รู้จัก หินเจีย เครื่องมือสารพัดประโยชน์ พร้อมวิธีเลือกซื้ออย่างถูกต้อง

เวลาพูดถึงเครื่องมือที่เป็นเพื่อนคู่ใจของช่าง หลายคนคงนึกถึงสว่าน เลื่อยไฟฟ้า หรือไขควงไฟฟ้า แต่ยังมีอีกหนึ่งพระเอกที่ขาดไม่ได้เลยคือ หินเจีย หรือที่หลายคนคุ้นเคยในชื่อ “ลูกหมู” เครื่องมือนี้เป็นเหมือนตัวช่วยสารพัดประโยชน์ที่สามารถ ตัด ขัด และเจียร ได้ครบในเครื่องเดียว ใช้งานได้ตั้งแต่งานบ้านเล็กๆ ไปจนถึงงานก่อสร้างขนาดใหญ่

บทความนี้น้องบุรีรัมย์น่าอยู่จะพาเพื่อนๆ ไปทำความเข้าใจเครื่องมือชนิดนี้อย่างละเอียด เพื่อให้เพื่อนๆ ตัดสินใจได้อย่างมั่นใจว่า ซื้อแล้วคุ้มจริง ใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพแน่นอนค่ะ

หินเจีย คืออะไร ทำไมช่างทุกคนต้องมี

อุปกรณ์ชนิดนี้เป็นเครื่องมือไฟฟ้าที่ใช้มอเตอร์ความเร็วสูง หมุนแผ่นเจียหรือตัวใบตัด ทำให้สามารถจัดการกับวัสดุแข็งๆ ได้แบบสบายๆ ไม่ว่าจะเป็นเหล็ก สแตนเลส คอนกรีต หิน หรือไม้ ความโดดเด่นของมันคือ ความสารพัดประโยชน์ ไม่ต้องซื้อเครื่องมือหลายชิ้นให้เปลือง แค่มีหินเจียหนึ่งเครื่องก็สามารถทำงานได้อย่างหลากหลาย

เหตุผลที่ทำให้เจ้าเครื่องตัด–ขัดไฟฟ้านี้เป็นของที่มันต้องมี คือ :

ใช้งานได้หลายแบบ ทั้งเจีย ขัด หรือตัด
มีขนาดให้เลือกตั้งแต่เล็กจนถึงใหญ่
ราคาไม่สูงเกินเอื้อม หาซื้อง่ายตามร้านทั่วไป
มีใบตัดและอะไหล่ให้เลือกมากมาย ซื้อเปลี่ยนได้ง่าย

แต่เพราะเป็นเครื่องมือที่หมุนด้วยความเร็วสูง หากใช้ผิดวิธีอาจเกิดอันตรายได้ จึงต้องเรียนรู้วิธีใช้อย่างถูกต้องและไม่ลืมอุปกรณ์ป้องกันทุกครั้งค่ะ

ประเภทของหินเจีย และงานที่เหมาะสม

เครื่องมือนี้ไม่ได้มีเพียงแบบเดียว แต่ถูกออกแบบให้เหมาะกับการใช้งานแตกต่างกันไป ถ้าเลือกใช้ถูกประเภท งานก็จะออกมาเรียบร้อยและปลอดภัยกว่ามาก มาทำความรู้จักกันดีกว่า ว่าเครื่องมือชนิดนี้มีกี่ประเภท และ ใช้งานอย่างไรให้เหมาะสม

หินเจียตั้งโต๊ะ

เหมาะสำหรับการทำงานที่ต้องการความมั่นคงและการใช้งานต่อเนื่อง เช่น การลับคมสิ่ว กรรไกร หรือดอกสว่าน จุดเด่นคือมีฐานแข็งแรง ลดแรงสั่น ใช้งานได้นานโดยไม่ต้องถือเครื่อง แต่ข้อจำกัดคือขนาดใหญ่ เคลื่อนย้ายลำบาก เหมาะกับการตั้งถาวรในห้องเวิร์กช็อปหรือโรงงานขนาดเล็ก

หินเจียมือถือ (ลูกหมู)

เป็นรุ่นที่นิยมที่สุด เหมาะกับงานสารพัด ตั้งแต่ตัดท่อเหล็ก เจียรผิวปูน ไปจนถึงงาน DIY จุดเด่นคือคล่องตัว พกพาสะดวก และทำงานได้หลากหลาย แต่ต้องใช้ทักษะควบคุมมือ เพราะแรงสั่นค่อนข้างแรง และถ้าใช้อย่างไม่ระวังก็มีความเสี่ยงอันตรายสูง

ประเภทของหินเจีย และงานที่เหมาะสม-เครื่องเจียแกน

เครื่องเจียแกน (Mini Grinder)

สำหรับงานที่ต้องการความละเอียด เช่น งานศิลปะ งานฝีมือ หรืองานตกแต่งชิ้นเล็กๆ เครื่องเจียแกนเหมาะมาก เพราะสามารถทำงานได้อย่างละเอียด แม่นยำ แม้จะไม่เหมาะกับการตัดวัสดุหนาๆ แต่ก็ช่วยให้ได้งานที่สวยงามและประณีต

ขนาดและกำลังไฟของเครื่องเจีย เลือกยังไงให้เหมาะสม

ก่อนตัดสินใจซื้อเครื่องมือสักชิ้น เรื่อง “ขนาดและกำลังไฟ” ถือว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่สุด เพราะมีผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพการทำงาน เครื่องเจียแต่ละขนาดถูกออกแบบมาให้เหมาะกับงานที่แตกต่างกัน ดังนั้นการเข้าใจว่าขนาดและกำลังไฟแต่ละแบบเหมาะกับงานแบบไหน จะช่วยให้เพื่อนๆ เลือกได้อย่างคุ้มค่าและปลอดภัยที่สุด

ขนาด 4 นิ้ว → เหมาะกับงานทั่วไป ซ่อมบ้าน หรืองานเล็กๆ
ขนาด 5 นิ้ว → ตัดได้ลึกกว่า ใช้กับงานซ่อมบำรุงและก่อสร้างขนาดเล็ก
ขนาด 7 นิ้วขึ้นไป → สำหรับงานหนัก เช่น การตัดคอนกรีตหรือโลหะหนา ใช้ในไซต์งานก่อสร้างหรืออุตสาหกรรม

กำลังไฟก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญ เครื่องที่กำลังสูงตัดได้เร็วและเสถียรกว่า แต่ก็มักจะหนักและราคาแพงขึ้น ถ้าเป็นงานเบาๆ ควรเลือกประมาณ 600–800 วัตต์ก็เพียงพอ แต่ถ้าใช้กับงานก่อสร้างจริงจังควรเลือก 1,200 วัตต์ขึ้นไป

ใบเจียและการเลือกใช้กับวัสดุ

หลายคนอาจคิดว่าเลือกเครื่องเจียดีๆ ก็เพียงพอแล้ว แต่จริงๆ แล้ว หัวใจสำคัญของการทำงานอยู่ที่ใบเจีย เพราะใบเจียแต่ละชนิดถูกออกแบบมาให้ใช้กับวัสดุที่แตกต่างกัน เช่น เหล็ก สแตนเลส คอนกรีต หรือไม้ หากเลือกผิด ไม่เพียงแต่งานจะออกมาไม่สวย แต่ยังเสี่ยงต่อความเสียหายหรืออุบัติเหตุได้ด้วย การรู้จักชนิดของใบเจียและเลือกให้ตรงกับวัสดุจึงเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม และนี่คือประเภทของใบเจียที่เราควรรู้จัก

ใบตัดเหล็ก: สำหรับงานเหล็กทั่วไป
ใบตัดสแตนเลส: คม ทนความร้อน ไม่ทำให้ชิ้นงานไหม้
ใบตัดคอนกรีต/หิน: แข็งแรงทนทาน เหมาะกับงานหนัก
ใบขัดผิวโลหะ: ใช้สำหรับเก็บงานให้เรียบเนียน
ใบสำหรับไม้: ใช้กับงานไม้โดยเฉพาะ ป้องกันการแตกหรือไหม้

เคล็ดลับ : อย่าพยายามใช้ใบผิดประเภท เช่น เอาใบเหล็กไปตัดหิน เพราะนอกจากจะทำให้อายุการใช้งานสั้นลง ยังเสี่ยงใบแตกหักอีกด้วย

วิธีใช้งานลูกหมูอย่างปลอดภัย

หลายคนมั่นใจว่าใช้งานเครื่องเจียได้แล้ว แต่พอถึงเวลาจริง กลับเจอปัญหาที่คาดไม่ถึง เช่น ใบแตก สะเก็ดกระเด็น หรือแม้กระทั่งมือสั่นจนบาดเจ็บ เพื่อให้ทุกครั้งที่หยิบลูกหมูมาใช้เย่างมมั่นใจ ลองมาดู เคล็ดลับความปลอดภัย ที่ทั้งช่างมือใหม่และมือเก๋าควรรู้กันค่ะ

1. ใส่อุปกรณ์ป้องกันทุกครั้ง เช่น แว่นตา หน้ากาก ถุงมือ

การป้องกันที่ดีที่สุด คือการเตรียมตัวก่อนเริ่มทำงาน แว่นตาช่วยกันสะเก็ดเหล็กหรือหินที่กระเด็นเข้าตา หน้ากากกันฝุ่นช่วยป้องกันไม่ให้เศษวัสดุเล็กๆ เข้าปอด ส่วนถุงมือก็ช่วยลดแรงกระแทกและป้องกันบาดแผลเล็กน้อย หลายคนอาจมองว่าเกะกะ แต่ถ้าเจอสะเก็ดไฟพุ่งเข้าหน้าเมื่อไร จะรู้เลยว่าของพวกนี้จำเป็นมากและช่วยรักษาความปลอดภัยของช่างได้ค่ะ

2. จับเครื่องให้มั่น และใช้แรงกดที่พอดี

เวลาทำงานกับลูกหมู สิ่งสำคัญคือ “การควบคุมมือ” ต้องจับให้แน่นทั้งสองข้าง เพื่อป้องกันแรงสั่นสะเทือน และช่วยให้เครื่องไม่หลุดมือ การใช้แรงกดควรอยู่ในระดับพอดี ไม่เบาจนเครื่องไถไปมา แต่ก็ไม่หนักจนมอเตอร์ทำงานเกินกำลัง

3. ไม่ควรกดแรงเกินไป ให้ใบทำงานตามธรรมชาติ

ใบเจียหรือใบตัดถูกออกแบบมาให้หมุนด้วยความเร็วสูงเพื่อกัดกินวัสดุอยู่แล้ว เพื่อนๆ ไม่จำเป็นต้องกดแรงเกินไป เพราะนอกจากจะทำให้ใบสึกเร็วแล้ว ยังเสี่ยงทำให้มอเตอร์ร้อนจนพังได้อีกด้วย

4. อย่าถอดฝาครอบใบตัดออก เพราะเป็นส่วนที่ช่วยป้องกันสะเก็ด

ฝาครอบใบตัดอาจดูเกะกะเวลาใช้งาน แต่จริงๆ แล้วมันคือ “เกราะป้องกันชั้นดี” ที่ช่วยลดอันตรายจากสะเก็ดไฟหรือเศษวัสดุที่กระเด็นออกมา ถ้าเผลอไปโดนเข้าที่หน้า แขน หรือดวงตา อาจเกิดอันตรายร้ายแรงได้เลย

เทคนิคการดูแลเครื่องเจียให้ใช้งานได้นาน

อยากให้เครื่องมืออยู่กับเราได้นานๆ ใช่ไหมคะ? ความจริงแล้วเครื่องมือชนิดนี้มีวิธีดูแลแค่ไม่กี่ขั้นตอน ก็ช่วยยืดอายุการใช้งานไปได้หลายปีเลย ถ้าเพื่อนๆ อยากรู้ว่า ควรเช็กและทำความสะอาดตรงไหนบ้าง มาดูกันในหัวข้อนี้เลยค่ะ

1. ตรวจสอบสายไฟและสวิตช์ก่อนใช้งานทุกครั้ง

ก่อนเสียบปลั๊กใช้งาน ควรสังเกตว่าสายไฟไม่มีรอยขาดหรือฉีกขาด เพราะอาจทำให้ไฟรั่วและเป็นอันตรายได้ ส่วนสวิตช์ต้องอยู่ในสภาพที่กดแล้วทำงานได้ปกติ ไม่ฝืดหรือค้าง หากพบความผิดปกติควรซ่อมหรือเปลี่ยนทันที เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้น

2. ทำความสะอาดฝุ่นโลหะและเศษวัสดุ โดยเฉพาะช่องระบายอากาศ

หลังใช้งานแต่ละครั้ง จะมีฝุ่นเหล็กหรือผงคอนกรีตติดอยู่กับตัวเครื่องเสมอ หากปล่อยทิ้งไว้ ฝุ่นเหล่านี้อาจเข้าไปอุดตันช่องระบายอากาศ ทำให้มอเตอร์ร้อนเกินไปและอายุการใช้งานสั้นลง วิธีง่ายๆ คือใช้ลมเป่าหรือแปรงเล็กๆ ปัดออกทันทีหลังใช้เสร็จ

3. เก็บในที่แห้ง ไม่โดนความชื้น

ความชื้นคือศัตรูตัวร้ายของเครื่องมือไฟฟ้า เพราะทำให้เกิดสนิมและความเสียหายกับวงจรภายใน ควรเก็บเครื่องเจียไว้ในกล่องหรือพื้นที่ที่แห้งและมีการระบายอากาศดี หลีกเลี่ยงการวางไว้บนพื้นซีเมนต์หรือพื้นที่ชื้นๆ โดยตรง

4. ตรวจแปรงถ่านและเปลี่ยนเมื่อสึก

แปรงถ่านเป็นชิ้นส่วนเล็กๆ แต่สำคัญมาก เพราะทำหน้าที่ส่งไฟไปยังมอเตอร์ หากแปรงถ่านสึกเกินไป เครื่องจะกำลังตกหรือทำงานสะดุด การตรวจเช็กเป็นประจำ และเปลี่ยนเมื่อเห็นว่าสั้นลงจนถึงขีดจำกัด จะช่วยให้เครื่องทำงานได้เต็มประสิทธิภาพเสมอ

5. เปลี่ยนใบเจียเมื่อเห็นว่ามีรอยบิ่นหรือแตก

ใบเจียที่แตกหรือบิ่นถือว่าเป็นอันตรายร้ายแรง เพราะมีโอกาสแตกกระจายขณะหมุนด้วยความเร็วสูง ซึ่งอาจทำให้บาดเจ็บหนักได้ หากตรวจพบร่องรอยชำรุด ไม่ควรฝืนใช้ ควรถอดเปลี่ยนทันที เพื่อความปลอดภัยและคุณภาพของงานที่ทำค่ะ

ราคาและแนวโน้มตลาดเครื่องตัด–ขัดไฟฟ้า

เวลาจะเลือกซื้อเครื่องมือสักชิ้น เรื่องราคาเป็นสิ่งที่เพื่อนๆ หลายคนใช้เป็นตัวตัดสินใจอันดับแรกเลยใช่ไหมคะ? แต่ความจริงแล้วราคาของเครื่องเจียไม่ได้มีปัจจัยแค่ยี่ห้อเท่านั้น ยังขึ้นอยู่กับขนาด กำลังไฟ รวมถึงคุณภาพของวัสดุและการรับประกันด้วย ถ้าอยากรู้ว่าตลาดตอนนี้มีแนวโน้มยังไง และราคาแบบไหนถึงจะเหมาะกับงานของเรา ตามน้องมาดูกันเลยค่ะ

ราคาของเครื่องเจียในตลาด

รุ่นเล็ก 4 นิ้ว: ราคาประหยัดสุด เหมาะกับงานบ้านทั่วไป เริ่มต้นที่ประมาณ 600–1,500 บาทเท่านั้น ใครอยากมีเครื่องมือสารพัดประโยชน์ติดบ้านก็เริ่มได้ง่ายๆ เลย
รุ่นกลาง 5 นิ้ว: ขนาดใหญ่ขึ้น ใช้งานได้ครอบคลุมมากกว่า ราคาอยู่ราวๆ 1,500–3,000 บาท เหมาะกับคนที่ทำงานซ่อมบำรุงหรือช่างมือสมัครเล่นที่ต้องใช้งานบ่อย
รุ่นใหญ่ 7 นิ้วขึ้นไป: สำหรับงานก่อสร้างหรืองานอุตสาหกรรม ราคาขึ้นไปตั้งแต่ 3,000 บาทจนถึงหลักหมื่น ขึ้นอยู่กับแบรนด์และฟังก์ชันพิเศษ เช่น ระบบป้องกันฝุ่นหรือระบบลดแรงสั่น

เปรียบเทียบหินเจีย กับเครื่องมือช่างประเภทอื่น

หลายคนอาจกำลังคิดว่า “ในเมื่อบ้านก็มีสว่าน มีเลื่อยไฟฟ้าอยู่แล้ว จำเป็นต้องซื้อหินเจียเพิ่มด้วยเหรอ?” คำถามนี้ดีมากเลยค่ะ เพราะจริงๆ แล้วเครื่องมือแต่ละชนิดก็มีจุดเด่นที่ต่างกันไป การรู้ข้อแตกต่างจะช่วยให้เพื่อนๆ ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น ว่าควรลงทุนซื้อเครื่องมือสารพัดประโยชน์นี้เพิ่มหรือไม่

1. สว่านไฟฟ้า

สว่านถูกออกแบบมาสำหรับงานเจาะโดยเฉพาะ ทั้งไม้ ปูน หรือโลหะ แม้บางรุ่นจะใส่ดอกตัดหรือดอกขัดเพิ่มได้ แต่ก็ไม่สามารถทำงานได้หลากหลายเหมือนเครื่องเจีย จุดแข็งของสว่านคือความแม่นยำในการเจาะ แต่ไม่สามารถใช้แทนงานตัดหรือเจียรได้เต็มรูปแบบ

2. เลื่อยไฟฟ้า

เลื่อยไฟฟ้าเหมาะกับการตัดวัสดุที่มีรูปทรงชัดเจน เช่น แผ่นไม้หรือท่อโลหะ การใช้งานค่อนข้างตรงไปตรงมา แต่ก็ทำได้เฉพาะงานตัดเท่านั้น ไม่สามารถใช้ขัดหรือเจียแต่งผิววัสดุได้ จึงถือเป็นเครื่องมือที่ทำงานเฉพาะด้านมากกว่า

3. หินเจีย (ลูกหมู)

ตรงกันข้ามกับสองตัวแรก เจ้าเครื่องสารพัดประโยชน์นี้สามารถทำได้ทั้งตัด ขัด และเจียในเครื่องเดียว ใช้งานได้กับวัสดุหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นโลหะ คอนกรีต หิน หรือไม้ จุดแข็งคือความคล่องตัวและอเนกประสงค์ ซื้อหนึ่งเครื่องแต่ทำได้หลายงาน ถือว่าคุ้มมากสำหรับทั้งช่างมืออาชีพและคนที่อยากมีเครื่องมือซ่อมบ้านติดไว้

จะเห็นได้ว่าแต่ละเครื่องมือต่างก็มีจุดเด่นเป็นของตัวเอง แต่ถ้าเพื่อนๆ กำลังมองหาเครื่องมือที่ใช้งานได้รอบด้าน หินเจียคือตัวเลือกที่ตอบโจทย์ที่สุด ค่ะ ทั้งสะดวก คุ้มค่า และช่วยประหยัดเวลาได้จริง

วิธีเลือกซื้อเครื่องเจียให้คุ้มค่า

เวลายืนอยู่หน้าชั้นวางสินค้า แล้วเห็นเครื่องเจียเรียงรายเต็มไปหมด เพื่อนๆ เคยรู้สึกเลือกไม่ถูกไหมคะ? เพื่อไม่ให้เงินที่จ่ายไปเสียเปล่า ลองตามน้องบุรีรัมย์น่าอยู่มาดู เช็กลิสต์ง่ายๆ ที่จะช่วยให้เลือกซื้อได้ตรงใจและคุ้มค่าที่สุด!

1. ตั้งงบประมาณให้ชัดเจน

เริ่มต้นจากการกำหนดงบที่เราพร้อมจ่ายก่อนเลยค่ะ เช่น ต้องการเครื่องมือสำหรับงานบ้านทั่วไป อาจตั้งงบไว้ราว ๆ 1,000–2,000 บาท แต่ถ้าใช้งานจริงจังหรืองานก่อสร้าง ก็ควรขยับงบให้สูงขึ้นเพื่อได้เครื่องที่ทนทานและกำลังไฟมากกว่า

2. ดูลักษณะงานที่ทำบ่อย

ถามตัวเองก่อนว่าเราจะใช้เครื่องนี้กับงานแบบไหน ถ้าเป็นงาน DIY หรืองานซ่อมเล็กๆ รุ่น 4 นิ้วก็ตอบโจทย์ แต่ถ้าเป็นงานก่อสร้างที่ต้องตัดวัสดุหนา ควรเลือกแบบ 5 นิ้วขึ้นไปเพื่อความมั่นใจ

3. เลือกขนาดใบเจียให้ตรงกับวัสดุ

อย่าลืมว่าขนาดใบมีผลต่อความสามารถในการตัด เช่น ใบเล็กเหมาะกับงานละเอียด แต่ถ้าต้องการตัดลึกหรือตัดวัสดุหนา ใบใหญ่จะตอบโจทย์มากกว่า การเลือกขนาดให้ตรงกับงานจริงจะช่วยให้ทำงานได้สะดวกขึ้นมากค่ะ

4. พิจารณากำลังไฟและรอบหมุน

เครื่องกำลังไฟสูงให้พลังการตัดที่แรงกว่า แต่ก็มักมีน้ำหนักมากและราคาสูงขึ้นด้วย ถ้าใช้งานทั่วไปไม่จำเป็นต้องเลือกเครื่องที่แรงเกินไป เพราะอาจเปลืองทั้งเงินและพลังงานโดยใช่เหตุ

5. เลือกแบรนด์และการรับประกัน

อย่ามองข้ามเรื่องยี่ห้อและการรับประกันนะคะ เพราะแบรนด์ที่มีชื่อเสียงมักมีอะไหล่หาง่ายและมีศูนย์บริการหลังการขาย การรับประกันก็ช่วยให้เรามั่นใจได้ว่า หากเครื่องมีปัญหาก็ยังสามารถซ่อมหรือเปลี่ยนได้

บทสรุป: หินเจีย เครื่องมือที่ควรมีติดบ้านและเวิร์กช็อป

เมื่ออ่านมาจนถึงตรงนี้ เพื่อน ๆ คงเห็นภาพชัดแล้วว่า หินเจีย ไม่ได้เป็นแค่เครื่องมือเสริม แต่คือผู้ช่วยสารพัดประโยชน์ที่ทำให้งานหลายประเภทกลายเป็นเรื่องง่ายขึ้น

หากอยากได้สาระน่าอยู่เกี่ยวกับ บ้านบุรีรัมย์ การเลือกซื้อเครื่องมือ และเคล็ดลับการดูแลบ้านที่ทำตามได้จริง อย่าลืมติดตาม บุรีรัมย์น่าอยู่ แล้วเพื่อน ๆ จะไม่พลาดสาระน่ารู้ที่ช่วยให้การใช้ชีวิตง่ายและบ้านน่าอยู่มากขึ้น

บทความที่น่าสนใจ

บุรีรัมย์น่าอยู่ เว็บไซต์อสังหาฯ ที่รวมทุกเรื่องที่อยู่ของคนบุรีรัมย์ ค้นหาบ้าน ทรัพย์มือสอง บริการรับสร้างบ้าน บริการเช่าหอพัก และ ที่ดินทำเลดี ได้จากลิงค์ด้านล่างเลยค่า 👍

➡) หาบ้านบุรีรัมย์โครงการใหม่ คลิก
➡) หาบริษัทรับสร้างบ้าน ต่อเติม รีโนเวท คลิก
➡) หาบ้านมือสอง บ้านพร้อมอยู่ ทำเลดี คลิก
➡) ที่ดินเปล่า ที่ดินเกษตร จ.บุรีรัมย์ คลิก
➡) หาหอพัก/บ้านเช่า คลิก
➡) ทดลองคำนวณวงเงินกู้สินเชื่อบ้าน คลิก

ช่องทางการติดต่อ

▪️ Facebook : บุรีรัมย์น่าอยู่
▪️ Line official : @buriramnayoo
▪️ Tiktok : บุรีรัมย์น่าอยู่
▪️ Instagram : @buriram.nayoo
▪️ YouTube : บุรีรัมย์น่าอยู่
▪️ TEL : 092-254-1846 / 080-010-4116