กู้ง่าย! วางแผนเตรียมเงินดาวน์บ้านยังไง ให้พร้อมก่อนซื้อบ้าน

ก่อนการซื้อบ้าน 1 หลัง ต้องวางแผนการเงินให้ดี เพราะเป็นหนี้ก้อนใหญ่ระยะยาว แต่สิ่งที่บางคนอาจจะยังไม่รู้ ก่อนซื้อบ้านต้องเตรียมอะไรบ้าง มาทำความรู้จักกับเงินดาวน์บ้านกันก่อนดีกว่าครับ

เงินดาวน์บ้านคือ เงินก้อนแรก ที่เราจ่ายด้วยเงินสดไม่รวมในวงเงินที่เราจะกู้กับทางธนาคาร ถ้าพูดกันง่าย ๆ เงินดาวน์บ้านที่เราจ่ายไปก้อนแรก จะเหมือนเป็นการลดเงินที่ต้องผ่อนกับทางธนาคารนั่นเอง

แล้วเงินดาวน์บ้านสำคัญอย่างไร การจ่ายเงินดาวน์บ้านในจำนวนที่เยอะ ทำให้เงินต้นที่จะกู้กับธนาคารน้อยลงตามไปด้วย แล้วดอกเบี้ยในแต่ละเดือนก็น้อยลงเช่นกันค่ะ และที่สำคัญเพิ่มโอกาสที่ธนาคารจะอนุมัติสินเชื่อมากขึ้น

กำหนดราคาบ้านที่เราอยากได้ กับเงินที่ต้องเตรียมในการดาวน์บ้าน

เตรียมเงินดาวน์บ้าน 

การวางแผนก่อนการซื้อบ้านก็ถือว่าสำคัญมากนะครับ การเตรียมเงินดาวน์บ้าน สิ่งที่ต้องรู้ก่อนอย่างแรกมีอะไรบ้างมาดูกันครับ

หาบ้านที่ราคาเหมาะสมกับรายได้

มาดูรายได้ของเราก่อนเป็นอย่างแรก ว่ารายเดือนต่อเดือนของเรามีเท่าไหร่ ซึ่งโดยทั่วไปธนาคารจะมีหลักการคำนวนที่แนะนำให้อยู่แล้ว คือ “ภาระหนี้ทั้งหมดรวมกันแล้วไม่ควรเกิน 30-40% ของรายได้ทั้งหมด

ตัวอย่างการคำนวนเบื้องต้น :

รายได้ต่อเดือน x 40% = ยอดผ่อนชำระสูงสุดต่อเดือน

เช่น มีเงินเดือน 30,000 บาท  x 40% = ไม่ควรผ่อนเกิน 12,000 บาท/เดือน

แล้วมาดูประเมินราคาบ้านจากยอดผ่อนต่อเดือน โดยประมาณการกู้บ้าน ถ้ากู้บ้าน 1 ล้านบาท จะผ่อน 6,000 - 7,000 บาท ต่อเดือน

หากคำนวนภาระหนี้มาแล้ว เหลือเงินต่อเดือนประมาณเท่าไหร่ จะทำให้สามารถดูได้โดยประมาณแล้วว่าเราเหมาะกับการกู้บ้านในราคาประมาณเท่าไหร่

อัตราเงินดาวน์ที่แนะนำกับราคาบ้าน

อัตราเงินดาวน์บ้านขึ้นอยู่แต่ละธนาคาร และโปรโมชั่นของแต่ละโครงการ ซึ่งอัตราเงินดาวน์บ้านที่แนะนำจะขึ้นอยู่กับความน่าเหมาะสมของแต่ละคน มาดูกันว่าแต่ละเปอร์เซ็นต์ต่างกันอย่างไร

  • 5% - 10% : เหมาะสำหรับคนที่มีเงินก้อนจำกัด อยากได้บ้านเร็ว แต่การจ่ายเงินดาวน์บ้านน้อย ก็จะทำให้ยอดกู้สูง ดอกเบี้ยแพง ค่างวดต่อเดือนก็จะสูงตามไปด้วย
  • 20% : เป็นมาตรฐานที่แนะนำ เพราะธนาคารส่วนใหญ่จะอนุมัติง่าย การจ่ายเงินดาวน์เยอะ ก็ช่วยให้ยอดกู้บ้านน้อยลง ระยะเวลาในการจ่ายกับธนาคารสั้นลงด้วยค่ะ

คำนวนเงินดาวน์ที่ต้องจ่ายก้อนแรก แยกกับค่าใช้จ่ายในวันโอนกรรมสิทธิ์

นอกจากเงินดาวน์บ้านแล้ว หลายคนอาจจะยังไม่ค่อยรู้ว่ายังมีค่าใช้จ่ายอย่างอื่นที่แฝงมาอีกด้วย คือค่าใช้จ่ายในวันโอนกรรมสิทธิ์นั่นเองค่ะ

โดยผู้ซื้อควรเตรียมเงินเพิ่มจากเงินดาวน์บ้านไว้อีกประมาณ 3% - 5% ของราคาบ้าน เพื่อไว้ใช้จ่ายต่างๆ ที่ต้องจ่ายดังนี้

  1. ค่าธรรมเนียมการโอน 2% ของราคาประเมิน
  2. ค่าจดจำนอง 1% ของยอดกู้
  3. ค่าอากรแสตมป์/ภาษีธุรกิจเฉพาะ
  4. ค่าประเมินราคาที่ดิน
  5. ค่าประกันภัยบ้านต่าง ๆ
  6. เงินค่าส่วนกลาง สำหรับบ้านโครงการมือหนึ่ง

เทคนิคออมเงินดาวน์บ้าน

การจะซื้อบ้าน 1 หลัง ถือว่าเป็นหนี้ก้อนใหญ่ ถ้ามีเงินดาวน์บ้านที่เยอะพอก็จะช่วยให้ยอดกู้บ้านน้อยลงไปด้วย การออมเงินดาวน์บ้านให้ได้ตามเป้าหมาย ก็ต้องมีเทคนิคในการออมกันหน่อย มีวิธีออมยังไงมาดูกันค่ะ

การทำงบประมาณ รายรับ รายจ่าย

การทำรายรับรายจ่าย ประจำวัน เป็นวิธีที่ช่วยให้เรารู้ว่าการใช้จ่ายของเราเป็นยังไงบ้าง ซึ่งในปัจจุบันมีแอปพลิเคชันมาช่วยในการทำรายรับรายจ่ายให้เราด้วยแล้ว ยิ่งทำให้การทำรายรับรายจ่ายง่ายมากยิ่งขึ้น

แบ่งการใช้จ่ายกับเงินออมให้เป็นสัดส่วนที่ชัดเจน เช่น ค่าใช้จ่ายประจำวัน 50%, เงินออมส่วนตัว 20%, และเงินออมสำหรับเงินดาวน์บ้าน 30%

ตั้งเป้าหมายในการเก็บออม เป็นรายเดือน/รายปี

เริ่มจากการคำนวนเงินก้อนทั้งหมดที่เราจะใช้ก่อน จากราคาบ้านงบเรามีเท่าไหร่ ถ้าอยากดาวน์บ้าน 20% ขึ้นไป ให้คิดจากราคาบ้าน ดาวน์ 20% เท่ากับเท่าไหร่  แล้วบวกกับเผื่อค่าโอนไปอีก ก็จะได้เป้าหมายในการออมเงินดาวน์บ้านแล้ว

แล้วมาตั้งเป็นรายปี ตั้งเป้าหมายจะออมกี่ปี จะ 2-3 ปีก็ได้ คำนวนจากเป้าดาวน์บ้าน 20% ถ้าออม 2 ปี ต้องออมปีละเท่าไหร่ เป็นการตั้งเป้าให้ชัดเจน

มาต่อด้วยการตั้งเป้าหมายเป็นรายเดือน คำนวนต่อปีมาแล้วเรียบร้อย ก็มาเฉลี่ยต่อเดือนว่าต้องออมเงินดาวน์ บ้านเท่าไหร่ เพื่อเป็นการดูความเป็นไปได้ในการออมของเราอีกด้วย

หารายได้เสริมเพื่อเก็บเงินออม

เมื่อทำงานประจำแล้วอาจจะยังไม่เพียงพอ อยากออมได้เยอะขึ้น ลองหารายได้เสริมจากความถนัดที่เรามีอยู่ก่อนก็ได้ เพราะปัจจุบันการทำงานแบบออนไลน์มีช่องทางค่อนข้างเยอะขึ้น หรืออีกทางเลือกหนึ่ง เป็นการออกไปขายของออนไลน์ สามารถหาเวลาว่างมาทำได้ ไม่รบกวนเวลาของ งานประจำ

แต่ข้อสำคัญของการหารายได้เสริม ต้องเป็นรายได้ที่เก็บเป็นเงินออมในการดาวน์บ้านโดยเฉพาะ เพื่อให้การออมเงินดาวน์เป็นไปตามเป้าหมายที่เราตั้งไว้ได้เร็วขึ้น

ความเสี่ยงที่ต้องรู้ หากใช้เงินก้อนดาวน์บ้าน

การใช้เงินก้อนดาวน์บ้าน อาจมีความเสี่ยงในหลาย ๆ อย่างที่บางคนอาจจะยังไม่รู้ เรามาดูกันว่าความเสี่ยงมีอะไรบ้าง

ไม่ควรใช้เงินเก็บทั้งหมดเป็นเงินดาวน์

เนื่องจากการซื้อบ้านมักจะมีค่าใช้จ่ายแฝงหลายอย่างที่เรายังไม่รู้ เป็นค่าใช้จ่ายที่เราต้องจ่ายเองเป็นบางอย่าง จากงบประมาณบานปลาย การต่อเติมบ้าน หรือเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้าน และที่สำคัญในยามที่ต้องใช้เงินสดจริง ๆ ในกรณีฉุกเฉินอาจทำให้สภาพคล่องในการใช้เงินในชีวิตประจำวันรวนได้

ข้อแนะนำ จึงควรมีเงินเก็บที่เหลือติดบัญชีไว้บ้าง เผื่อกรณีฉุกเฉินขึ้นมาแล้วต้องการใช้เงินสด อย่างน้อยให้มีคงเหลือไว้ประมาณ 10%-15% ของเงินเก็บทั้งหมดหลังหักค่าดาวน์บ้านแล้ว

ควรมีเงินสำรองฉุกเฉิน หลังจากซื้อบ้าน

เมื่อซื้อบ้านเป็นที่เรียบร้อยแล้ว บางอย่างอาจมีค่าใช้จ่ายในอนาคตที่เราไม่รู้ เช่น ของในบ้านเสียหาย ที่ต้องซ่อมแซม จำเป็นต้องมีเงินสำรองเผื่อฉุกเฉินในกรณีนี้ด้วย

หรือเมื่อเกิดกรณีที่ไม่คาดฝัน ตกงานไม่มีเงินเดือน หรือเงินเดือนลดลง/รายได้ลดลง เงินสำรองที่เราเก็บไว้จะช่วยเราได้ในจุดนี้ ซึ่งควรมีให้สามารถผ่อนบ้านได้ต่ออีกอย่างน้อย 6 เดือน

การเตรียมพร้อมเรื่องเครดิต ให้ควบคู่ไปกับการออมเงินดาวน์บ้าน

ในระหว่างที่เรากำลังออมเงินดาวน์บ้าน ควรมีวินัยทางการเงิน เพราะต่อให้มีเงินดาวน์บ้านเยอะแค่ไหน แต่เครดิตทางการเงินไม่ดี ธนาคารก็ไม่อนุมัติเงินกู้บ้านให้

สิ่งที่ต้องระวังระหว่างการออมเงิน คือห้ามการสร้างหนี้ใหม่ เพราะเป็นการเพิ่มภาระหนี้รายเดือน ทำให้วงเงินกู้ได้น้อยลง และอีกหนึ่งเรื่องคือการรักษาประวัติการชำระหนี้ให้ตรงเวลาไม่ค้างชำระ เพื่อไม่ให้ส่งผลต่อการพิจารณาของธนาคารในการอนุมัติเงินกู้บ้านให้เรา

บทสรุป

อยากจะกู้บ้านให้ง่ายขึ้น ต้องผ่านการวางแผนการเงินที่ดี โดยส่วนสำคัญถ้าเราไม่อยากมียอดกู้บ้านที่สูงเกินไป เงินดาวน์บ้านก็ถือว่าเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การผ่อนชำระของเราสบายมากยิ่งขึ้น ตั้งเป้าหมายให้ชัดเจนในการออมเงินดาวน์บ้าน มีวินัยในการออมและการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ควบคู่ไปกับการจัดสรรเผื่อเงินสำรองไว้ใช้ในกรณีฉุกเฉินให้เพียงพอ เพื่อให้เราสบายใจและปลอดภัยทางการเงินในระยะยาวด้วยครับ

สำหรับใครที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัยในจังหวัดเชียงราย ไม่ว่าจะเป็นบ้านเชียงราย, บ้านแฝดเชียงราย, คอนโดเชียงรายและทาวน์โฮมเชียงราย ก็สามารถเลือกชมได้ที่เว็บไซต์ “น่าอยู่” บอกเลยว่ามีให้เลือกหลายโซน ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์วัยเรียนและวัยทำงานสุด ๆ

คำถามที่พบบ่อย
1. Q: ข้อควรระวัง หากดาวน์บ้านน้อย

A: จะทำให้มีภาระหนี้สูง ดอกเบี้ยรวมตลอดสัญญาจะแพงขึ้นตามไปด้วย การอนุมัติจากธนาคารก็จะยากขึ้นไปด้วย ซึ่งธนาคารมองว่ามีความเสี่ยงสูง

2. Q: ใช้เงินจากสินเชื่อส่วนบุคคลมาเป็นเงินดาวน์ได้ไหม

A: ไม่แนะนำให้ใช้เงินจากสินเชื่อส่วนบุคคลมาเป็นเงินดาวน์บ้าน เพราะสินเชื่อส่วนบุคคลมีดอกเบี้ยที่สูงกว่าสินเชื่อบ้านมาก และยังส่งผลกระทบต่อวงเงินกู้ เนื่องจากธนาคารจะนำไปรวมกับภาะหนี้ที่เรามีอยู่ ทำให้ยอดเงินกู้บ้านน้อยลงไปด้วย

3. Q: ต้องมีเงินสำรองฉุกเฉินเท่าไหร่ หลังจากจ่ายเงินดาวน์ไปแล้ว

ควรมีเงินสดเหลือในบัญชีที่สามารถครอบคลุมค่าใช้จ่ายส่วนตัว บวกกับค่างวดผ่อนบ้าน อย่างน้อย 6 เดือน เพื่อเตรียมรับมือกับค่าใช้จ่ายในอนาคต เช่น ค่าซ่อมแซมบ้าน หรือหากรายได้ลดลง เงินส่วนนี้ก็จะสามารถนำมาช่วยเราได้ ทำให้ไม่เสียประวัติหรือบ้านโดยยึด