สุรินทร์น่าอยู่ ขอเล่าให้ฟังว่า เมื่อเริ่มต้นทำงานก่อสร้าง ไม่ว่าจะเป็นการสร้างบ้าน ต่อเติม หรือทำโครงสร้างใด ๆ ก็ตาม คำถามหนึ่งที่มักเกิดขึ้นเสมอคือ “เหล็ก 1 เส้นยาวกี่เมตร” เพราะการรู้ขนาดมาตรฐานของเหล็กมีผลโดยตรงต่อการคำนวณวัสดุ งบประมาณ และการวางแผนก่อสร้างที่แม่นยำ
เหล็กเส้นคืออะไร มีกี่ชนิดอะไรบ้าง?
เหล็กเส้นเป็นวัสดุก่อสร้างหลักที่ใช้เสริมความแข็งแรงให้กับคอนกรีต ซึ่งคอนกรีตเพียงอย่างเดียวมีความทนทานต่อแรงอัดสูง แต่ไม่ทนต่อแรงดึง การใช้เหล็กเส้นจึงช่วยเพิ่มความแข็งแรงและอายุการใช้งานของโครงสร้าง โดยทั่วไปเหล็กเส้นสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทหลัก คือ เหล็กเส้นกลม (Round Bar – RB) และ เหล็กเส้นข้ออ้อย (Deformed Bar – DB)
เหล็กเส้นกลม (RB)

มีลักษณะผิวเรียบ มักใช้ในงานก่อสร้างขนาดเล็กหรืองานที่ไม่ต้องการรับน้ำหนักมาก เช่น งานก่ออิฐ งานหล่อคอนกรีตทั่วไป หรืองานที่ไม่ต้องการแรงยึดเหนี่ยวสูง ข้อดีคือมีราคาถูก หาง่าย และใช้งานสะดวก
เหล็กเส้นข้ออ้อย (DB)

มีลักษณะผิวเป็นลายบั้งหรือบิดเกลียว ทำให้สามารถยึดเกาะกับคอนกรีตได้ดี เหมาะกับงานโครงสร้างหลัก เช่น คาน เสา พื้น และโครงสร้างที่ต้องการความแข็งแรงสูง ปัจจุบันเป็นเหล็กที่นิยมใช้ในงานโครงสร้างขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ เพราะช่วยเพิ่มความมั่นคงและลดการแตกร้าวของคอนกรีต
นอกจากนั้นยังมี เหล็กเสริมคอนกรีตรูปพิเศษ เช่น เหล็กปลอก ที่ดัดโค้งเป็นสี่เหลี่ยม ใช้รัดเสาหรือคานเพื่อป้องกันการแตกร้าว และ เหล็กตะแกรงสำเร็จรูป (Wire Mesh) ซึ่งผลิตจากเหล็กเส้นขนาดเล็กเชื่อมติดกันเป็นตาราง เหมาะสำหรับงานพื้นและถนนที่ต้องการกระจายแรงสม่ำเสมอ
กล่าวโดยสรุป เหล็กเส้นที่ใช้ในงานก่อสร้างหลัก ๆ มี 2 ชนิด คือ RB และ DB แต่เมื่อนำมาดัดแปลงหรือประกอบรูปแบบต่าง ๆ ก็สามารถตอบโจทย์การก่อสร้างได้หลายลักษณะ ทั้งงานเล็ก งานซ่อม งานโครงสร้างหลัก ไปจนถึงงานพื้นถนนที่ต้องการความทนทานสูง
มาตรฐานความยาวของเหล็กเส้นในประเทศไทย
เหล็กเส้นที่ใช้ในงานก่อสร้างของไทย ไม่ว่าจะเป็น เหล็กเส้นกลม (RB) หรือ เหล็กข้ออ้อย (DB) จะมีความยาวมาตรฐานที่โรงงานผลิตและกำหนดไว้ตามมาตรฐานอุตสาหกรรม (มอก.) คือ 10 เมตร หรือ 12 เมตรต่อเส้น โดยส่วนใหญ่ที่วางขายตามท้องตลาดมักจะเป็น 12 เมตร เนื่องจากเหมาะสมต่อการใช้งานในงานโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก

สาเหตุที่ต้องกำหนดมาตรฐานความยาวเช่นนี้ก็เพื่อความสะดวกในการขนส่ง การคำนวณ และการควบคุมคุณภาพให้ได้ตามเกณฑ์เดียวกันทั้งประเทศ
เหล็กแต่ละประเภทมีความยาวเท่ากันหรือไม่?
แม้ว่าเหล็กเส้น RB และ DB จะมีมาตรฐานความยาว 10–12 เมตรเหมือนกัน แต่ในกลุ่มเหล็กรูปพรรณอื่น ๆ เช่น เหล็กกล่อง, เหล็กตัวซี, H-beam, I-beam จะมีขนาดความยาวมาตรฐานแตกต่างออกไป เช่น บางประเภทอาจยาว 6 เมตร หรือ 9 เมตร ขึ้นอยู่กับการใช้งานและมาตรฐานการผลิตของโรงงาน
ดังนั้น ก่อนเลือกซื้อจึงควรตรวจสอบเสมอว่าต้องใช้เหล็กประเภทใด และขนาดความยาวกี่เมตร เพื่อไม่ให้เสียเวลาและต้นทุนโดยไม่จำเป็น
วิธีคำนวณจำนวนเหล็กจากความยาวมาตรฐาน
การรู้ว่าเหล็ก 1 เส้นยาวกี่เมตร ช่วยให้เราคำนวณจำนวนที่ต้องใช้ได้ง่ายขึ้น เช่น ถ้าต้องการเหล็กยาวรวม 100 เมตร และเหล็กที่เลือกมีความยาวมาตรฐาน 10 เมตรต่อเส้น ก็จะต้องใช้ทั้งหมด 10 เส้น แต่ถ้าเป็นความยาว 12 เมตรต่อเส้น จำนวนที่ต้องใช้ก็จะลดลงเหลือเพียง 9 เส้น

ในกรณีที่ซื้อเป็น “ตัน” โรงงานจะมีตารางคำนวณจำนวนเส้นต่อหนึ่งตันให้เรียบร้อย เช่น เหล็ก DB12 หนึ่งตัน จะมีประมาณ 93 เส้น ความยาว 12 เมตร ซึ่งสามารถนำไปคำนวณพื้นที่ใช้งานได้สะดวกขึ้น
น้ำหนักต่อเส้นของเหล็กมาตรฐาน
นอกจากความยาวแล้ว น้ำหนักของเหล็กต่อเส้นก็เป็นสิ่งที่ควรรู้ เพราะร้านขายวัสดุก่อสร้างบางแห่งขายตามน้ำหนัก ไม่ได้ขายตามเส้น เช่น เหล็ก DB12 ความยาว 12 เมตร จะหนักประมาณ 10.7 กิโลกรัมต่อเส้น ในขณะที่ RB9 ความยาวเท่ากันจะหนักประมาณ 4.7 กิโลกรัมต่อเส้น

การรู้ทั้ง “ความยาว” และ “น้ำหนัก” จะช่วยให้สามารถเปรียบเทียบราคาได้แม่นยำยิ่งขึ้น และทำให้การประมาณการต้นทุนเป็นไปอย่างถูกต้อง
ข้อควรรู้ก่อนซื้อเหล็กเส้น
หลายคนเข้าใจว่าเหล็กทุกที่ยาวเท่ากัน แต่ความจริงแล้วต้องเลือกเหล็กที่ผ่าน มาตรฐาน มอก. เท่านั้น เพื่อให้มั่นใจว่าได้ความยาวที่ถูกต้อง ไม่สั้นเกินไป อีกทั้งยังควรตรวจสอบว่าซื้อจากร้านที่น่าเชื่อถือ เพราะเหล็กที่ไม่ได้มาตรฐานอาจมีความยาวไม่ตรง และน้ำหนักไม่ถึงตามที่กำหนด ซึ่งส่งผลต่อความแข็งแรงของโครงสร้างโดยตรง
การเลือกใช้เหล็กตามงานก่อสร้าง
งานบ้านพักอาศัยทั่วไป มักใช้เหล็กเส้นขนาดเล็กถึงกลาง (RB6, RB9, DB12) ความยาวมาตรฐาน 12 เมตร
งานอาคารสูงหรือโครงสร้างใหญ่ มักใช้เหล็กข้ออ้อย DB16–DB32 ที่มีความยาวมาตรฐานเท่ากัน แต่มีน้ำหนักมากกว่า
งานโครงหลังคาหรือโครงสร้างที่ต้องใช้เหล็กรูปพรรณ เช่น เหล็กกล่อง เหล็กตัวซี จะใช้ความยาวที่แตกต่างออกไป โดยมากจะยาว 6 เมตรต่อเส้น

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับเหล็กเส้น
หลายคนอาจสงสัยว่าเหล็กเส้นสามารถตัดแบ่งได้หรือไม่ คำตอบคือสามารถตัดได้ตามต้องการ แต่ควรวางแผนตัดอย่างเหมาะสมเพื่อลดเศษเหลือทิ้ง นอกจากนี้การขนส่งเหล็กยาว 10–12 เมตร มักต้องใช้รถบรรทุกขนาดใหญ่ เช่น รถ 6 ล้อ หรือ 10 ล้อ เพื่อให้ปลอดภัยและไม่ทำให้เหล็กงอระหว่างการขนส่ง
สรุป
เหล็กเส้นที่ใช้ในงานก่อสร้างตามมาตรฐาน มอก. และกรมโยธาธิการและผังเมือง ส่วนใหญ่ผลิตในความยาวมาตรฐาน 10 เมตร และ 12 เมตรต่อเส้น ซึ่งถือเป็นขนาดที่พบได้มากที่สุดในท้องตลาด เพื่อให้สะดวกต่อการออกแบบและก่อสร้างโครงสร้างอาคาร แต่ในบางกรณีผู้ผลิตอาจผลิตเหล็กเส้นยาว 6 เมตร หรือสั่งผลิตพิเศษตามความต้องการของโครงการได้ โดยการเลือกความยาวของเหล็กเส้นขึ้นอยู่กับรูปแบบโครงสร้างและการติดตั้ง
หากเป็นงานบ้านทั่วไป มักเลือกเหล็กยาว 10 เมตรเพราะขนส่งง่าย ไม่เปลืองพื้นที่และสามารถตัดดัดได้สะดวก ขณะที่งานโครงสร้างขนาดใหญ่ เช่น อาคารสูง หรือสะพาน มักนิยมใช้เหล็กยาว 12 เมตรเพื่อความแข็งแรงและลดรอยต่อ ดังนั้นก่อนซื้อเหล็กเส้นควรตรวจสอบมาตรฐาน มอก. และความเหมาะสมของความยาวต่อการใช้งาน เพื่อให้ได้โครงสร้างที่แข็งแรง ปลอดภัย และคุ้มค่า
บทความที่คุณอาจสนใจ
- เหล็ก 9 มิล คืออะไร? ทำไมถึงถูกเลือกใช้บ่อยในงานก่อสร้าง?
- เหล็ก 2 หุน กี่มิล ใช้ยังไง เหมาะทำอะไร? คู่มือเข้าใจง่ายสำหรับมือใหม่
- เหล็กกล่อง (Steel Tube) ในงานก่อสร้าง ประโยชน์และข้อดีในการใช้งาน
สำหรับใครที่กำลังมองหาซื้อบ้านสุรินทร์ หรือหอพักสุรินทร์ สามารถเข้ามาเลือกชมบ้าน ที่ดิน หอพักและบริษัทรับสร้างบ้านได้ที่เว็บไซต์สุรินทร์น่าอยู่ นอกจากนี้พวกเรายังมีบทความอื่นๆที่น่าสนใจเกี่ยวกับจังหวัดสุรินทร์อีกมากมาย เช่น อสังหาริมทรัพย์ ที่เที่ยวสุรินทร์ และสาระน่ารู้ต่างๆมาฝากเพื่อนๆทุกคนอีกด้วยนะ
แชร์บทความนี้