสบายขึ้นจริงหรือไม่ คำตอบคือ จริง เพราะยิ่งวางเงินดาวน์มากก็ช่วยให้วงเงินกู้สินเชื่อบ้านลดลง เมื่อคำนวณยอดผ่อนบ้านต่อเดือนก็น้อยลง เสียดอกเบี้ยน้อยลงช่วยให้ผ่อนบ้านสบายขึ้น ในขณะเดียวกันธนาคารก็มองว่ามีความเสี่ยงต่ำส่งผลให้การกู้สินเชื่อบ้านผ่านได้ง่ายมากขึ้น ขอยกตัวอย่างเปรียบเทียบให้เห็นภาพชัดเจนดังตารางต่อไปนี้
ตารางเปรียบเทียบ การวางเงินดาวน์ vs ยอดผ่อนบ้านต่อเดือน

เช็กให้ชัวร์ก่อนกู้บ้าน รายได้ที่มีผ่อนไหวแค่ไหน
จากหัวข้อที่ผ่านจะพบว่ายิ่งวางเงินดาวน์มากการคำนวณยอดผ่อนบ้านต่อเดือนก็ยิ่งน้อยลงตามไปด้วย ที่นี้ก็มาถึงคำถามสำคัญที่จะช่วยเลือกว่าควรวางเงินดาวน์บ้านเท่าไหร่จึงจะเหมาะสม หากเราใช้อัตราดอกเบี้ย และระยะเวลากู้ตามหัวข้อที่ผ่านมา ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ย ระยะเวลากู้ที่ธนาคารส่วนใหญ่เปิดให้ขอสินเชื่อกับบุคคลทั่วไป
แล้วต้องมีวงเงินกู้เท่าไหร่จึงจะเหมาะสมกับรายได้ ผู้เชี่ยวชาญการเงินแนะนำว่า ยอดผ่อนสินเชื่อทุกอย่างรวมกันแล้วไม่เกิน 30-40% ของรายได้ ถ้าหากน้อยกว่า 36% ธนาคารจะถือว่ามีสุขภาพทางการเงินแข็งแรงมากช่วยให้การกู้สินเชื่อบ้านผ่านได้ง่ายมากขึ้น
ตัวอย่างเช่น มีรายได้ 30,000 บาท/เดือน 36% ของ 30,000 เท่ากับ 10,800 บาท ควรเลือกผ่อนชำระค่างวดบ้านไม่เกิน 10,800 บาท/เดือน การคำนวณยอดผ่อนบ้านให้เหมาะสมกับรายได้ตรงนี้จะช่วยให้ตัดสินใจเลือกการวางเงินดาวน์บ้านได้ง่ายมากขึ้น
คำนวณยอดผ่อนบ้านจากเงินดาวน์ง่าย ๆ
การคำนวณยอดผ่อนบ้านโดยทั่วไปจะแบ่งคำนวณดอกเบี้ยแบ่งเป็น 2 ประเภทด้วยกัน ได้แก่ ดอกเบี้ยคงที่ และดอกเบี้ยลดต้นลดดอก แต่ละประเภทมีวิธีการคำนวณดังต่อไปนี้
ดอกเบี้ยแบบคงที่
การคำนวณดอกเบี้ยแบบคงที่เพื่อหาค่างวดผ่อนบ้านแต่ละเดือน มี 2 สูตรด้วยกัน ได้แก่
- ดอกเบี้ยที่ต้องชำระทั้งหมด = เงินต้น x อัตราดอกเบี้ยต่อปี x ระยะเวลา (ปี)
- ยอดเงินที่ต้องชำระในแต่ละเดือน = (เงินต้น + ดอกเบี้ยที่ต้องชำระทั้งหมด)/ จำนวนงวดที่ต้องผ่อนชำระทั้งหมด
ตัวอย่างเช่น กรณีผู้กู้ขอสินเชื่อวางเงินดาวน์ 10% ของราคาบ้าน จะมีวงเงิน 1,800,000 บาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 4 ต่อปี ระยะเวลาผ่อน 30 ปี
- ดอกเบี้ยที่ต้องชำระทั้งหมด = 1,800,000 x 4% x 30 (ปี) = 2,160,000 บาท
- ค่างวดบ้านแต่ละเดือน = (1,800,000 + 2,160,000)/360 = 11,000 บาท
เมื่อคำนวณยอดผ่อนบ้านต่อเดือนอยู่ที่ 11,000 บาท เป็นระยะเวลาทั้งหมด 360 งวด
ดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก
การคำนวณดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอกเพื่อหาค่างวดผ่อนบ้านแต่ละเดือน มี 3 สูตรด้วยกัน ได้แก่
- ดอกเบี้ยที่ต้องชำระในแต่ละเดือน = (เงินต้นคงเหลือ x อัตราดอกเบี้ยต่อปี x จำนวนวันในงวด) / จำนวนวันใน 1 ปี
- เงินต้นลดลง = จำนวนเงินที่ต้องจ่ายในเดือนนั้น - ดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายในเดือนนั้น
- เงินต้นคงเหลือ (เพื่อคำนวณดอกเบี้ยงวดถัดไป) = เงินต้น (เงินต้นคงเงินจากเดือนก่อน) - เงินต้นลดลง
ตัวอย่างเช่น กรณีผู้กู้ขอสินเชื่อวางเงินดาวน์ 10% ของราคาบ้าน จะมีวงเงิน 1,800,000 บาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 4 ต่อปี ระยะเวลาผ่อน 30 ปี ยอดผ่อนชำระต่อเดือนที่ธนาคารกำหนด 9,400 บาท
เดือนที่ 1
- ดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายในเดือนที่ 1 = (100,000 x 15%) x 31 / 365 = 6,115.07 บาท
- เงินต้นที่ลดลง = 9,400 - 6,115.07 = 3,284.93 บาท
- เงินต้นคงเหลือ = 1,800,000 - 3,284.93 = 1,796,715.07 บาท
เดือนที่ 2
- ดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายในเดือนที่ 2 = (1,796,715.07 x 4%) x 28 / 365 = 5,513.21 บาท
- เงินต้นที่ลดลง = 9,400 - 5,513.21 = 3,886.79 บาท
- เงินต้นคงเหลือ = 1,796,715.07 - 3,886.79 = 1,792,828.28 บาท
โดยจะมีวิธีการคำนวณยอดผ่อนบ้านแบบลดต้นลดดอกแบบนี้ไปทุกงวดจนกว่าจะผ่อนชำระหมด
จากตัวอย่างที่ยกมาจะพบว่าค่างวดบ้านจากสูตรไม่ตรงกับค่างวดที่ทางธนาคารกำหนดมาให้ ขอแนะนำบทความ คำนวณเงินกู้บ้านง่าย ๆ ผ่านเว็บไซต์น่าอยู่ ด้วยโปรแกรมคำนวณสินเชื่อ ที่ช่วยคำนวณค่างวดบ้านได้ใกล้เคียงกับธนาคารมากที่สุด ทั้งนี้มีการดึงข้อมูลดอกเบี้ยของแต่ละธนาคารมาให้โดยตรง
เคล็ดลับวางแผนกู้ยังไงให้ผ่านง่ายผ่อนสบาย
ขอแนะนำเคล็ดลับในการวางแผนด้านต่างๆ ให้พร้อมก่อนกู้สินเชื่อบ้าน ซึ่งเคล็ดลับเหล่านี้จะช่วยให้ผู้กู้บ้านผ่านได้ง่ายๆ และยังมีค่างวดบ้านต่อเดือนผ่อนได้สบายอีกด้วย มีเคล็ดลับดังต่อไปนี้

- วางเงินดาวน์ 20% : เป็นเปอร์เซ็นต์เงินดาวน์ที่ไม่มากและไม่น้อยเกินไป อีกทั้งมีวงเงินกู้บ้านเพียง 80% ซึ่งธนาคารจะประเมินว่ามีความเสี่ยงต่ำ
- เช็กเครดิตบูโรก่อนกู้ : การตรวจสอบเครดิตบูโรจะช่วยให้ผู้ขอสินเชื่อมองเห็นภาพรวมของยอดสินเชื่อทั้งหมดที่มี สามารถนำยอดตรงนี้ไปคำนวณยอดผ่อนบ้านได้อีกด้วย
- คำนวณสินเชื่อบ้านออนไลน์ : เพื่อเปรียบเทียบยอดผ่อนชำระของธนาคารต่างๆ
- เตรียมเอกสารให้พร้อม : ทั้งสลิปเงินเดือน บัญชีธนาคารที่แสดงรายการเคลื่อนไหวทางการเงินย้อนหลัง 6 เดือน และอื่นๆ ตามที่ธนาคารกำหนด
- เงินสำรองในภาวะฉุกเฉิน : เป็นอีกเคล็ดลับที่จะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับธนาคารเพิ่มโอกาสกู้ผ่านง่าย ผู้ขอสินเชื่อควรแสดงว่ามีเงินสำรองสำหรับใช้จ่ายโดยไม่ต้องมีรายได้อย่างน้อย 6-12 เดือน
บทสรุป
จบไปแล้วกับแนวทางวางเงินดาวน์เท่าไหร่ถึงจะกู้ผ่านง่าย พร้อมสูตรคํานวณยอดผ่อนบ้าน หวังจะเป็นประโยชน์ให้กับเพื่อนๆ ที่กำลังวางแผนซื้อบ้านโดยมีการวางเงินดาวน์ก่อน หรือสินเชื่อประเภทอื่นๆ ที่จะช่วยให้มั่นใจว่าการขอสินเชื่อบ้านจะได้รับอนุมัติผ่านได้ง่ายๆ
สำหรับใครที่กำลังมองหาบ้านเดี่ยว, บ้านแฝด, คอนโดและทาวน์โฮม สามารถเข้ามาเลือกชมได้ที่เว็บไซต์น่าอยู่ นอกจากนี้ยังมีสาระน่ารู้ต่าง ๆ เกี่ยวกับบ้านที่น่าสนใจมาให้ทุกคนได้ติดตามกันอีกด้วยนะครับ
บทความแนะนำ
- 5 ขั้นตอนเตรียมตัวกู้ซื้อบ้านง่าย ๆ ให้ผ่านฉลุย
- เช็คเครดิตบูโรออนไลน์ด้วยตัวเองง่าย ๆ พาดูวิธีเช็คของแต่ละธนาคาร