8 วิธีดูแลบ้านบุรีรัมย์ หน้าฝน ไม่ให้โทรม ไม่ชื้น อยู่สบายทั้งครอบครัว

เข้าสู่ช่วงฤดูฝน ที่มีฝนตกชุกในจังหวัดบุรีรัมย์ทุกวัน แม้อากาศจะเย็นสบาย ในฤดูนี้ก็อาจทำให้บ้านของเราเผชิญกับสารพัดปัญหา ทั้งผนังรั่วซึม พื้นบ้านชื้น เฟอร์นิเจอร์บวม หรือกลิ่นอับสะสม ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนทำให้บ้านของเรา “โทรมเร็ว” กว่าที่ควร แต่ปัญหาเหล่านี้สามารถป้องกันได้ง่าย ๆ ถ้าเราใส่ใจดูแลบ้านตั้งแต่เนิ่น ๆ

วันนี้ “น้องบุรีรัมย์น่าอยู่” จะพาทุกคนมาดู 8 วิธีดูแลบ้านบุรีรัมย์ ที่ทำได้จริงในชีวิตประจำวัน เพื่อให้บ้านอยู่ได้นาน และที่สำคัญคือทำให้ บ้านบุรีรัมย์ ไม่ชื้น แม้ในช่วงหน้าฝน

ทำไมหน้าฝนคือช่วงทดสอบความแข็งแรงของบ้านบุรีรัมย์?

หน้าฝนในจังหวัดบุรีรัมย์ไม่ได้มีแค่สายฝนปรอยๆให้ชุ่มฉ่ำ ส่วนใหญ่มักมาจากมรสุมหรือพายุซึ่งนอกจากเกิดปัญหาน้ำท่วมในหลายพื้นที่ ยังพ่วงเอาหลายปัญหาที่ซ่อนอยู่ในบ้านให้โผล่มาอย่างไม่ทันตั้งตัว

ถ้าเราไม่เตรียมการล่วงหน้า บ้านก็เหมือนกับคนที่ไม่ได้ใส่เสื้อกันฝน มีโอกาสโทรมและพังได้อย่างรวดเร็วโดยที่เราไม่รู้ตัว ดังนั้น เพื่อให้บ้านอยู่ได้อย่างยาวนาน น่าอยู่ และปลอดภัยตลอดฤดูฝน มาลองดู 8 วิธีดูแลบ้านบุรีรัมย์ หน้าฝน ไม่ให้โทรม ไม่ชื้น กันเลยค่ะ

8 วิธีดูแลบ้านบุรีรัมย์ หน้าฝน ไม่ให้โทรม ไม่ชื้น

การดูแลบ้านในหน้าฝนไม่ใช่เรื่องยาก หากเรารู้จุดเสี่ยงและป้องกันไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ ทั้งการตรวจเช็กหลังคา อุดรอยรั่ว ดูแลเฟอร์นิเจอร์ไม้ ไปจนถึงการจัดการสวนรอบบ้าน ทุกวิธีล้วนช่วยลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้จริง มาดูกันเลยว่าฤดูฝนนี้ เราควรตรวจเช็กส่วนไหนภายในบ้านบ้าง!

วิธีที่ 1: ตรวจเช็กหลังคาและรางน้ำ

วิธีดูแลบ้านบุรีรัมย์ ควรเริ่มจากการดูหลังคา ซึ่งเปรียบเสมือนร่มเงาหลักของบ้าน ถ้าหลังคาแข็งแรง บ้านก็อยู่สบายแม้ฝนตกหนัก แต่ปัญหาที่พบบ่อยคือ “รอยแตกเล็ก ๆ ที่มองไม่เห็น” เมื่อเวลาผ่านไป น้ำฝนก็ไหลซึมเข้าไปในเพดานทีละน้อย

จนวันหนึ่งอาจรู้เมื่อเห็นคราบน้ำเหลืองบนฝ้า การตรวจเช็กหลังคาควรทำอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง โดยเฉพาะก่อนเข้าฤดูฝน วิธีง่าย ๆ คือขึ้นไปสังเกตว่ามีกระเบื้องที่หลุด แตก หรือแผ่นที่วางเหลื่อมกันไม่สนิทหรือไม่ หากเจอรอยรั่ว ควรซ่อมทันที เพราะการแก้ตั้งแต่ต้นจะถูกกว่าปล่อยจนเพดานพังทั้งแผง

ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นถ้าไม่ทำ: เพดานจะเริ่มมีรอยคราบน้ำ จากนั้นฝ้าเพดานจะบวมและเปื่อยจนเป็นที่อยู่ของเชื้อราดำ กลายเป็นแหล่งสะสมความอับชื้นและส่งผลเสียต่อสุขภาพคนในบ้านโดยตรง หรืออาจกลายเป็นที่ยู่าศัยของสัตว์ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อโครงสร้างบ้านหลักในอนาคต

บ้านบุรีรัมย์ ไม่ชื้นด้วยการล้างรางน้ำ นอกจากหลังคา รางน้ำก็สำคัญไม่แพ้กัน บ้านในบุรีรัมย์ส่วนใหญ่ มีต้นไม้รอบบ้าน ทำให้ใบไม้และฝุ่นปลิวลงไปอุดตันในรางน้ำโดยไม่รู้ตัว หากไม่เคยล้างรางน้ำเลย น้ำฝนที่ตกหนักจะเอ่อจนไหลย้อนเข้ามาตามผนังบ้าน วิธีที่ดีที่สุดคือหมั่นทำความสะอาดรางน้ำอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง หรือติดตั้งตะแกรงกันใบไม้ตรงปากรางน้ำ เพื่อป้องกันการอุดตันในระยะยาว

ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นถ้าไม่ทำ: น้ำจะล้นออกจากราง กลายเป็นสายน้ำที่ไหลตามผนัง ทำให้ผนังด้านนอกเกิดคราบดำที่ล้างไม่ออก ความชื้นจะค่อย ๆ ซึมเข้าด้านใน จนผนังห้องมีกลิ่นอับและเกิดเชื้อราตามมาในที่สุด

Tips เสริม: ถ้าใครไม่สะดวกปีนขึ้นไปล้างเอง แนะนำให้ใช้บริการทำความสะอาดรางน้ำ ราคามักไม่สูงเมื่อเทียบกับการซ่อมผนังหรือเปลี่ยนฝ้าใหม่ทั้งแถบ

วิธีที่ 2: อุดรอยรั่ว ปิดช่องโหว่บ้าน

วิธีดูแลบ้านบุรีรัมย์ หน้าฝนขั้นต่อไปคือควรกันน้ำเข้าบ้าน ด้วยการซีลประตูหน้าต่าง เพราะหน้าต่างและประตูคือช่องทางที่ลมและน้ำฝนมักสาดเข้ามาโดยตรง โดยเฉพาะบ้านในบุรีรัมย์ที่หันหน้ารับลมตะวันตกเฉียงใต้ เวลาฝนตกหนักจึงมักมีน้ำเล็ดรอดเข้ามา วิธีแก้ง่าย ๆ แต่ได้ผลคือใช้ซิลิโคนกันน้ำอุดรอยต่อรอบกรอบหน้าต่างและประตู หากบ้านเป็นบ้านไม้หรืออะลูมิเนียมที่มีการหดขยายตามอุณหภูมิ ก็ควรตรวจซ้ำปีละครั้ง เพราะร่องอาจเปิดกว้างขึ้นเรื่อย ๆ

ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นถ้าไม่ทำ: พื้นบริเวณใกล้หน้าต่างจะเปียกทุกครั้งที่ฝนตก สะสมจนพื้นไม้พองเป็นคลื่น หรือถ้าเป็นปูนก็เกิดเชื้อราดำและกลิ่นอับติดถาวร

บ้านบุรีรัมย์ ไม่ชื้นด้วยการทาสีกันซึม ผนังบ้านด้านนอกคือพื้นที่ที่โดนฝนสาดทุกปี ยิ่งถ้าเป็นบ้านปูนเก่า สีที่เคยทาไว้จะเริ่มเสื่อมสภาพ ทำให้เกิดรอยแตกร้าวเล็ก ๆ ที่ตาเปล่าแทบมองไม่เห็น การทาสีกันซึมถือเป็นการลงทุนที่ช่วยยืดอายุผนังได้หลายปี สีกันซึมคุณภาพดีสามารถป้องกันน้ำซึมและยังช่วยให้ผนังดูใหม่เสมอ

ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นถ้าไม่ทำ: ผนังจะเต็มไปด้วยคราบน้ำสีน้ำตาลและดำ แถมยังลอกเป็นแผ่น ๆ ทำให้บ้านดูเก่าทั้งที่อายุไม่กี่ปี

Tips เสริม: สำหรับบ้านที่อยู่ในเขตเมือง ควรเลือกสีกันซึมหรือกันแดดกันฝนที่มีคุณสมบัติกันเชื้อราและต้านทานความชื้นสูง

วิธีที่ 3: ดูแลเฟอร์นิเจอร์ไม้

หากบ้านของคุณส่วนใหญ่เป็นไม้ ควรใช้ วิธีดูแลบ้านบุรีรัมย์ ด้วยการเคลือบน้ำยากันชื้น เนื่องจากไม้เป็นวัสดุที่ให้ความอบอุ่น สวยงาม แต่ก็เป็นศัตรูกับความชื้นโดยตรง เจ้าของบ้านที่มีเฟอร์นิเจอร์ไม้ เช่น โต๊ะ ตู้ เตียง หรือชั้นวาง ควรหมั่นเคลือบด้วยน้ำยากันชื้นหรือแว็กซ์ป้องกันน้ำอย่างน้อยปีละ 1–2 ครั้ง การทำแบบนี้ช่วยให้เนื้อไม้ไม่ดูดซับน้ำเร็วเกินไป

ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นถ้าไม่ทำ: หากเฟอร์นิเจอร์บวม เช่น โต๊ะไม้บวมจนวางของไม่ได้ ตู้เสื้อผ้าไม้ปิดไม่สนิท และพื้นผิวมีคราบเชื้อราสีขาวที่ลบออกยาก

บ้านบุรีรัมย์ ไม่ชื้นด้วยวิธีการจัดบ้านให้โปร่ง หากบ้านของคุณมีเฟอร์นิเจอร์ไม้ ไม่ควรวางชิดติดผนัง เพราะผนังด้านนอกมักชื้นในหน้าฝน การเว้นระยะห่างเล็กน้อยช่วยให้อากาศหมุนเวียนได้ดีกว่า และถ้าสามารถเปิดบ้านให้อากาศผ่านเข้าออกวันละเล็กน้อย ก็จะยิ่งช่วยลดการสะสมของความชื้น

ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นถ้าไม่ทำ: เชื้อราจะขึ้นที่ด้านหลังเฟอร์นิเจอร์เป็นดวง ๆ และกลายเป็นแหล่งเพาะไรฝุ่นที่ส่งผลต่อสุขภาพในระยะยาว

Tips เสริม: วางถุงดูดความชื้นเล็ก ๆ ในตู้ไม้ก็ช่วยได้ แถมราคาไม่แพง หาซื้อง่ายตามร้านทั่วไป

วิธีที่ 4: จัดการความชื้นในบ้าน

วิธีดูแลบ้านบุรีรัมย์ด้วยการเปิดบ้านให้ลมผ่าน ความชื้นในบ้านมักเกิดจากการปิดทึบตลอดเวลา การเปิดประตูหน้าต่างวันละ 30 นาทีในวันที่ฝนหยุด จะช่วยให้อากาศถ่ายเทและแดดฆ่าเชื้อโรคในบ้าน วิธีนี้ง่ายแต่เห็นผลชัด โดยเฉพาะห้องนอนและห้องน้ำที่มักอับชื้นเป็นพิเศษ

ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นถ้าไม่ทำ: ห้องนอนจะเริ่มมีกลิ่นอับติดผ้าปูที่นอนและหมอน จนการนอนกลายเป็นเรื่องไม่สบาย

บ้านบุรีรัมย์ ไม่ชื้นด้วยการใช้สารดูดความชื้น การใช้ถ่านไม้ก้อนเล็ก ๆ หรือสารดูดความชื้นตามซองที่หาซื้อได้ทั่วไป ช่วยลดกลิ่นอับได้จริง ควรวางไว้ในตู้เสื้อผ้า ห้องเก็บของ หรือมุมห้องที่ไม่ค่อยมีอากาศถ่ายเท

ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นถ้าไม่ทำ: เสื้อผ้าในตู้จะขึ้นราเป็นจุด ๆ และมีกลิ่นเหม็นจนไม่กล้าใส่ออกไปข้างนอก

Tips เสริม: ใครอยากได้วิธีธรรมชาติ ลองวางเปลือกส้มตากแห้งหรือสมุนไพรอบแห้ง เช่น กานพลู ก็ช่วยดูดกลิ่นและลดความชื้นได้เช่นกัน

วิธีที่ 5: ดูแลระบบไฟฟ้า

หากคุณเป็นกังวลเรื่องระบบไฟฟ้า วิธีดูแลบ้านบุรีรัมย์ ในหน้าฝนสามารถเลือกใช้ปลั๊กที่มีกล่งกันน้ำ โดยหน้าฝนคือช่วงที่ไฟรั่วง่ายที่สุด โดยเฉพาะบ้านที่ปลั๊กไฟอยู่ใกล้ประตูหน้าต่างหรือระเบียง ควรใช้ปลั๊กที่มีฝาปิดกันน้ำเพื่อป้องกันอันตรายจากไฟดูดและไฟฟ้าลัดวงจร

ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นถ้าไม่ทำ: หากฝนสาดเข้ามาโดนปลั๊กโดยตรง อาจเกิดอันตรายจนทำให้บ้านไฟดับทั้งหลัง หรือแย่กว่านั้นอาจลุกไหม้ได้

บ้านบุรีรัมย์ ไม่ชื้น เครื่องใช้ไฟฟ้าอยู่ได้นานขึ้น นอกจากปลั๊กแล้ว ควรดูแลเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านด้วย เช่น เช็ดทีวี พัดลม หรือเครื่องเสียงให้แห้ง ไม่ควรวางเครื่องใช้ไฟฟ้าในมุมที่อับชื้น

ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นถ้าไม่ทำ: ความชื้นสะสมทำให้วงจรอิเล็กทรอนิกส์เสื่อมสภาพเร็ว เครื่องใช้ไฟฟ้าเสียก่อนเวลาอันควร

Tips เสริม: ใช้สารกันชื้นแบบซองเล็ก ๆ วางไว้ใกล้เครื่องใช้ไฟฟ้า หรือใช้ซิลิโคนซีลขอบปลั๊กเพิ่มก็ช่วยเพิ่มความปลอดภัยได้อีกระดับ

วิธีที่ 6: ดูแลสวนและพื้นที่รอบบ้าน

ในบ้านที่ว่าสำคัญ พื้นที่รอบบ้านก็จำเป็นเช่นกัน วิธีดูแลบ้านบุรีรัมย์ด้วยการจัดการน้ำรอบบ้าน พื้นรอบบ้านควรมีการปรับระดับให้มีทางน้ำไหลออก ไม่ควรปล่อยให้น้ำท่วมขังนานเกินไป เพราะน้ำที่ซึมลงดินอาจกัดกร่อนฐานรากของบ้าน

ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นถ้าไม่ทำ: ฐานรากของบ้านจะทรุดทีละน้อย เมื่อเวลาผ่านไปอาจทำให้ผนังร้าวหรือประตูปิดไม่สนิท

บ้านบุรีรัมย์ ไม่ชื้น ด้วยการดูแลต้นไม้ การตัดแต่งกิ่งไม้ใหญ่ช่วยลดความเสี่ยงกิ่งหักใส่บ้านเวลาลมแรง และยังช่วยให้แสงแดดส่องถึงดิน ลดการสะสมความชื้นรอบบ้าน

ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นถ้าไม่ทำ: ต้นไม้รกชื้นจนกลายเป็นแหล่งยุงและแมลง แถมยังเพิ่มโอกาสกิ่งไม้หักใส่บ้านตอนพายุฝนมาเยือน

Tips เสริม: ถ้าบ้านอยู่ชานเมือง ลองปลูกหญ้าที่ดูแลง่ายอย่างหญ้าเบอร์มิวด้า จะช่วยซับน้ำและทำให้พื้นรอบบ้านไม่แฉะ

วิธีที่ 7: ทำความสะอาดบ้านหลังฝนตก

แม้จะผ่านฤดูฝนไปแล้ว เราก็ควรดูแลบ้านให้ถูกวิธี โดย วิธีดูแลบ้านบุรีรัมย์ หลังหน้าฝน สามารถทำได้ด้วยการเช็ดคราบน้ำฝน ตามผนังและพื้นบ้านที่เปียก เพราะคราบน้ำที่ปล่อยไว้นานจะกลายเป็นคราบฝังแน่น

ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นถ้าไม่ทำ: ผนังด้านในจะมีคราบด่างเป็นเส้น ๆ ที่ลบไม่ออก ทำให้บ้านดูเก่าโทรมเร็วมาก

บ้านบุรีรัมย์ ไม่ชื้นด้วยการซักสิ่งทอ สิ่งทออย่างผ้าม่าน พรม และผ้าคลุมโซฟามักเก็บความชื้นได้ดี เราจึงควรถอดมาซักบ่อยให้ขึ้นในช่วงหน้าฝนเพื่อป้องกันกลิ่นอับ

ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นถ้าไม่ทำ: พรมจะมีกลิ่นเหม็นชื้นและกลายเป็นแหล่งเพาะไรฝุ่น เสี่ยงทำให้คนในบ้านแพ้ฝุ่นและหายใจไม่สะดวก

Tips เสริม: ใช้น้ำส้มสายชูผสมน้ำเล็กน้อยฉีดบนพรมหรือผ้าม่านก่อนซัก จะช่วยฆ่าเชื้อราและลดกลิ่นอับได้ดี

วิธีที่ 8: ใช้เทคโนโลยีช่วยดูแลบ้าน

การทำความสะอาดจะง่ายและสะดวกขึ้นเมื่อเรามีผู้ช่วย และ วิธีดูแลบ้านบุรีรัมย์ด้วยเทคโนโลยี เช่น เครื่องลดความชื้น เหมาะมากโดยเฉพาะกับบ้านที่มีห้องปิดทึบ หรือใช้เครื่องปรับอากาศบ่อย ๆ การตั้งเครื่องลดความชื้นในห้องนอนจะช่วยให้อากาศสดชื่น และยังมีหุ่นยนต์ดูดฝุ่นที่สามารถช่วยเช็ดพื้นหรือคราบน้ำได้โดยไม่ต้องเสี่ยงอุบัติเหตุลื่นล้ม ทำให้คนในครบครัวปลอดภัยมากขึ้น

ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นถ้าไม่ทำ: แม้เปิดพัดลมหรือแอร์ทั้งวัน บ้านก็ยังอับชื้น มีกลิ่นไม่พึงประสงค์ และเสี่ยงต่อการเกิดเชื้อราในห้องนอน

บ้านบุรีรัมย์ ไม่ชื้นด้วยนวัตกรรมใหม่ นอกจากเครื่องใช้ไฟฟ้าแล้ว ปัจจุบันยังมีนวัตกรรมบ้าน เช่น สีทาผนังแบบนาโนกันน้ำ วัสดุปูหลังคาที่กันรั่วซึมได้ หรือแผ่นผนังสำเร็จรูปที่ช่วยลดความชื้น

ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นถ้าไม่ทำ: บ้านที่ใช้วัสดุทั่วไปอาจต้องซ่อมบ่อยและเสียเงินซ้ำซ้อนในระยะยาว

Tips เสริม: ใครที่เพิ่งสร้างบ้านใหม่ในบุรีรัมย์ แนะนำให้เลือกวัสดุที่กันความชื้นตั้งแต่แรก แม้ราคาสูงกว่าเล็กน้อย แต่คุ้มค่าในระยะยาวแน่นอน

บทสรุป

การดูแลบ้านบุรีรัมย์หน้าฝนไม่ใช่เรื่องยุ่งยากเกินไป แต่ต้องทำอย่างสม่ำเสมอและรอบคอบ และทั้ง 8 วิธีดูแลบ้านบุรีรัมย์ ที่เล่ามา ตั้งแต่ตรวจหลังคา อุดรอยรั่ว ดูแลเฟอร์นิเจอร์ไม้ จัดการความชื้น ไปจนถึงการใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ ล้วนช่วยป้องกันปัญหาที่มาพร้อมกับฝนได้จริง

โดยเคล็ดลับที่สำคัญที่สุดคือ ทำให้บ้านบุรีรัมย์ ไม่ชื้น เพราะเมื่อบ้านไม่ชื้น ก็จะไม่โทรม ไม่เกิดเชื้อรา และไม่มีกลิ่นอับ บ้านก็พร้อมให้ครอบครัวอยู่สบายไปได้อีกนาน

บทความที่น่าสนใจ

บุรีรัมย์น่าอยู่ เว็บไซต์อสังหาฯ ที่รวมทุกเรื่องที่อยู่ของคนบุรีรัมย์ ค้นหาบ้าน ทรัพย์มือสอง บริการรับสร้างบ้าน บริการเช่าหอพัก และ ที่ดินทำเลดี ได้จากลิงค์ด้านล่างเลยค่า 👍

➡) หาบ้านบุรีรัมย์โครงการใหม่ คลิก
➡) หาบริษัทรับสร้างบ้าน ต่อเติม รีโนเวท คลิก
➡) หาบ้านมือสอง บ้านพร้อมอยู่ ทำเลดี คลิก
➡) ที่ดินเปล่า ที่ดินเกษตร จ.บุรีรัมย์ คลิก
➡) หาหอพัก/บ้านเช่า คลิก
➡) ทดลองคำนวณวงเงินกู้สินเชื่อบ้าน คลิก

ช่องทางการติดต่อ

▪️ Facebook : บุรีรัมย์น่าอยู่
▪️ Line official : @buriramnayoo
▪️ Tiktok : บุรีรัมย์น่าอยู่
▪️ Instagram : @buriram.nayoo
▪️ YouTube : บุรีรัมย์น่าอยู่
▪️ TEL : 092-254-1846 / 080-010-4116