ช่วงนี้ใครรู้สึกว่าชีวิตมันตื้อๆ ทำอะไรก็ติดขัด เงินทองที่เคยไหลมาเทมาก็เริ่มฝืดเคือง หรือบรรยากาศในบ้านดูไม่ค่อยสดใสบ้างไหมคะ? ถ้าใครกำลังเจอปัญหาแบบนี้ อย่าเพิ่งท้อใจไปนะคะ บางทีอาจจะเป็นเพราะเราละเลยสิ่งศักดิ์สิทธิ์ใกล้ตัว อย่าง "เจ้าที่เจ้าทาง" ที่ดูแลรักษาบ้านเราอยู่ก็ได้ค่ะ

วันนี้ น้องบุรีรัมย์น่าอยู่ เลยขออาสาพาเพื่อนๆ มามูเตลูแบบถูกหลัก กับ "วิธีไหว้เจ้าที่กลางบ้าน" เพื่อขอขมาและเปิดทางให้สิ่งดีๆ เข้ามาในชีวิต ใครที่กำลังมองหาทางแก้เคล็ด หรืออยากเสริมสิริมงคลให้กับบ้านของเรา ตามน้องมาจดเคล็ดลับกันเลยค่ะ รับรองว่าทำง่ายแน่นอน


ทำไมต้อง ไหว้เจ้าที่กลางบ้าน ?

หลายคนอาจสงสัยว่า เรามีศาลพระภูมิหน้าบ้านแล้ว ทำไมต้องไหว้กลางบ้านอีก? น้องบุรีรัมย์น่าอยู่ขอเล่าให้ฟังแบบเข้าใจง่ายๆ การ ไหว้เจ้าที่กลางบ้าน นั้น เปรียบเสมือนการไหว้ "เจ้าของที่เจ้าของทาง" เดิม หรือดวงวิญญาณที่ปกปักรักษาพื้นที่นี้มาตั้งแต่อดีตค่ะ

การไหว้กลางบ้านมีจุดประสงค์หลักเพื่อ "ขอขมา" ในสิ่งที่เราอาจจะทำล่วงเกินไปโดยไม่รู้ตัว ทั้งทางกาย วาจา ใจ หรือเพื่อบอกกล่าวขอเปิดทางทำมาหากิน ขอให้ท่านช่วยขจัดอุปสรรค ปัดเป่าสิ่งไม่ดี และดลบันดาลให้คนในบ้านอยู่เย็นเป็นสุข มีโชคมีลาภนั่นเอง


 "พระภูมิ" กับ "เจ้าที่" ต่างกันยังไง?

ไขข้อข้องใจ! "พระภูมิ" กับ "เจ้าที่" ต่างกันยังไง? ไหว้แบบไหนถึงจะถูก?

ก่อนจะไปเริ่มไหว้กลางบ้าน น้องบุรีรัมย์น่าอยู่ขอแวะเคลียร์ประเด็นฮอตฮิตที่หลายคนยืนงงหน้าศาลกันก่อน ว่า ศาลพระภูมิ (เสาเดียว) กับ ศาลเจ้าที่ (4 เสา) หรือที่เราเรียกกันติดปากว่า "ศาลตายาย" นั้นต่างกันยังไง? เพราะถึงจะปกปักรักษาบ้านเหมือนกัน แต่สถานะและของไหว้ต่างกันนิดหน่อย

1. พระภูมิ (พระภูมิชัยมงคล) : เทวดาอารักษ์ชั้นสูง

  • สถานะ: เป็นเทวดาชั้นภุมมะเทวดา (ชั้นเทพ) ที่ได้รับมอบหมายจากท้าวเวสสุวรรณหรือพระอินทร์ ให้ลงมาดูแลรักษาพื้นที่ดินนั้นๆ เปรียบเสมือน "ผู้ว่าราชการ" หรือ "ตำรวจ" ที่คอยตรวจตราความสงบเรียบร้อยระดับมหภาค
  • ลักษณะศาล: สังเกตง่ายมาก คือศาลที่มี "เสาต้นเดียว" และตั้งอยู่สูงกว่าศาลเจ้าที่เสมอ
  • ของไหว้: เน้นของหอม ดอกไม้ ผลไม้ ขนมหวาน (ทองหยิบ ทองหยอด) ไม่นิยมถวายของคาวและสุรา เพราะท่านเป็นเทพ

2. เจ้าที่ (ศาลตายาย) : เจ้าของที่ดั้งเดิม

  • สถานะ: เป็นดวงวิญญาณเจ้าของที่ดินเดิม บรรพบุรุษ หรือผีบ้านผีเรือนที่อาศัยอยู่ในที่ดินผืนนี้มาก่อน เปรียบเสมือน "ผู้ใหญ่บ้าน"  ที่ใกล้ชิดกับคนในบ้านมากกว่า คอยดูแลเรื่องปากท้องและความเป็นอยู่ประจำวัน
  • ลักษณะศาล: เป็นเรือนไทยจำลองที่มี "4 เสา" และตั้งอยู่ต่ำกว่าศาลพระภูมิ
  • ของไหว้: ท่านโปรดปราน ของคาว (หัวหมู ไก่ต้ม เป็ด) กับข้าวทั่วไป เหล้า บุหรี่ และหมากพลู

สรุปง่ายๆ สไตล์น้องบุรีรัมย์น่าอยู่:

  • พระภูมิ (เสาเดียว): ไหว้ด้วยผลไม้/ขนมหวาน = ขอความคุ้มครอง ปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย
  • เจ้าที่ (4 เสา/กลางบ้าน): ไหว้ด้วยของคาว/ข้าวปลาอาหาร = ขอเรื่องทำมาหากิน ขอโชคลาภ และขอขมา

ดังนั้น การ "ไหว้เจ้าที่กลางบ้าน" ที่เรากำลังจะทำกันนี้ จึงจัดอยู่ในหมวดเดียวกับการไหว้เจ้าที่หรือศาลตายาย คือการเลี้ยงดูปูเสื่อดวงวิญญาณที่ดูแลบ้านเราให้อิ่มหนำสำราญ เพื่อเปิดทางให้ชีวิตราบรื่นนั่นเอง


การจัดของ ไหว้เจ้าที่กลางบ้าน ต้องใช้อะไรบ้าง?

เตรียมของให้พร้อม! การจัดของ ไหว้เจ้าที่กลางบ้าน ต้องใช้อะไรบ้าง?

หัวใจสำคัญของการไหว้คือความตั้งใจ แต่ของไหว้ก็ต้องครบถ้วนถูกต้องตามประเพณีด้วยสำหรับ การจัดของไหว้เจ้าที่กลางบ้าน น้องแนะนำให้เตรียมตามนี้ค่ะ

  • ธูป 5 ดอก: สื่อถึงความสมดุลและการบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้ง 5 ทิศ
  • เทียน 2 เล่ม: แทนแสงสว่างนำทาง
  • น้ำสะอาด 5 แก้ว: หรือน้ำชา 5 ถ้วย เพื่อความบริสุทธิ์
  • ดาวเรือง 9 ดอก: หรือพวงมาลัยดาวเรือง สื่อถึงความเจริญรุ่งเรือง
  • หมากพลู 9 คำ: เพื่อแสดงความเคารพตามธรรมเนียมโบราณ
  • ผลไม้มงคล 9 อย่าง: เช่น ส้ม (ความโชคดี), กล้วย (ทำอะไรก็ง่าย), องุ่นแดง (เงินทองเพิ่มพูน), แก้วมังกร (อำนาจบารมี), สับปะรด (รอบรู้), สาลี่ (โชคลาภ), แอปเปิ้ลแดง (สุขภาพ), ลิ้นจี่ (สิริมงคล), และลูกพลับ (จิตใจมั่นคง)
  • ผ้าขาวบาง 1 ผืน: สำหรับปูรองของไหว้ที่พื้นกลางบ้าน

เปิดฤกษ์มงคล! ไหว้เจ้าที่กลางบ้าน เวลาไหนดีที่สุด?

เรื่องฤกษ์ยาม หรือ ฤกษ์มงคล ก็สำคัญไม่แพ้กัน น้องบุรีรัมย์น่าอยู่แอบกระซิบว่า วันและเวลาที่ "ปัง" ที่สุดสำหรับการไหว้เจ้าที่กลางบ้าน คือ

  • วันอังคาร หรือ วันเสาร์: เพราะถือเป็นวันแข็ง เหมาะแก่การทำพิธีขอขมาและรับพลังงานดีๆ
  • เวลา 12.00 น. (เที่ยงตรง): เป็นช่วงเวลาที่พระอาทิตย์อยู่ตรงศีรษะ พลังงาน (ความร้อนแรง/แสงสว่าง) สูงที่สุด เชื่อว่าจะช่วยเปิดทางให้ชีวิตสว่างไสว ขจัดสิ่งมืดมนได้ดีที่สุด
  • ความถี่: ควรทำทุกๆ 3-6 เดือน หรือใครสะดวกทำเดือนละครั้งก็ได้ค่ะ โดยเฉพาะเดือนเมษายน (เดือนร้อน) และตุลาคม (เดือนปล่อยผี) ยิ่งควรทำเลย

5 ขั้นตอน ไหว้เจ้าที่กลางบ้าน ให้ถูกวิธี ทำตามนี้ชีวิตปัง!

5 ขั้นตอน ไหว้เจ้าที่กลางบ้าน ให้ถูกวิธี ทำตามนี้ชีวิตปัง!

เมื่อเตรียมของไหว้มงคลตามด้านบนครบเรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลาฤกษ์งามยามดีในการเริ่มพิธีกัน ขั้นตอนการไหว้เจ้าที่กลางบ้านนั้นไม่ได้ซับซ้อนอย่างที่คิด สิ่งสำคัญที่สุดคือ "ความตั้งใจ" และการทำจิตใจให้สงบ เพื่อสื่อสารขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้เปิดทางรับทรัพย์ น้องบุรีรัมย์น่าอยู่สรุปขั้นตอนปฏิบัติง่ายๆ มาให้แล้ว ทำตามทีละสเต็ปได้เลย

1. การจัดสถานที่และทิศทาง

ให้ปูผ้าขาวบางลงบนพื้น "บริเวณกลางบ้าน" (จุดกึ่งกลางของตัวบ้าน) โดยให้ผู้ไหว้นั่งหันหน้า "เข้าหาตัวบ้าน" และหันหลังให้กับประตูหน้าบ้าน จากนั้นจัดวางของไหว้ทั้งหมดลงบนผ้าขาวให้สวยงาม

2. จุดธูปเทียนและกล่าวคำบูชา

จุดธูป 5 ดอก และเทียน 2 เล่ม จากนั้นตั้งนะโม 3 จบ แล้วกล่าวบทสวดบูชาเจ้าที่ (เลือกบทใดบทหนึ่ง) ดังนี้

1. บทสวดขอขมา (นิยมใช้ที่สุด) เป็นคาถาโบราณที่ครูบาอาจารย์ในอดีต (บางตำราอ้างอิงถึงหลวงพ่อโอภาสี) ผูกขึ้นโดยรวมเอาหัวใจพระพุทธศาสนาและการระลึกถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ดูแลธาตุต่างๆ มารวมกัน เพื่อใช้ในการ "ขอขมาลาโทษ" ต่อพระแม่ธรณี พระแม่คงคา และเจ้าที่เจ้าทางโดยเฉพาะ

  • คาถา: "อิติสุคะโต อะระหังพุทโธ นะโมพุทธายะ ปะฐะวีคงคา พระภุมมะเทวา ขะมามิหัง"

คำแปลแบบเข้าใจง่าย:

  • อิติสุคะโต อะระหังพุทโธ: ขอระลึกถึงคุณพระพุทธเจ้า ผู้เสด็จไปดีแล้ว ผู้ไกลจากกิเลส
  • นะโมพุทธายะ: ขอนอบน้อมแด่พระพุทธเจ้า
  • ปะฐะวีคงคา: ขอระลึกถึงพระแม่ธรณี (ดิน) และพระแม่คงคา (น้ำ)
  • พระภุมมะเทวา: ขอระลึกถึงเทวดาผู้อาศัยอยู่ ณ ภาคพื้นดินนี้ (เจ้าที่)
  • ขะมามิหัง: "ข้าพเจ้าขอกล่าวคำขอขมา" (หากได้ทำสิ่งใดล่วงเกินไป)

2. บทสวดแผ่เมตตาและปรับภพภูมิ (คาถาพญายม)

บทนี้รู้จักกันในชื่อ "คาถาพญายมราช" หรือ คาถาบูชาท้าวเวสสุวรรณในบางตำรา แต่ที่แพร่หลายที่สุดมาจากสายของ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ (วัดท่าซุง)  ท่านกล่าวว่าเป็นคาถาที่ท่านพญายมราชบอกมาเพื่อให้ลูกหลานหมั่นสวด เพื่อช่วยสงเคราะห์ดวงวิญญาณ สัมภเวสี หรือเจ้าที่เจ้าทางที่ยังไม่ได้ไปผุดไปเกิด ให้ได้รับบุญและไปสู่ภพภูมิที่ดีขึ้น

  • คาถา: "ปะโตเมตัง ปะระชีวินัง สุขะโตจุติ จิตตะเมตะ นิพพานัง สุขะโตจุติ"

คำแปลแบบเข้าใจง่าย:

  • ปะโตเมตัง ปะระชีวินัง: ขอให้ชีวิตอื่น (ดวงวิญญาณทั้งหลาย) จงอย่ามีเวรภัยต่อกันเลย
  • สุขะโตจุติ: ขอให้เคลื่อนย้าย (จุติ) ไปสู่สุคติ (ภพภูมิที่ดี) เถิด
  • จิตตะเมตะ นิพพานัง: ขอให้จิตระลึกถึงความดี นำไปสู่ความสงบเย็น (นิพพาน)
  • สุขะโตจุติ: ไปดีมาดี ไปสู่ภพภูมิที่สบายเถิด

3. กล่าวคำขอขมาและอธิษฐาน

ขั้นตอนนี้สำคัญมาก ให้ตั้งจิตให้สงบแล้วกล่าวคำอธิษฐานตามนี้

"ข้าแต่เจ้าที่เจ้าทาง เจ้าของที่เจ้าของทาง เจ้าของบ้านเจ้าของเรือน บ้านเลขที่... วันนี้เป็นวันดี ข้าพเจ้าชื่อ-นามสกุล... นำเครื่องสักการะมาถวาย เพื่อขอขมากรรม หากมีสิ่งใดที่ข้าพเจ้าทำผิดไปไม่ว่าตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ ขอท่านโปรดอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้าด้วย และขอโปรดช่วย... (อธิษฐานเรื่องที่ติดขัด หรือขอโชคลาภ)"

4. รอเวลาและลาของไหว้

ให้รอจนกว่าธูปจะหมดดอก หรือรอประมาณ 30 นาที ระหว่างนี้ทำใจให้สบาย อย่าเพิ่งลุกไปไหน เมื่อธูปหมดแล้วให้ดับเทียน แล้วจับที่พานหรือแตะของไหว้ พร้อมกล่าวคำลาว่า:

"ขอเดนขอทานให้ลูกให้หลานกิน เพื่อความเป็นสิริมงคล"

5. นำของไหว้ไปแจกจ่าย

ผลไม้และน้ำดื่มที่เป็นมงคล สามารถนำมารับประทานกันในครอบครัวเพื่อความเป็นสิริมงคลได้เลย ส่วนหมากพลูและดอกไม้ให้นำไปวางไว้ที่โคนต้นไม้ใหญ่ หรือในที่ที่เหมาะสม


บทสรุป

การไหว้เจ้าที่กลางบ้าน เป็นความเชื่อส่วนบุคคลที่สืบทอดกันมาเพื่อความสบายใจและการแก้เคล็ดชีวิตที่ติดขัดนะคะ น้องบุรีรัมย์น่าอยู่เชื่อว่า เมื่อเรามีความศรัทธา ประกอบกับความตั้งใจดี การทำพิธีนี้ก็จะช่วยเสริมสร้างพลังใจให้เรากลับมาลุยงาน ลุยชีวิตต่อได้อย่างเต็มที่แน่นอนค่ะ

ใครที่ลองทำตามแล้วได้ผลยังไง หรือชีวิตดีขึ้นแค่ไหน อย่าลืมมาเล่าให้น้องฟังบ้างนะคะ ส่วนใครที่กำลังมองหาบ้านดีๆ ทำเลมงคลในบุรีรัมย์ ที่อยู่แล้วเฮง อยู่แล้วรวย ไม่ว่าจะเป็น บ้านเดี่ยว หลังใหญ่เพื่อครอบครัว บ้านแฝด ฟังก์ชันคุ้มค่า ทาวน์โฮม ทำเลเดินทางสะดวก หรือ คอนโด ทันสมัยใจกลางเมือง แวะมาชมโครงการ บนเว็บไซต์บุรีรัมย์น่าอยู่ได้ตลอดเลยนะคะ


คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

ไหว้เจ้าที่กลางบ้าน ใช้ธูปกี่ดอก?

ตอบ: ใช้ธูป 5 ดอก  เพื่อบูชาเจ้าที่เจ้าทางและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้ง 5 ทิศ

ผลไม้ไหว้เจ้าที่ ห้ามใช้อะไรบ้าง?

ตอบ: ควรหลีกเลี่ยงผลไม้ที่มีชื่อหรือความหมายไม่เป็นมงคล เช่น มังคุด (คุดๆ รู้สึกตันไม่ไปไหน), ระกำ (ชอกช้ำ), หรือพุทรา (ซาๆ ลง) เป็นต้นมแนะนำให้ใช้ผลไม้มงคล 9 อย่างตามที่น้องแนะนำจะดีที่สุดค่ะ

จำเป็นต้องไหว้กลางบ้านทุกเดือนไหม?

ตอบ: ไม่จำเป็นต้องทำทุกเดือน โดยปกติแนะนำให้ทำทุกๆ 3 หรือ 6 เดือน หรือเมื่อรู้สึกว่าชีวิตเริ่มติดขัด มีปัญหารุมเร้า ก็สามารถทำพิธีเพื่อเรียกขวัญและกำลังใจได้เลยค่ะ


บทความที่น่าสนใจ


บุรีรัมย์น่าอยู่ เว็บไซต์อสังหาฯ ที่รวมทุกเรื่องที่อยู่ของคนบุรีรัมย์ ค้นหาบ้าน ทรัพย์มือสอง บริการรับสร้างบ้าน บริการเช่าหอพัก และ ที่ดินทำเลดี ได้จากลิงค์ด้านล่างเลยค่า 👍

➡) หาบ้านบุรีรัมย์โครงการใหม่ คลิก
➡) หาบริษัทรับสร้างบ้าน ต่อเติม รีโนเวท คลิก
➡) หาบ้านมือสอง บ้านพร้อมอยู่ ทำเลดี คลิก
➡) ที่ดินเปล่า ที่ดินเกษตร จ.บุรีรัมย์ คลิก
➡) หาหอพัก/บ้านเช่า คลิก
➡) ทดลองคำนวณวงเงินกู้สินเชื่อบ้าน คลิก