หลายคนที่เป็นเจ้าของบ้านหรือกำลังผ่อนชำระสินเชื่อบ้าน อาจเริ่มมองทางเลือกใหม่เพื่อ “ลดภาระผ่อน” และ “เคลียร์หนี้ให้หมดไวขึ้น” นั่นคือการรีไฟแนนซ์บ้าน เพื่อย้ายสินเชื่อจากธนาคารเดิมไปยังธนาคารที่ให้ดอกเบี้ยต่ำกว่า พร้อมเงื่อนไขที่เอื้อต่อผู้กู้มากขึ้น แต่คำถามคือ รีไฟแนนซ์บ้านธนาคารไหนดี? บทความนี้ น้องน่าอยู่จะพาไปเจาะลึกตั้งแต่ความหมาย อัตราดอกเบี้ย รูปแบบ ทั้งเปรียบเทียบ 5 ธนาคารชั้นนำ พร้อมข้อดี และสรุปช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
รีไฟแนนซ์บ้าน คืออะไร

รีไฟแนนซ์บ้าน คือการย้ายสินเชื่อบ้านจากธนาคารเดิมไปยังธนาคารใหม่ หรือเปลี่ยนสัญญาภายในธนาคารเดิม โดยมีจุดประสงค์หลักเพื่อ ลดค่างวดรายเดือน, ประหยัดดอกเบี้ยรวม และ ผ่อนหมดเร็วขึ้น
การรีไฟแนนซ์ช่วยให้เจ้าของบ้าน “จ่ายน้อยลงแต่ได้มากขึ้น” เพราะเมื่อเปลี่ยนไปใช้สัญญาที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่า ก็จะช่วยลดภาระหนี้ระยะยาวได้อย่างเห็นผล ดังนั้น หากคุณกำลังสงสัยว่า “รีไฟแนนซ์บ้านธนาคารไหนดี” การเข้าใจหลักการของรีไฟแนนซ์ก่อน จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้คุ้มค่าที่สุดครับ
อัตราดอกเบี้ยแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบหลัก
เมื่อตัดสินใจได้แล้วว่ารีไฟแนนซ์บ้านธนาคารไหนดี สิ่งที่ต้องเข้าใจอย่างชัดเจนคือ รูปแบบของอัตราดอกเบี้ย เพราะจะมีผลต่อเงินงวดและความเสี่ยงของคุณ โดยทั่วไปหลายธนาคารจะเลือกใช้รูปแบบ คงที่ในช่วงแรกและตามด้วยแบบลอยตัวหลังจากนั้น เพื่อสร้างความมั่นใจให้ผู้กู้และควบคุมความเสี่ยงได้
ดอกเบี้ยแบบคงที่
อัตราดอกเบี้ยแบบคงที่ (fixed rate) หมายถึง ดอกเบี้ยจะถูกล็อกไว้ให้มีค่าคงที่ ณ อัตราที่ตกลงในช่วงเวลาหนึ่ง เช่น 1 ปี 2 ปี หรือ 3 ปีแรก หลังจากนั้นอาจเปลี่ยนเป็นแบบลอยตัว หรือมีโครงสร้างอื่นตามสัญญา
ข้อดี
- เงินผ่อนรายเดือนคงที่ ทำให้วางแผนการเงินได้
- ไม่มีความเสี่ยงจากการขึ้นดอกเบี้ยในช่วงล็อก
ข้อเสีย
- อัตราดอกเบี้ยมักจะสูงกว่าแบบลอยตัวในช่วงเวลาเดียวกัน เพราะธนาคารรับความเสี่ยงแทน
- อาจขึ้นมาเป็นแบบลอยตัวซึ่งถ้าไม่เช็กให้รอบคอบ อาจมีภาระเพิ่ม
ดอกเบี้ยแบบลอยตัว
อัตราดอกเบี้ยแบบลอยตัว (floating rate) คือ ดอกเบี้ยจะเปลี่ยนแปลงไปตามตัวชี้วัด เช่น MLR, MRR ของธนาคาร ซึ่งอาจขึ้นหรือลงตามสภาวะเศรษฐกิจ
ข้อดี
- ช่วงต้นอาจได้รับอัตราที่ต่ำมาก เมื่อเศรษฐกิจเอื้อ
- หากดอกเบี้ยตลาดลด จะได้ประโยชน์เต็ม
ข้อเสีย
- มีความเสี่ยงว่าดอกเบี้ยจะขึ้นในอนาคต ทำให้เงินผ่อนเพิ่มขึ้น
- หากไม่ได้วางแผนรับความเสี่ยงไว้ อาจเกิดปัญหาการเงิน
รีไฟแนนซ์บ้านธนาคารไหนดี

หากคุณกำลังมองว่า “รีไฟแนนซ์บ้านธนาคารไหนดี” น้องน่าอยู่จะพามาเจาะลึก 5 ธนาคารยอดนิยมที่น่าสนใจ เพื่อเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจให้ทุกคนครับ
1. ธนาคารกรุงศรีอยุธยา
โปรโมชันรีไฟแนนซ์บ้าน เพิ่มวงเงินกับสินเชื่อบ้านกรุงศรีรีไฟแนนซ์ ดอกเบี้ยต่ำ กู้เพิ่มได้ วงเงินกู้ตั้งแต่ 1 ล้านบาทขึ้นไป ให้ดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์เฉลี่ย 3 ปี = 2.80%
วงเงินกู้สูงสุด100% ของราคาประเมิน ผ่อนนานสูงสุด 30 ปี
เหมาะสำหรับ: บุคคลธรรมดา สัญชาติไทย อายุ 20 – 65 ปี/ พนักงานประจำที่มีอายุงานรวมที่ทำงานเดิมและปัจจุบันตั้งแต่ 2 ปีขึ้นไป/ ผู้ประกอบธุรกิจส่วนตัวและประกอบธุรกิจมาตั้งแต่ 2 ปีขึ้นไป และ ทำประกัน MRTA/MLTA ตามเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านธนาคารกรุงศรีอยุธยา
2. ธนาคารอาคารสงเคราะห์
โปรโมชันรีไฟแนนซ์บ้านเพื่อคนไทย เอาใจผู้ที่ต้องการลดดอกเบี้ยและภาระผ่อน ด้วยดอกเบี้ยเฉลี่ยเพียง 2.90% ต่อปีใน 3 ปีแรก และปีแรกพิเศษสุดเพียง 0.99% ต่อปี สำหรับลูกค้าที่มีรายได้ไม่เกิน 35,000 บาทต่อเดือน
วงเงินกู้สูงสุด 100% ของราคาประเมิน ผ่อนนานสูงสุด 40 ปี
เหมาะสำหรับ: บุคคลธรรมดาสัญชาติไทย อายุไม่เกิน 65 ปี ณ วันสิ้นสุดสัญญา เหมาะกับพนักงานประจำ ข้าราชการ หรือผู้มีรายได้ประจำแน่นอน โดยเฉพาะกลุ่มที่ต้องการ “ลดดอกเบี้ยเร่งด่วน” หรือ “รวมภาระหนี้” ให้ง่ายขึ้น
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านธนาคารอาคารสงเคราะห์
3. ธนาคารไทยพาณิชย์
ธนาคารไทยพาณิชย์ออกโปรโมชัน สินเชื่อบ้านรีไฟแนนซ์ SCB Home Refinance สำหรับลูกค้าที่ต้องการดอกเบี้ยต่ำเริ่มต้นเพียง 1.49% ต่อปี ในปีแรก และเฉลี่ย 3 ปี = 3.22% ต่อปี สามารถกู้เพิ่มได้เพื่อใช้ซ่อมแซม ตกแต่ง หรือรวมหนี้อื่น
วงเงินสูงสุดถึง 100% ของราคาประเมิน ระยะเวลาผ่อนสูงสุด 30 ปี
เหมาะสำหรับ: พนักงานประจำ หรือเจ้าของกิจการที่มีรายได้มั่นคง อายุ 20–60 ปี (หรือไม่เกิน 65 ปี เมื่อสิ้นสุดสัญญา) โดยผู้กู้ต้องทำประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อ (MRTA) ตามเงื่อนไข เพื่อรับสิทธิ์ดอกเบี้ยพิเศษ และมีบริการ ยื่นขอออนไลน์ พร้อมระบบอนุมัติรวดเร็ว
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านธนาคารไทยพาณิชย์
4. ธนาคารออมสิน
ธนาคารออมสินเปิดตัวโปรโมชัน รีไฟแนนซ์บ้านดอกเบี้ย0% 3 เดือนแรก และดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปี = 3.220% วงเงินกู้ หนึ่งล้านบาทขึ้นไป และทำประกันตามที่ธนาคารกำหนด
วงเงินกู้ได้สูงสุด 100% ของราคาประเมิน ผ่อนยาวสูงสุด 30 ปี
เหมาะสำหรับ: ผู้ที่มีรายได้ประจำหรือเจ้าของกิจการ อายุ 20–65 ปี มีประวัติเครดิตดี และมีหลักทรัพย์เป็นโฉนดที่ดิน พร้อมอาคาร (บ้าน คอนโด ทาวน์เฮาส์)
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านธนาคารออมสิน
5. ธนาคารกสิกรไทย
ธนาคารกสิกรไทยมีโปรโมชัน K Home Refinance สำหรับลูกค้าทั่วไปที่ต้องการลดดอกเบี้ยและภาระการผ่อน โดยเสนออัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปี = 3.10% และสามารถกู้เพิ่มเพื่อซ่อมแซมหรือขยายบ้านได้
วงเงินสูงสุด 100% ของราคาประเมิน ผ่อนได้นานสูงสุดถึง 30 ปี
เหมาะสำหรับ: ผู้ที่มีรายได้ประจำหรือเจ้าของกิจการ อายุ 20–65 ปี มีประวัติเครดิตดี และมีหลักทรัพย์เป็นโฉนดที่ดิน พร้อมอาคาร (บ้าน คอนโด ทาวน์เฮาส์)
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านธนาคารกสิกรไทย
ข้อดีของการรีไฟแนนซ์บ้าน (Refinance)

การรีไฟแนนซ์บ้าน มีข้อดีหลายด้านที่ช่วยให้เจ้าของบ้านลดภาระดอกเบี้ยและบริหารการเงินได้ดีกว่าเดิม โดยเฉพาะในช่วงที่ธนาคารแข่งขันกันเสนอ ดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์บ้านต่ำเป็นพิเศษ ซึ่งข้อดีหลัก ๆ มีดังนี้
- ลดดอกเบี้ยต่อปี เมื่อย้ายสินเชื่อไปยังธนาคารที่ให้อัตราดอกเบี้ยต่ำกว่า จะช่วยลดภาระดอกเบี้ยรวมตลอดอายุสัญญา ทำให้ผ่อนบ้านหมดเร็วขึ้นและประหยัดเงินได้
- ปรับระยะเวลาผ่อนใหม่ ผู้กู้สามารถเลือกได้ว่าจะ “ผ่อนสั้นลง” เพื่อปลดหนี้เร็ว หรือ “ผ่อนยาวขึ้น” เพื่อให้ค่างวดรายเดือนเบาลง เหมาะสำหรับการจัดแผนทางการเงินให้สอดคล้องกับรายได้ปัจจุบัน
- รวมภาระหลายสินเชื่อ บางกรณีสามารถรีไฟแนนซ์เพื่อขอวงเงินเพิ่ม และนำไปปิดหนี้อื่น ๆ เช่น สินเชื่อบัตรเครดิต หรือสินเชื่อส่วนบุคคล ช่วยให้บริหารหนี้ได้ง่ายขึ้นในบัญชีเดียว
- ปรับรูปแบบดอกเบี้ย ผู้กู้สามารถย้ายจากดอกเบี้ยลอยตัวที่มีความเสี่ยง ไปเป็นดอกเบี้ยคงที่ เพื่อความมั่นคงของยอดผ่อนในแต่ละเดือน หรือกลับกัน หากต้องการจ่ายน้อยช่วงแรกก็สามารถเลือกแบบลอยตัวได้
- มีโอกาสรับโปรพิเศษจากธนาคาร หลายสถาบันการเงินมีโปรโมชัน รีไฟแนนซ์บ้าน เช่น ฟรีค่าประเมินหลักประกัน ฟรีค่าจดจำนอง หรือฟรีประกันอัคคีภัย ทำให้ต้นทุนการย้ายสินเชื่อลดลงและคุ้มค่ามากยิ่งขึ้น
สรุปแล้ว การรีไฟแนนซ์บ้าน ไม่เพียงช่วยลดดอกเบี้ยและค่างวดรายเดือนเท่านั้น แต่ยังเปิดโอกาสให้ผู้กู้ได้รับเงื่อนไขที่เหมาะกับสถานะทางการเงินของตนมากขึ้นนั่นเองครับ
ขั้นตอนในการรีไฟแนนซ์บ้าน

หากคุณกำลังวางแผนจะ รีไฟแนนซ์บ้าน เพื่อให้ได้ดอกเบี้ยที่ถูกลง หรือย้ายสินเชื่อไปยังธนาคารใหม่ที่ให้เงื่อนไขดีกว่า การเข้าใจขั้นตอนที่ถูกต้องจะช่วยให้กระบวนการทั้งหมดเป็นไปอย่างราบรื่นและรวดเร็วมากขึ้น โดยมีขั้นตอนสำคัญดังนี้
- ตรวจสอบยอดหนี้คงเหลือของสินเชื่อเดิม พร้อมทั้งดูเงื่อนไขการปิดบัญชีก่อนกำหนด ว่ามีค่าปรับหรือไม่
- เปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์บ้าน และเงื่อนไขของแต่ละธนาคาร เพื่อดูว่าธนาคารใดให้ดอกเบี้ยต่ำและโปรโมชันคุ้มที่สุด
- ขอแบบประเมินหลักประกัน เช่น บ้านหรือคอนโด (ถ้ามี) พร้อมตรวจสอบคุณสมบัติของผู้กู้กับธนาคารใหม่ เพื่อให้มั่นใจว่าผ่านเกณฑ์
- เตรียมเอกสารรีไฟแนนซ์บ้าน ได้แก่ สลิปเงินเดือนย้อนหลัง ภาพถ่ายบ้านหรือโฉนดบ้าน สำเนาบัญชีธนาคาร และเอกสารส่วนบุคคลอื่น ๆ ตามที่ธนาคารกำหนด
- ส่งคำขอกู้กับธนาคารใหม่ รอผลอนุมัติ เซ็นสัญญา จดจำนอง และโอนหนี้จากธนาคารเดิมไปยังธนาคารใหม่
- เมื่อทุกขั้นตอนเรียบร้อยแล้ว ให้เริ่มผ่อนชำระกับธนาคารใหม่ ตามเงื่อนไขดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์บ้านที่คุณเลือกไว้
ข้อควรระวังในการรีไฟแนนซ์บ้าน

ก่อนจะตัดสินใจว่า “รีไฟแนนซ์บ้านธนาคารไหนดี” ควรทำความเข้าใจข้อมูลพื้นฐานและปัจจัยสำคัญที่อาจมีผลต่อการตัดสินใจ เพื่อให้ได้ข้อตกลงที่คุ้มค่าที่สุด
- ตรวจสอบยอดหนี้และค่าใช้จ่ายทั้งหมด ที่เกี่ยวข้องกับการรีไฟแนนซ์ เช่น ค่าจดจำนอง ค่าประเมิน ค่าธรรมเนียมอากร รวมแล้วคุ้มหรือไม่ เมื่อเทียบกับดอกเบี้ยที่ลดลง
- เช็กระยะเวลาผ่อนสินเชื่อเดิม ว่าครบตามเงื่อนไขหรือยัง เพราะบางธนาคารกำหนด “ห้ามรีไฟแนนซ์ก่อนครบกำหนด” ซึ่งหากทำก่อนเวลาอาจถูกเรียกเก็บค่าปรับ
- เลือกรูปแบบดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์บ้าน ให้เหมาะกับความเสี่ยงของคุณ หากไม่ชอบความผันผวนควรเลือกดอกเบี้ยคงที่ แต่ถ้ารับความเสี่ยงได้อาจเลือกดอกเบี้ยลอยตัวเพื่อให้ผ่อนเริ่มต้นถูกกว่า
- ตรวจสอบเงื่อนไขของแต่ละธนาคารอย่างละเอียด เช่น การบังคับทำประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อ (MRTA หรือ GLT) ซึ่งอาจเป็นปัจจัยที่ทำให้ต้นทุนโดยรวมสูงขึ้น
- อย่ามองข้ามค่าใช้จ่ายแฝง เช่น ค่าธรรมเนียมการโอนข้อมูลหนี้ ค่าประเมินหลักประกันใหม่ หรือค่าธรรมเนียมในการจดจำนองซ้ำ ซึ่งอาจทำให้ยอดรวมสูงกว่าที่คาด
สรุปบทความ รีไฟแนนซ์บ้านธนาคารไหนดี
หากคุณกำลังสรุปว่า “รีไฟแนนซ์บ้านธนาคารไหนดี” ให้ใช้เกณฑ์สำคัญคือ อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยในช่วงที่คุณสนใจ ปรับระยะเวลาผ่อนให้เหมาะสมกับงบรายเดือน และตรวจสอบเงื่อนไขทั้งหมดอย่างละเอียด จากตัวอย่าง 5 ธนาคารที่กล่าวมา โดยรวมแล้ว กุญแจสำคัญคือเปรียบเทียบโปรโมชันของธนาคารแต่ละแห่ง แล้วเลือกโปรที่ ชัดเจน คุ้มค่า และมีเงื่อนไขที่คุณรับได้
คำถามที่พบบ่อย
1. รีไฟแนนซ์บ้านใช้เอกสารอะไรบ้าง
หนึ่งในคำถามยอดฮิตของคนที่กำลังหาคำตอบว่า “รีไฟแนนซ์บ้านธนาคารไหนดี” คือ เรื่องการเตรียมเอกสารที่ต้องใช้ในการยื่นเรื่องกับธนาคารใหม่ โดยทั่วไปแล้วเอกสารที่ใช้ในการรีไฟแนนซ์บ้าน จะคล้ายกับการขอสินเชื่อบ้านครั้งแรก แต่ต้องมีเอกสารเพิ่มเติมเพื่อยืนยันยอดหนี้เดิมด้วย รายการหลัก ๆ ได้แก่
- สำเนาบัตรประชาชน ของผู้กู้และผู้กู้ร่วม (ถ้ามี)
- ทะเบียนบ้าน ของผู้กู้ เพื่อใช้ประกอบการตรวจสอบที่อยู่
- สลิปเงินเดือนหรือหลักฐานรายได้ย้อนหลัง อย่างน้อย 3 เดือน สำหรับผู้มีรายได้ประจำ
- สำเนาโฉนดบ้านหรือที่ดิน ที่ใช้เป็นหลักประกัน
- สำเนาสัญญาเงินกู้เดิม จากธนาคารปัจจุบัน เพื่อยืนยันข้อมูลสินเชื่อเก่า
- สำเนาหนังสือรับรองบริษัท หรือทะเบียนการค้า (กรณีเป็นเจ้าของกิจการ)
- ใบแจ้งยอดหนี้คงเหลือจากธนาคารเดิม เพื่อให้ธนาคารใหม่ประเมินวงเงินและดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ได้แม่นยำ
2. รีไฟแนนซ์บ้าน หรือรีเทนชั่นดี
หลายคนมักสับสนระหว่าง “รีไฟแนนซ์บ้าน” กับ “รีเทนชั่น” ซึ่งทั้งสองแบบมีจุดมุ่งหมายคล้ายกันคือ ลดดอกเบี้ยและภาระผ่อนชำระ แต่ต่างกันที่ขั้นตอนและผลลัพธ์
“รีเทนชั่น” (retention) คือการขอให้ธนาคารเดิมลดอัตราดอกเบี้ยหรือปรับเงื่อนไข โดยไม่ย้ายสถาบัน การตัดสินใจขึ้นอยู่กับว่า ธนาคารเดิมให้เงื่อนไขดีพอหรือไม่ หากธนาคารเดิมเสนออัตราและเงื่อนไขที่ใกล้เคียงกับธนาคารอื่น อาจเลือกรีเทนชั่นก็ได้ แต่ถ้าธนาคารอื่นให้โปรที่ดีกว่าอย่างชัดเจน รีไฟแนนซ์บ้านอาจคุ้มกว่า
สรุปคือ ก่อนตัดสินใจ ควรเปรียบเทียบหลายธนาคารเพื่อดูว่า รีไฟแนนซ์บ้านธนาคารไหนดี ที่ตอบโจทย์งบประมาณและแผนการเงินของคุณที่สุด
3. รีไฟแนนซ์บ้านต้องรอให้ครบ 3 ปีจริงหรือไม่
ไม่จำเป็นต้องรอครบ 3 ปีเสมอไป แต่ควรตรวจสอบเงื่อนไขในสัญญาสินเชื่อเดิมให้ละเอียด เพราะบางธนาคารกำหนดว่า หากรีไฟแนนซ์ก่อนครบกำหนด 3 ปี อาจมีการเรียกเก็บ ค่าปรับการปิดบัญชีก่อนกำหนด หรือสิทธิพิเศษจากโปรโมชันอาจลดลง เช่น ดอกเบี้ยที่เคยได้ต่ำเป็นพิเศษจะกลับไปใช้อัตราปกติ
ดังนั้น ก่อนตัดสินใจย้ายสินเชื่อ ควรเปรียบเทียบให้รอบคอบว่า รีไฟแนนซ์บ้านธนาคารไหนดี ที่ให้ความคุ้มค่าแม้จะต้องเสียค่าปรับบางส่วน เพราะในบางกรณี การรีไฟแนนซ์ทันทีอาจประหยัดดอกเบี้ยรวมได้มากกว่าการรอให้ครบ 3 ปีเสียอีก
สำหรับใครที่กำลังมองหา บ้านขอนแก่น, บ้านแฝดขอนแก่น, คอนโดขอนแก่น, หรือ ทาวน์โฮมขอนแก่น ที่เหมาะแก่การพักอาศัยและการลงทุน สามารถเข้ามาเลือกชมได้ที่เว็บไซต์น่าอยู่ นอกจากนี้ยังมีสาระน่ารู้ต่าง ๆ เกี่ยวกับคอนโดที่น่าสนใจมาให้ทุกคนได้ติดตามกันด้วยครับ
ติดตาม "ขอนแก่นน่าอยู่" เพื่อไปหาบ้านมือ 1, หาคอนโด, บ้านมือ 2, ที่ดินและหาเช่า/ กดหอพักทั่วเมืองขอนแก่นได้ที่สามารถพบได้ที่นี่
- เว็บไซต์ : NaYoo.co (ไม่มี m)
- Facebook : ขอนแก่นน่าอยู่
- ยูทูป : https://www.youtube.com/c/khonkaennayoo