ค่าไฟแพงไม่ไหว! สรุปวิธีเช็กหน่วยไฟ พร้อมเคล็ดลับลดค่าไฟ
ในช่วงที่ผ่านมา หลายบ้านชอบเจอปัญหาค่าไฟแพงผิดปกติแบบไม่ทราบสาเหตุ ทั้งที่ไม่ได้ใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าเพิ่ม บางบ้านก็ใช้ไฟเท่าเดิมแต่บิลดันสูงขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งเกิดได้จากหลายปัจจัย ทั้งพฤติกรรมการใช้ไฟ อุปกรณ์เสื่อมไฟฟ้า การจดหน่วยผิด ไปจนถึงปัญหาที่เกิดจากมิเตอร์ โดยวันนี้ น้องน่าอยู่ จะสรุปให้ทุกคนเข้าใจครับว่า “ค่าไฟแพง” เกิดจากอะไร เช็กยังไง และแก้ปัญหาได้แบบไหนบ้าง
องค์ประกอบของค่าไฟฟ้า มีอะไรบ้าง
การใช้ไฟฟ้าในปัจจุบันถือเป็นสิ่งจำเป็นอันดับต้น ๆ ของสังคมเราไปแล้ว และก่อนจะหาสาเหตุ เราจะพาไปดูก่อนว่าบิลค่าไฟมีอะไรประกอบด้วยบ้าง
- ค่าไฟฐาน (ค่าพลังงานไฟฟ้า) เป็นราคามาตรฐานของหน่วยไฟ โดยอัตราค่าไฟฐานจะแตกต่างกันตามประเภทของที่อยู่อาศัย เช่น บ้านพัก อาคารพาณิชย์ โดยคำนวณจากต้นทุนการผลิตและการจัดส่งกระแสไฟ
- ค่าไฟฟ้าผันแปร (Ft) เปลี่ยนแปลงตามต้นทุนเชื้อเพลิงที่ผลิตกระแสไฟ อาจมีอัตราค่าไฟฟ้าที่เพิ่มลดในทุก ๆ 4 เดือน
- ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT 7%) เป็นอีกองค์ประกอบที่ใช้ในการคำนวณค่าไฟ ซึ่งจะเอาไปคิดรวมกับผลรวมค่าไฟฐานและค่าไฟฟ้าผันแปร ค่าบริการรายเดือน รวมต้นทุนการอ่านและจดหน่วย การจัดทำบิล และบริการลูกค้า โดยมี กกพ. เป็นหน่วยงานกลางที่ดูแลเพื่อให้เป็นไปตามนโยบายที่กำหนด
สาเหตุค่าไฟแพงผิดปกติ เกิดจากอะไร
ค่าไฟแพงผิดปกติส่วนใหญ่จะเกิดจากพฤติกรรมการใช้ไฟฟ้า และความผิดปกติของระบบไฟในบ้าน รวมถึงปัจจัยด้านต้นทุนพลังงานภายนอกที่เราจัดการเองไม่ได้ ซึ่งสาเหตุทั้งหมดนี้ทำให้บิลค่าไฟแต่ละบ้านอาจแพงขึ้นกว่าปกติ ดังนั้นเราจึงสรุปสาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้ค่าไฟแพงขึ้นดังนี้ครับ
- พฤติกรรมการใช้ไฟที่เพิ่มขึ้น เช่น การเปิดแอร์ที่นานขึ้น การใช้เครื่องฟอกอากาศ เปิดเครื่องทำน้ำอุ่น รวมถึงการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าหลายชนิดพร้อม ๆ กัน ซึ่งอุปกรณ์แต่ละชนิดก็กินไฟไม่เท่ากัน บางเครื่องอาจกินไฟเยอะ เลยทำให้หน่วยไฟที่ใช้เพิ่มขึ้นแบบไม่รู้ตัว
- อุปกรณ์ไฟฟ้าเสื่อมสภาพ ถือเป็นตัวการที่เจอบ่อยที่สุด เช่น คอยล์แอร์ตัน คอมเพรสเซอร์ทำงานหนักเกินไป ปั๊มน้ำพัง หรือสายไฟขาดชำรุด ซึ่งทำให้กระแสไฟไหลทิ้งออก ยิ่งถ้าเกิดจาก “ไฟรั่ว” ไม่ใช่แค่ค่าไฟสูง แต่ยังเสี่ยงทำให้เกิดอุบัติเหตุอีกด้วย
- ความผิดปกติของมิเตอร์ไฟฟ้า เช่น น็อตหลวม ระบบอ่านค่าไม่เสถียร หรือมิเตอร์เก่ามากจนอ่านหน่วยไฟเพี้ยน กรณีนี้ชอบเกิดกับบ้านเช่า อาคารเก่า ๆ หรือบ้านที่ใช้งานมานานหลายปี เลยเป็นส่วนที่ทำให้ค่าไฟแพงผิดปกติ
- สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะฤดูร้อนที่อุณหภูมิร้อนขึ้นมาก ทำให้เครื่องปรับอากาศต้องทำงานหนักขึ้น ถึงจะใช้เวลาเปิดแอร์เท่าเดิม แต่คอมเพรสเซอร์แอร์ก็ทำงานหนักขึ้นตาม ทำให้ค่าไฟเพิ่มขึ้นสูงกว่าปกติเยอะมาก
- ค่า Ft ปรับเปลี่ยน เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ค่าไฟแพงขึ้นจากความผันผวนตามต้นทุนเชื้อเพลิงโลก โดยปรับทุก ๆ 4 เดือน ซึ่งในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2569 มีการปรับลดลงเหลือ 9.72 สตางค์/หน่วย (ไม่รวม VAT) จาก 4 เดือนสุดท้ายของปี 2568
เมื่อดูจากปัจจัยที่เพื่อน ๆ อ่านไป จะเห็นได้เลยครับว่าค่าไฟที่แพงขึ้นเกิดได้จากหลายสาเหตุ ทั้งพฤติกรรมการใช้ไฟ การเสื่อมสภาพของอุปกรณ์ หรือความผิดปกติของระบบไฟในบ้าน ดังนั้นการตรวจสอบอย่างละเอียดก็จะช่วยให้เจอสาเหตุที่ทำให้ค่าไฟแพงผิดปกติได้ง่ายขึ้น
ค่าไฟแพงผิดปกติ ตรวจสอบได้อย่างไร
ถ้าบิลค่าไฟแพงผิดปกติ ทั้งที่การใช้ไฟก็เหมือนเดิม สิ่งแรกที่ควรทำคือการเช็กสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหา ตั้งแต่การดูเลขหน่วยไฟในบิล เช็กสภาพมิเตอร์ การประเมินการใช้ไฟของเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน และอีกหลาย ๆ วิธีตรวจสอบสาเหตุที่ทำให้ค่าไฟแพงขึ้นดังนี้
1. ตรวจสอบจากการจดหน่วยไฟฟ้า
เริ่มจากดูตัวเลขหน่วยไฟ (kWh) ในบิลแจ้งค่าไฟเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้า ถ้าเห็นว่าหน่วยไฟเพิ่มขึ้นแบบผิดสังเกต ทั้งที่การใช้ไฟเหมือนเดิม อาจมีความผิดพลาดจากการจดหน่วย หรืออาจเกิดปัญหาบางอย่างในระบบการจ่ายไฟ การตรวจซ้ำหรือถ่ายรูปมิเตอร์ไว้ก่อนที่จะแจ้งการไฟฟ้าก็ช่วยให้เช็กได้ง่ายขึ้น
2. ตรวจสอบจากมิเตอร์
ถ้าสงสัยว่ามิเตอร์อาจพังหรือมีความผิดปกติ เช่น ตัวเลขเดินเร็วแปลก ๆ หรือยังหมุนอยู่ทั้งที่ปิดเบรกเกอร์แล้ว ควรเช็กด้วยการปิดสวิตช์ไฟทุกจุดในบ้านแล้วดูว่ามิเตอร์ยังทำงานอยู่ไหม ถ้าเลขยังเดินอยู่ แสดงว่าระบบไฟอาจจะรั่ว หรือมิเตอร์มีปัญหาจริง ๆ
3. ตรวจสอบการใช้ไฟฟ้าของตนเอง
หลายบ้านที่ค่าไฟแพงขึ้นด้วยพฤติกรรมการใช้ไฟที่เพิ่มขึ้นโดยไม่รู้ตัว เช่น เปิดแอร์นานขึ้น ใช้เครื่องซักผ้าบ่อยขึ้น หรือเปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าหลายอย่างพร้อมกัน สำหรับคนที่อยู่บ้าน WFH การโน้ตหรือประเมินช่วงเวลาที่ใช้ไฟหนัก ๆ ก็ช่วยให้เห็นความเปลี่ยนแปลง หรือเห็นจุดที่ทำให้ค่าไฟแพงผิดปกติได้ง่ายขึ้น
4. ตรวจสอบความผิดปกติของอุปกรณ์ไฟฟ้า
เครื่องใช้ไฟฟ้าที่เริ่มจะพัง เช่น แอร์ไม่เคยล้าง คอมแอร์ทำงานหนัก ตู้เย็นปิดไม่สนิท หรือเครื่องทำน้ำอุ่นมีระบบตัดไฟผิดปกติ ล้วนเป็นตัวการที่ทำให้กินไฟเยอะขึ้น การบำรุงรักษาเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านและเช็กอุปกรณ์ที่ทำงานตลอดเวลา ก็จะช่วยลดโอกาสค่าไฟพุ่งได้เหมือนกัน
รวมวิธีลดและแก้ปัญหาค่าไฟแพงผิดปกติ
ถ้าค่าไฟแพงผิดปกติและอยากลดบิลในระยะยาว สิ่งแรกที่ควรเริ่มคือปรับพฤติกรรมการใช้ไฟ และเลือกเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 เพื่อช่วยลดการกินไฟโดยไม่จำเป็น การถอดปลั๊กไฟหลังใช้งานก็ช่วยได้เยอะ เพราะอุปกรณ์บางอย่างยังมีกระแสไฟไหลอยู่ถึงจะปิดสวิตช์ไปแล้ว รวมถึงการดูแลรักษาเครื่องใช้ไฟฟ้าอยู่เสมอ
สุดท้ายถ้าอยากประหยัดค่าไฟแบบจริงจังในระยะยาว การติดตั้ง “แผงโซลาร์เซลล์” ถือเป็นทางเลือกที่คุ้มมาก ตอบโจทย์กับคนที่ทำงานแบบ Work from home และเหมาะกับบ้านที่มีการใช้ไฟเยอะ ซึ่งเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าเพื่อลดค่าใช้จ่าย
สรุปบทความ ค่าไฟแพงผิดปกติเกิดจากอะไร แก้ยังไง
โดยสรุป ค่าไฟที่แพงผิดปกติอาจเกิดจากการใช้งานจริงที่เพิ่มขึ้น อุปกรณ์ไฟฟ้าชำรุด มิเตอร์อ่านผิด หรือปัญหาไฟรั่ว การตรวจสอบอย่างเป็นขั้นตอนจะช่วยให้หาต้นเหตุได้ง่ายขึ้น และช่วยให้สามารถแก้ปัญหาได้อย่างถูกวิธี
คำถามที่พบบ่อย
หลังจากที่ได้รู้รายละเอียดเกี่ยวกับปัญหา ค่าไฟแพงผิดปกติ ไม่ว่าบ้านจะมีอายุการใช้งานกี่ปี ปัญหาค่าไฟสูงขึ้นก็สามารถเกิดขึ้นได้เสมอ และหลายคนคงสงสัยเกี่ยวกับการตรวจสอบ ต้องแจ้งใคร หรือมีปัจจัยใดที่ควรรู้เพิ่มเติมบ้าง เราจึงได้รวบรวมคำถามที่พบบ่อย พร้อมคำตอบมาไขข้อข้องใจให้ทุกคนแล้วครับ
1. ค่าไฟแพงผิดปกติ ร้องเรียนที่ไหน
Answer: สามารถเขียนคำร้องกับทางการไฟฟ้าเพื่อให้ทำการตรวจสอบได้ผ่านช่องทางดังนี้
- กรุงเทพฯ และปริมณฑล แจ้งเรื่องผ่านการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) หรือเบอร์ 1130
- จังหวัดอื่น ๆ แจ้งเรื่องผ่านการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) หรือเบอร์ 1129
2. ไฟฟ้าตามบ้านทั่ว ๆ ไปเป็นระบบไฟแบบใด
Answer: ไฟบ้านทั่วไปเป็นไฟฟ้ากระแสสลับ (AC) ใช้พลังงานไฟฟ้าจากเฟสเดียว 2 สาย แรงดัน 220 โวลต์ ใช้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน เช่น ทีวี แอร์ ตู้เย็น
3. ทําไมค่าไฟฟ้าบ้านถึงแพงขึ้น ทั้งๆ ที่ใช้ไฟจํานวนหน่วยเท่าเดิม
Answer: ส่วนใหญ่เกิดจากการปรับขึ้นของค่า Ft ตามรอบงวด เครื่องใช้ไฟฟ้าเสื่อมสภาพ การรั่วของกระแสไฟ หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าทำงานหนักกว่าปกติ
บทสรุป
ค่าไฟแพงผิดปกติเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นได้กับทุกบ้าน ไม่ว่าจะเป็นบ้านใหม่หรือบ้านมือสอง เพราะทั้งพฤติกรรมการใช้ไฟ ระบบสายไฟที่เสื่อมสภาพ หรือค่า Ft ที่ปรับเปลี่ยน ล้วนทำให้ค่าไฟพุ่งได้หมด ดังนั้นการตรวจเช็กระบบไฟอย่างสม่ำเสมอ ดูแลเครื่องใช้ไฟฟ้าให้พร้อมใช้งาน และหมั่นสังเกตมิเตอร์หรือหน่วยไฟที่จดบันทึก จะช่วยลดความเสี่ยงค่าไฟสูงเกินจริง
และสำหรับใครที่กำลังมองหาบ้านใหม่ ไม่ว่าจะเพื่ออยู่อาศัยหรือลงทุน การตรวจสอบระบบไฟตั้งแต่ขั้นตอนการเลือกบ้านก็สำคัญมาก ๆ ถ้าอยากดูตัวเลือกบ้านคุณภาพดี พร้อมข้อมูลแบบครบถ้วนทั้งทำเล ฟังก์ชัน และความคุ้มค่า สามารถเข้าไปดูที่หน้า รีวิวบ้าน รวมถึงบริการอื่น ๆ ที่เว็บไซต์ “น่าอยู่” เพื่อให้การซื้อ-ขายบ้านเป็นเรื่องง่ายและสบายใจยิ่งขึ้นครับ
แหล่งข้อมูลอ้างอิง
ค่า Ft ประจำเดือนมกราคม – เมษายน 2569
ค่าไฟทำไมแพง ส่องเหตุผลที่ค่าไฟฟ้าร้อนแรงยิ่งกว่าสภาพอากาศ