วันนี้ขอนแก่นน่าอยู่เอาใจผู้ที่กำลังมองหาสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้าน ทาวน์โฮม หรือคอนโดมิเนียม ในช่วงนี้หรือกำลังศึกษาเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ 2566 ตอนนี้ทางธนาคารกรุงเทพมีการอัพเดตอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ประจำปี 2566เพื่อที่จะช่วยทุกคนในการตัดสินใจสำหรับคนที่กำลังเลือกว่าจะกู้กับธนาคารไหนดี ซึ่งทางขอนแก่นน่าอยู่จึงรวบรวมข้อมูลอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์บ้านธนาคารกรุงเทพปีนี้มาไว้ให้ทุกคนแล้ว
จุดเด่นของของสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านธนาคารกรุงเทพ
รีไฟแนนซ์เพื่อลดภาระดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านของคุณ ให้เป็นเรื่องเบาๆ ให้คุณผ่อนชำระคืนได้เร็วขึ้น ด้วยการขอกู้ครั้งใหม่ที่ดอกเบี้ยต่ำกว่าด้วยวงเงินกู้สูงสุดเท่ากับ 100% ของภาระหนี้คงเหลือ พร้อมรับวงเงินสินเชื่ออเนกประสงค์เพิ่มเติมได้ทั้งในรูปแบบเงินกู้หรือแบบโอดี ระยะเวลาในการผ่อนนานสูงสุด 30 ปี (เฉพาะพนักงานประจำ สูงสุด 35 ปี) รวมอายุกับระยะเวลาผ่อนไม่เกิน 65 ปี สามารถเลือกผ่อนชำระได้ทั้งแบบขั้นบันไดหรือแบบคงที่
หลักประกัน
ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างประเภทที่อยู่อาศัย (ยกเว้นหลักประกันประเภทที่ดินเปล่า/สิทธิการเช่า)
ค่าธรรมเนียม
คิดค่าธรรมเนียมประเมินหลักประกัน 3,000 บาท (ไม่รวม VAT) ยกเว้นค่าธรรมเนียมการจัดการสินเชื่อ
คุณสมบัติผู้กู้สินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านธนาคารกรุงเทพ
- มีประวัติการผ่อนชำระที่ดีในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา
- เป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด
- ผู้สมัครสินเชื่อต้องมีอายุ 20 ปีขึ้นไป โดยสามารถเลือกระยะเวลาผ่อนชำระได้สูงสุด 30 ปี (เฉพาะพนักงานประจำสูงสุด 35 ปี) ทั้งนี้เมื่อนำอายุของผู้สมัครรวมกับระยะเวลาผ่อนชำระหนี้แล้วจะต้องไม่เกิน 65 ปี
- คุณจะได้รับวงเงินสินเชื่อสูงสุดประมาณ 80-90% ของราคาประเมิน หรือ 100% ของยอดสินเชื่อที่เหลือหากเป็นกรณีทำ รีไฟแนนซ์
สำหรับ ธนาคารกรุงเทพ ให้อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยต่ำสุด 3 ปีแรกอยู่ที่ 2.78% แบ่งเป็นปีแรก=MRR-4.00% ปีที่ 2=MRR-3.75% และปีที่ 3=MRR-1.75% ส่วนกรณีที่หลักทรัพย์เป็นที่อยู่อาศัยในกลุ่มโครงการที่มีข้อตกลงกับธนาคาร โดยให้วงเงินกู้สูงสุดเท่ากับ 100% ของภาระหนี้คงเหลือ แต่มีเงื่อนไขให้อนุมัติวงเงินตั้งแต่ 2 ล้านบาทขึ้นไป และอยู่ในกรณีของการทำประกันคุ้มครองสินเชื่อ
สินเชื่อบ้านบัวหลวงสำหรับลูกค้ารีไฟแนนซ์ เฉพาะวงเงินอนุมัติตั้งแต่ 2 ล้านบาทขึ้นไป
- วงเงินกู้สูงสุด เท่ากับ 100% ภาระหนี้คงค้าง และไม่เกินอัตราส่วนวงเงินสินเชื่อสูงสุดตามประกาศของธนาคารแห่งประเทศไทย
- ระยะเวลากู้ สูงสุด 30 ปี (เฉพาะพนักงานประจำ สูงสุด 35 ปี) รวมอายุผู้กู้สูงสุด 65 ปี
- ค่าธรรมเนียม คิดค่าสำรวจและค่าประเมินราคาหลักประกันขั้นต่ำ 3,000 บาทไม่รวม VAT
เกณฑ์การอนุมัติสินเชื่อ
เตรียมความพร้อมก่อนสมัครสินเชื่อบ้านบัวหลวง โดยศึกษาเกณฑ์ในการอนุมัติสินเชื่อ เพื่อให้มั่นใจว่าการสมัครสินเชื่อของคุณจะราบรื่นไร้ปัญหา
- ผู้สมัครสินเชื่อต้องมีอายุ 20 ปีขึ้นไป โดยสามารถเลือกระยะเวลาผ่อนชำระได้สูงสุด 30 ปี (เฉพาะพนักงานประจำ
สูงสุด 35 ปี) ทั้งนี้เมื่อนำอายุของผู้สมัครรวมกับระยะเวลาผ่อนชำระหนี้แล้วจะต้องไม่เกิน 65 ปี - คุณจะได้รับวงเงินสินเชื่อสูงสุดประมาณ 80-90% ของราคาประเมิน หรือ 100% ของยอดสินเชื่อที่เหลือหากเป็นกรณีทำรีไฟแนนซ์
ขั้นตอนการอนุมัติสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านธนาคารกรุงเทพ
- ยื่นคำขอสินเชื่อที่สาขาธนาคารคุณสามารถยื่นคำขอสินเชื่อพร้อมเอกสารประกอบได้ที่สาขาธนาคารที่คุณสะดวก เจ้าหน้าที่จะพิจารณาสินเชื่อเบื้องต้นจากข้อมูลของคุณ เช่น รายได้ ค่าใช้จ่ายครอบครัว หนี้สินอื่นๆ เพื่อประเมินความสามารถในการผ่อนชำระคืนเงินกู้ของคุณ
- ส่งใบคำขอสินเชื่อพร้อมเอกสารประกอบเพื่อรอการพิจารณาอนุมัติเจ้าหน้าที่สาขาจะส่งใบคำขอสินเชื่อของคุณพร้อมเอกสารประกอบคำขอสินเชื่อไปที่ศูนย์สินเชื่ออุปโภคบริโภค เพื่อพิจารณาอนุมัติสินเชื่อ โดยพิจารณาจาก
- วัตถุประสงค์ในการขอสินเชื่อ
- คุณสมบัติผู้ขอกู้
- ประวัติทางการเงิน
- ความสามารถในการผ่อนชำระสินเชื่อ
- ประเภทและมูลค่าของหลักประกัน
เจ้าหน้าที่ส่วนประเมินหลักทรัพย์จะติดต่อคุณเพื่อนัดหมายเข้าไปประเมินมูลค่าหลักประกัน ตามวันและเวลาที่คุณสะดวก ภายใน 7 วันทำการ หลังจากที่คุณได้ยื่นใบคำขอสินเชื่อแล้ว
- แจ้งผลการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อธนาคารจะติดต่อและแจ้งผลการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อให้คุณทราบภายใน 3-10 วันทำการ นับจากวันที่คุณยื่นใบคำขอสินเชื่อ เพื่อเตรียมนัดวันทำนิติกรรมสัญญาและจำนอง
- ทำสัญญากู้เงินและสัญญาจดจำนองหากคุณได้รับอนุมัติสินเชื่อ ธนาคารจะนัดหมายคุณเพื่อทำสัญญากู้เงิน สัญญาจดจำนอง ณ สำนักงานที่ดินในเขตท้องที่ที่โฉนดที่ดิน หรือหลักประกันจดทะเบียนไว้ กรณีมีผู้กู้ร่วม หรือผู้ค้ำประกัน ผู้กู้และผู้กู้ร่วมทุกคนจะต้องร่วมลงนามในสัญญาทุกฉบับ คุณควรเตรียมค่าใช้จ่าย ได้แก่ ค่าธรรมเนียมโอน ค่าธรรมเนียมจดจำนอง ค่าอากรแสตมป์มาในวันทำสัญญา โดยเจ้าหน้าที่ธนาคารจะแจ้งให้ทราบอีกครั้งในวันที่นัดหมาย
เอกสารสำหรับผู้กู้ทุกประเภท
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน/บัตรข้าราชการ
- สำเนาใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ (กรณีประกอบวิชาชีพเฉพาะ)
- สำเนาทะเบียนบ้าน
- สำเนาทะเบียนสมรส/ใบหย่า/ใบมรณะบัตรของคู่สมรส (ถ้ามี)
- ใบเปลี่ยนชื่อ-สกุล (ทุกใบ)
เอกสารแสดงรายได้ กรณีผู้กู้/ผู้กู้ร่วมเป็นพนักงานหรือข้าราชการ
- ต้นฉบับหนังสือรับรองเงินเดือน (ไม่เกิน 3 เดือน)
- ต้นฉบับสลิปเงินเดือนล่าสุด และสำเนาบัญชีเงินฝากธนาคารที่รับเงินเดือน
- สำเนาแบบแสดงรายการภาษีเงินได้ประจำปี (กรณีรับเงินเดือนเป็นเงินสด)
เอกสารแสดงรายได้ กรณีผู้กู้/ผู้กู้ร่วมเป็นเจ้าของกิจการ
- สำเนาเอกสารการจดทะเบียนบริษัท (ทะเบียนพาณิชย์/การค้า/หนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล/ทะเบียนผู้ถือหุ้น) (ไม่เกิน 3 เดือน)
- สำเนาทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (ไม่เกิน 3 เดือน)
- สำเนาบัญชีธนาคารที่แสดงกระแสการเงินของบริษัท เช่น บัญชีเงินฝากสะสมทรัพย์ บัญชีเงินฝากกระแสรายวัน วงเงินเบิกเกินบัญชี เป็นต้น ย้อนหลัง 6 เดือน
- งบการเงินปีล่าสุด หรือสำเนารายการแสดงภาษีเงินได้ประจำปี ปีล่าสุด
เอกสารหลักประกันในการขอสินเชื่อ
- สำเนาโฉนดที่ดิน/สำเนาเอกสารกรรมสิทธิ์ห้องชุด
- สำเนาเอกสารสัญญาจะซื้อจะขาย
- เอกสารหลักฐานการชำระเงินดาวน์
- แผนที่แสดงที่ตั้งหลักประกัน
เอกสารหลักประกันในการขอสินเชื่อ (เพิ่มเติมกรณีปลูกสร้าง/ต่อเติม/ซ่อมแซมที่อยู่อาศัย)
- สำเนาใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร/ปรับปรุงอาคาร
- สำเนาพิมพ์เขียว (แบบแปลนก่อสร้าง)
- สำเนาสัญญาว่าจ้างระหว่างผู้รับเหมาก่อสร้างและผู้ขอสินเชื่อ
เอกสารหลักประกันในการขอสินเชื่อ (เพิ่มเติมกรณีรีไฟแนนซ์)
- สำเนาสัญญาจำนอง และข้อตกลงต่อท้ายสัญญาจำนอง
- สำเนาสัญญากู้เงิน
- สำเนาใบเสร็จการผ่อนชำระหนี้ย้อนหลัง 3 เดือน
เอกสารแสดงฐานะทางการเงินและภาระหนี้สิน
- สำเนาบัญชีเงินฝากธนาคารแสดงรายการย้อนหลัง 6 เดือน
- สำเนาหลักฐานแสดงกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินอื่นๆ เช่น โฉนดที่ดิน ห้องชุด พันธบัตร ใบหุ้น เอกสารสัญญาแสดงสิทธิการเช่า ฯลฯ
- สำเนาสัญญากู้ยืมเงิน/สัญญาเช่าซื้อ/สัญญาจำนอง และเอกสารหลักฐานการชำระหนี้ในรอบ 6 เดือนที่ผ่านมา
ค่าธรรมเนียมเเละค่าใช้จ่ายในการขอสินเชื่อ
ค่าใช้จ่ายอื่นๆ
ผู้ซื้อบ้านควรเตรียมค่าใช้จ่ายต่างๆ ดังต่อไปนี้
ค่าใช้จ่ายสำหรับซื้อบ้าน
- เงินมัดจำที่จะชำระในวันทำสัญญาจะซื้อจะขาย
- เงินดาวน์
- ค่านายหน้า (ถ้ามี)
- ค่าใช้จ่ายในการขนย้าย
- ค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่ทนายความต้องชำระเพื่อดำเนินการแทน (เช่น ค่าธรรมเนียมในการขอตรวจสอบเอกสารหรือหลักฐานจากสำนักงานที่ดิน หรือกระทรวงพาณิชย์ ค่าจดทะเบียน ค่าถ่ายเอกสาร เป็นต้น)
ค่าใช้จ่ายสำหรับธนาคาร
- ค่าอากรแสตมป์
- ค่าธรรมเนียมในการประเมินหลักประกัน
ค่าธรรมเนียมสำหรับการจดทะเบียนที่สำนักงานที่ดิน
- ค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์ 2% ของราคาประเมิน
- ค่าธรรมเนียมการจดจำนอง 1% ของมูลจำนอง
เบี้ยประกันภัย
- เบี้ยประกันอัคคีภัย
- เบี้ยประกันคุ้มครองเครดิตโฮมเฟิสต์ (บริษัทประกันจะรับภาระสินเชื่อแทนในกรณีผู้ซื้อเสียชีวิตหรือทุพลภาพ)
สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ >> ธนาคารกรุงเทพ
รายละเอียดสินเชื่อธนาคารต่างๆ ส